เป็นเวลาหลายสิบปีที่นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์สันนิษฐานว่าดาวพลูโตไม่น่าจะมีมหาสมุทร เนื่องจากอุณหภูมิพื้นผิวอยู่ที่ราว –220 องศาเซลเซียส เย็นจัดแม้กระทั่งก๊าซอย่างไนโตรเจนและมีเทนก็แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง จึงตัดน้ำออกไปได้เลย ทว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหลายคน ได้รวบรวมหลักฐานที่บ่งชี้ว่าดาวพลูโตน่าจะมีมหาสมุทรที่มีน้ำเป็นของเหลวอยู่ใต้ผิวน้ำแข็ง การคาดคะเนมาจากหลักฐานหลายประการ รวมถึงภูเขาไฟเย็นยวดยิ่ง (cryovolcano) หลายลูกบนพลูโต ที่พ่นน้ำแข็งและไอน้ำออกมาการจะสำรวจมหาสมุทรของดาวเคราะห์แคระดวงนี้อาจทำได้ยาก แต่เมื่อเร็วๆนี้ นักวิทยาศาสตร์โลก สิ่งแวดล้อม และดาวเคราะห์ จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา เผยว่า ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์และรูปภาพจากยานอวกาศนิว ฮอไรซันส์ ที่บินผ่านดาวพลูโตในปี 2558 มองหามหาสมุทรบนดาวพลูโตได้ใกล้ชิด พบว่ารอยแตกและนูนในน้ำแข็งที่ปกคลุมแอ่งสปุตนิกพลาตินาของดาวพลูโตเป็นบริเวณมีดาวตกใส่เมื่อหลายพันล้านปีก่อน มีมหาสมุทรในบริเวณนี้อยู่ใต้เปลือกน้ำแข็งที่มีความหนา 40-80 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเกราะที่อาจป้องกันไม่ให้มหาสมุทรภายในแข็งตัวนอกจากนี้ยังประเมินว่ามหาสมุทรของดาวพลูโตมีความหนาแน่นหรือความเค็มมากกว่าน้ำทะเลบนโลกมากที่สุดราว 8% หรือไม่ต่างกับเกรท ซอลต์ เลค ในรัฐยูทาห์ สหรัฐฯ ดังนั้น หากเราตกลงไปในมหาสมุทรดาวพลูโตได้ ก็ลอยตัวได้สบายๆ ทั้งนี้ นักวิจัยระบุว่าพลูโตน่าจะสูญเสียความร้อนเกือบทั้งหมดไปไม่นานหลังจากที่ก่อตัวขึ้น การคำนวณเบื้องต้นได้ชี้ให้เห็นว่ามันแข็งตัวจนแข็งถึงแกนกลาง.Credit : NASAอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่