จะเข้าใจบทความวันนี้ได้ดีขึ้น ต้องขอให้ท่านตามเรื่อง “ผ.น.ง. ที่ทำให้เศรษฐกิจพัง” ที่ผมเขียนรับใช้ไปเมื่อวาน เอาละครับ วันนี้มาว่ากันต่อครับ พ.ศ.2472 เศรษฐกิจสหรัฐฯพังแล้ว ประธานาธิบดีฮูเวอร์เริ่มตกใจ แต่ก็ยังไม่ยอมช่วยประชาชนโดยตรง ยังไปทำโครงการนั่น โครงการนี่ ใช้เงินเกือบ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯสร้างเขื่อนโบลเดอร์ (ตอนหลังเรียกเขื่อนฮูเวอร์) โดยเชื่อว่าจะทำให้คนมีงานทำ แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯปักหัวดิ่งด่ำเกินกว่าที่จะโงได้ฮูเวอร์ก็หาวิธีใหม่ ไปขอให้เกษตรกรปลูกพืชให้น้อยลงเพื่อจะให้มีผลิตผลทางการเกษตรน้อย เมื่อมีของน้อยราคาก็สูง แต่ก็ยังไม่ได้ผลอีก แกจึงตั้ง Federal Farm Marketing Board หรือคณะกรรมการตลาดการเกษตรกลาง เพื่อจะหาตลาดให้เกษตรกร ทว่า อ้า ก็แป้กอีกทั้งรัฐทั้งคนลนลานด้วยความกลัวขั้นสูง ฮูเวอร์จึงให้บรรษัทฟื้นฟูการเงินปล่อยเงินกู้ฉุกเฉิน บรรษัทนี้ตั้งขึ้นเพื่อปล่อยเงินกู้ให้ธนาคาร บริษัทรถไฟ และอุตสาหกรรมอื่น เพื่อนำไปฟื้นฟูกิจการ แต่ก็แป้กอีก เศรษฐกิจสหรัฐฯดิ่งเหว ผู้คนเริ่มถูกยึดบ้านและที่ดินทำกินกันแล้ว ฮูเวอร์เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ฟังคำแนะนำของใคร ฮูเวอร์กับทรัมป์มีนิสัยเหมือนกันในเรื่องนี้ แถมยังมาจากพรรครีพับลิกัน เหมือนกันอีก ตอนนั้นสมาชิกสภาคองเกรสเริ่มตะโกนด่าว่าความช่วยเหลือของฮูเวอร์มาช้า และมาไม่มากพอที่จะแก้ไขปัญหาได้สภาศึกษาละเอียดแล้วพบว่า ถ้าจะหยุดเลือดไม่ให้ไหล ภายใน 5 ปี รัฐต้องปล่อยเงินกู้ให้ได้ 4 หมื่นล้านดอลล์ เงิน 4 หมื่นล้านดอลล์ เมื่อ 90 ปีก่อนเป็นเงินมากมายมหาศาล แต่ฝีมือของคนของฮูเวอร์ที่ดูแลบรรษัทฟื้นฟูการเงินฯ ทำงานไม่เป็น ปล่อยเงินกู้ไปได้เพียง 2 พันล้านดอลล์ โครงการนี้ก็แป้กและไร้ประโยชน์แทนที่จะทำงานหนัก ฮูเวอร์กลับจับไมค์ด่าสมาชิกรัฐสภาที่มาจากพรรคเด็มโมแครต ว่าไอ้บ้าพวกนี่มันขัดขวางโครงการต่างๆของผม มันต้องการให้เศรษฐกิจสหรัฐฯแย่ เพื่อจะให้คนมารุมด่าผม ไอ้พวกนี้อยากให้คนไปเทคะแนนให้พรรคเด็มโมแครตในเลือกตั้งครั้งต่อไปฮูเวอร์เป็นประธานาธิบดีระหว่าง พ.ศ. 2472-2475 ธนาคารล้มไปมากกว่า 7,300 แห่ง รายได้ประชาชาติลดจาก 8.1 หมื่นล้าน เหลือ 4.1 หมื่นล้านดอลล์ ธุรกิจเจ๊งมากกว่า 8.5 หมื่นราย มีการสำรวจทันทีที่พ้นยุคฮูเวอร์ พบว่าคนอเมริกันตกงานมากกว่า 15 ล้านคน การมี ผ.น.ง. เพียงสมัยเดียว 4 ปี ทำให้มหาเศรษฐีกลายเป็นยาจก และเศรษฐีธรรมดากลายเป็นขอทานมีคนทำนายทายว่าทรัมป์จะมีชะตากรรมเหมือนฮูเวอร์ การเลือกตั้งประธานาธิบดีใน พ.ศ.2475 รีพับลิกันแพ้ผู้สมัครจากพรรคเด็มโมแครตอย่างถล่มทลาย คนอเมริกันได้ประธานาธิบดีคนใหม่ที่มีชื่อว่าแฟรงกลิน เดลาโน รูสเวลต์รูสเวลต์หาเสียงโดยบอกจะเอานโยบาย 3 Rs มาใช้ คือ Relief (บรรเทาทุกข์) Recovery (ฟื้นฟู) และ Reform (ปฏิรูป) จะเอาโครงการนิวดีลมาใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่รอรูสเวลต์สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ฮูเวอร์เป็นประธานาธิบดีรักษาการ คนก็ยังกลัวแกถึงขนาดแห่ไปถอนเงิน จนธนาคารคุมสถานการณ์ไม่อยู่รูสเวลต์รับตำแหน่งได้ 2 วัน ก็สั่งให้ธนาคารทั่วประเทศหยุดทำการ 2 สัปดาห์ พอทำงานถึงวันที่ 3 ก็ขอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อผ่านร่าง พ.ร.บ. ฉุกเฉินเพื่อการฟื้นฟูธนาคาร ธนาคารใดมั่นคงให้ดำเนินการต่อ ที่ไม่มั่นคงให้เอาเงินกู้ไปฟื้นฟูกิจการ ที่บริหารงานเละตุ้มเป๊ะและมีหนี้สินล้นพ้นตัวให้ปิดถาวร ต่อมา เมื่อปิดธนาคารไปได้ร้อยละ 10 ก็หยุดวิกฤติธนาคารได้หนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯลงเหวในครั้งนั้นมาจากวิกฤติศรัทธาในตัวผู้นำ คนอเมริกันเลือกผู้นำบ้าที่เอาแต่ใจตัวเอง เป็นผู้นำโม้รายวัน แถมรังแกประเทศอื่นด้วยการขึ้นภาษี ขาเข้าสูงปรี๊ดจนทำให้สหรัฐฯไร้ญาติขาดมิตรว่าจะเขียนซะให้จบในวันนี้ ไม่จบครับ ต้องมาว่าตอนสุดท้ายกันต่อในวันพรุ่งนี้ครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com