รัฐบาลจีนเริ่มนั่งเก้าอี้ไม่ติดถึงกับประกาศอนุญาตให้คู่สามีภรรยาสามารถมีบุตรได้ 3 คน หลังในฐานะแชมป์ประชากรมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 1.4 พันล้านคน อาจถูกอินเดียแซงในอีก 5 ปีข้างหน้า เพราะอัตราการเกิดที่ต่ำสุดในรอบทศวรรษ สวนกับประชากรวัย 65 ปี เพิ่มมากขึ้น ทั้งที่มีการปฎิรูปนโยบายครอบครัวเมื่อปี 2559 เปลี่ยนจากลูกโทนมาเป็นนโยบายลูกสองคนเทียบให้ดูจากสัดส่วนคนวัยทำงานอายุต่ำกว่า 60 ปีลดจาก 70.1% ของเมื่อ 10 ปีก่อนเป็น 63.3% ส่วนคนวัย 65 ปีขึ้นไป กลับเพิ่มจาก 8.9% เป็น 13.5%หากเป็นเช่นนี้เรื่อยไปก็ถือว่าอันตรายกับวัยแรงงานที่ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นปัญหาชวนท้าทายเหมือนประเทศเศรษฐกิจอื่นๆในเอเชีย รวมไทยที่ว่าโตขึ้นจะรวยก่อน หรือแก่ก่อนหรือเปล่า?ผลสะท้อนถึงเหตุผลยก ตย. นางเยว หยาน อายุ 35 ปี ที่มีลูกสาว 2 คน อายุ 2 ขวบ กับ 10 ขวบ ต้องลาออกจากงานร้านอาหารเพื่อมีเวลาเลี้ยงลูก ครอบครัวอาศัยแต่รายได้ของสามีเพียงลำพัง แม้เป็นความกดดันแต่เธอก็มีความสุขยังมีหลายคู่ที่อยากมีลูก แต่สารพันปัญหาที่คิดแล้วไม่คุ้ม ทั้งขนาดอพาร์ตเมนต์ที่คับแคบ แล้วยังมีพ่อแม่ต้องรับเลี้ยงมาอยู่ด้วย ค่าเลี้ยงลูกก็แพง แถมวันลาคลอดก็น้อยทนายคนหนึ่งในกรุงปักกิ่งที่บอกแต่ชื่อสกุลว่านายจาง เผยว่า เขากับภรรยาวางแผนจะมีลูกแค่คนเดียวเพราะค่าเล่าเรียนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่าของทั้งคู่ “รัฐบาลควรช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคู่สามีภรรยา ถ้าให้พวกเขาต้องเลี้ยงทั้งลูกและต้องดูแลพ่อแม่ไปด้วยนั้น ไม่มีใครทำได้หรอก”ปัญหานี้ดูเหมือนยังไปไม่ถึงหูรัฐบาล เพราะมีแต่การถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าจะให้คงจำนวนคนทำงานด้วยการเพิ่มวัยเกษียณราชการของผู้ชาย 60 ปี กับผู้หญิงทำงานเอกชน 55 ปี และสาวโรงงานอายุ 50 ปี ซึ่งทางสำนักข่าวซินหัวรายงานว่าได้ข้อสรุปให้เพิ่มวัยเกษียณแล้วแต่กลับไม่เปิดเผยรายละเอียด?!?...ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ