เมื่อ 15 พ.ค. นายลอว์เรนซ์ หว่อง วัย 51 ปี อดีตรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และ รมว.คลัง ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์คนที่ 4 อย่างเป็นทางการ หลังได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคกิจประชาชน (PAP) ให้ดำรงตำแหน่งผู้นำสิงคโปร์ต่อจากนายลี เซียนลุง วัย 72 ปี ผู้กุมบังเหียนประเทศมานานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม นายลีจะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีอาวุโสของสิงคโปร์ ทั้งนี้ นายหว่องยังเป็นผู้นำคนที่ 2 ที่ไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลลี ซึ่งปกครองสิงคโปร์มานานราว 60 ปีสำหรับนายหว่องจบการศึกษาในระดับปริญญาโทจากสหรัฐฯ ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการพลเรือนก่อนหันหน้าเข้าสู่เวทีการเมืองในปี พ.ศ.2554 ยังได้รับความสนใจอย่างมากครั้นเมื่อปฏิบัติหน้าที่ในคณะทำงานรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นายหว่องยังเป็น 1 ในกลุ่มผู้นำรุ่นที่ 4 นักการเมืองรุ่นใหม่ที่พรรคพีเอพีไว้วางใจเป็นผู้นำประเทศ อย่างไรก็ตาม นายพริทาม ซิงห์ หัวหน้าฝ่ายค้านจากพรรคแรงงานระบุว่า นายหว่องขึ้นแท่นผู้นำในช่วงเวลาอันท้าทายของสิงคโปร์ ทั้งสภาพแวดล้อมภายนอกที่ไม่แน่นอนและคาดเดาไม่ได้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประเทศ ส่วนนายโดนัลด์ โลว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกงชี้ว่า นายหว่องค่อนข้างมีความอนุรักษนิยม ชอบการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่