ประเทศจีนนอกจากจะเป็นมิตรอันเก่าแก่กับประเทศไทยแล้ว ยังเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอีกด้วยแม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็มิได้ถดถอย ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศชี้ว่า มูลค่าการค้า 5 เดือนแรกของปีนี้สูงถึง 44,621 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนโดยสิ่งที่เรานำเข้าจากจีนหลักๆเลยคือ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล ไปจนถึงแผงวงจร เคมีภัณฑ์ สถิติปี 2564 คิดเป็นมูลค่านำเข้า 66,546 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.39 ล้านล้านบาทส่วนเรื่อง “ส่งออก” หลักๆเลยคือ ผลไม้สด ผลไม้แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ตามด้วยเม็ดพลาสติก คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ คิดเป็นมูลค่าส่งออก 37,204 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.33 ล้านล้านบาทตรงจุดนี้เห็นชัดเจนว่า ไทยมีความ “ขาดดุล” เนื่องจากเรานำเข้ามากกว่าส่งออก แต่กรณีนี้ยังจำได้ เคยมีอดีตรัฐมนตรีชิลีพูดตอนมาเปิดตลาดไทยไว้อย่างน่าประทับใจเมื่อนานมาแล้วว่า “การค้าระหว่างประเทศไม่ได้ดูที่เรื่องตัวเลขอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องดูว่าใครมากกว่าใคร เพราะถึงตัวเลขส่งออกของเรายังน้อย แต่หากสร้างความรับรู้ สร้างความเชื่อใจในโปรดักส์ของเราได้ คุณค่าที่เกิดขึ้นก็ย่อมเป็นผลดีต่อประเทศชาติ”เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวน่ายินดีชิ้นหนึ่งว่า หลังจากผ่านไป 6 ปี การประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย-จีน ก็หวนกลับมาอีกครั้ง โดยเป็นการเจรจาระหว่างนายหลี่ เฟย กับนายสินิตย์ เลิศไกร มีการหารือความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆ ชวนจีนมาลงทุน โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก “EEC” ขณะที่จีนขอให้ไทยสนับสนุนระเบียงการค้าทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ของจีน “การท่องเที่ยว” เตรียมความพร้อมในการเดินทางหลังสถานการณ์โควิด-19 นำเทคโนโลยีมาใช้สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวที่สำคัญ จีนได้รับปากพร้อมให้การสนับสนุน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือลงรายละเอียดเพิ่มเติมแล้ว ในเรื่องที่ไทยขอผลักดันคือ 1.เปิดตลาดสินค้าไทยไปจีน รังนก โคเนื้อมีชีวิต อินทผลัม สละ และเสาวรสสีม่วง 2.เร่งสร้างลานตรวจสอบสินค้าผลไม้ที่ด่านรถไฟโม่ฮาน จุดเชื่อมต่อรถไฟ-ลาวจีน ช่วยระบายการจราจรแออัดที่ด่านโหยวอี้กวน ด่านหลักในการนำเข้าผลไม้ทางบกจากไทยพร้อมด้วยความหวังว่า การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันจะลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.ตุ๊ ปากเกร็ด