เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจําประเทศไทยจัดการ แสดง “ราตรีแห่งวัฒนธรรมอินโดนีเซีย” (Indo nesian Cultural Night) ณ โรงละครเคแบงก์ สยามพิฆเนศ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ให้ผู้ชมชาวไทยและต่างชาติได้ตื่นตาตื่นใจกับความงามของวัฒนธรรมของอินโดนีเซียที่มีความแตกต่างหลากหลาย แต่ก็มีความคล้ายคลึงใกล้เคียงกับศิลปวัฒนธรรมของบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคใต้ของประเทศ เพื่อโอกาสทำความรู้จักและเข้าใจกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นรากฐานของความร่วมมืออันดีต่อไป นอกเหนือจากกิจกรรมส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน“ราตรีแห่งวัฒนธรรมอินโดนีเซีย” ประกอบด้วยการแสดง 9 ชนิด เริ่มต้นด้วย ราซา ซายาเง (Rasa Sayange) เพลงพื้นบ้านจากจังหวัดมาลูกู ต่อด้วยบัมบางัน คากิล (Bambangan Cakil Dance) เรื่องราวมหากาพย์มหาภารตะ ละครนาฏศิลป์ของชาวเกาะชวาโดยเฉพาะในชวากลาง สัญลักษณ์ของการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ที่ต้องการชี้ว่าสุดท้ายความดีย่อมมีชัยชนะเหนือความชั่วร้าย จากนั้นต่อด้วยการแสดง “มูทิอารา นูซันตารา” (Mutiara Nusantara) แสดงถึงความหลากหลายของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอินโดนีเซีย ผสมผสานความงามของการเคลื่อนไหวอันสง่างามเข้ากับความแข็งแกร่งของปันจักสีลัตผ่านโดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐยอกยาการ์ตาส่วนการแสดงไฮไลต์ที่เรียกเสียงฮือฮาได้เนืองแน่นหนีไม่พ้นการขึ้นเวทีของนายระห์หมัด บูดีมัน (HE. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทยที่นอกจากจะครวญเพลงอินโดนีเซียพร้อมโชว์สเต็ปเบาๆ ท่านยังเลือกเพลงยามเย็น เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขับกล่อมผู้ฟังอย่างน่าประทับใจ ขณะที่การแสดง“มาลังเรอ็อก โปโนโรโก” (Reog Ponorogo Dance) ที่หาชมไม่ยากนักซึ่งได้นักแสดงบินตรงมาจากเมืองมาลัง เกาะชวา ปิดค่ำคืนวัฒนธรรมอินโดนีเซียอย่างงดงาม.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ "หน้าต่างโลก" เพิ่มเติม
