เรียนรับใช้ไปเมื่อวานแล้วนะครับว่า ‘จังหวัดปาปัว’ และ ‘จังหวัดปาปัวตะวันตก’ ของสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นคนละเรื่องกับประเทศหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า ‘รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี’ ที่มีเมืองหลวงชื่อกรุงพอร์ต-มอร์สบี ประเทศนี้มีทรัพยากรมากแต่ยังไม่ได้รับการพัฒนา เคยเป็นดินแดนภายใต้การดูแลของออสเตรเลีย ประกอบด้วยดินแดนปาปัวและดินแดนทรัสต์เทร์ริทอรีแห่งนิวกินีจนถึง พ.ศ.2518 จึงได้รับเอกราชกินีในย่อหน้าข้างบน เป็นคนละเรื่องกับ Republic of Guinea สาธารณรัฐกินี ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก อีกประเทศหนึ่งก็มีชื่อ Guinea ไปประกอบด้วยเหมือนกัน คือ สาธารณรัฐกินี-บิสเซา (Guinea-Bissau) อยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ติดกับสาธารณรัฐกินีและสาธารณรัฐเซเนกัลสาธารณรัฐอินโดนีเซียระแวงรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี เพราะผู้คนในอีเรียนจายาหรือปาปัวตะวันตก เคยลุกขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลอินโดนีเซียและอยากจะเอาดินแดนของตัวเองไปรวมกับรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีที่อยู่ติดกัน แล้วตั้งชื่อใหม่เป็น ‘สหพันธรัฐปาปัวนิวกินี’ผู้นำขบวนการปาปัวอิสระ (OPM) จำนวนมากถูกสังหารหรือถูกขับออกไปนอกประเทศ การต่อสู้ของคนพื้นเมืองปาปัวไม่ค่อยประสบความสำเร็จเพราะการต่อสู้ไม่เป็นเอกภาพ มีพวกชนเผ่าเยอะ บางเผ่าต้องการ A บางเผ่าต้องการ B บางเผ่าต้องการ C บางเผ่าบอกเราต้องตั้งประเทศเอกราชชาติใหม่ชื่อว่า ‘สาธารณรัฐปาปัวตะวันตก’ บางเผ่าบอกต้องตั้งประเทศใหม่เป็น ‘สาธารณรัฐเมลานีเซียตะวันตก’แนวร่วมปฏิวัติแห่งติมอร์ตะวันออกอิสระหรือเฟรติลินตั้งขึ้นมาในเวลาใกล้เคียงกันกับขบวนการปาปัวอิสระ ทั้ง 2 กลุ่มนี้แม้จะอยู่คนละจังหวัด แต่มีจุดประสงค์ที่ต้องการแยกจังหวัดของตัวเองออกจากอินโดนีเซียเหมือนกัน ทว่าเฟรติลินประสบความสำเร็จแยกจังหวัดติมอร์ตะวันออกออกมาเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่ได้อย่างเป็นทางการเมื่อ 20 พฤษภาคม 2545 (ซานานา กุสเมา ผู้นำสูงสุดของเฟรติลินซึ่งเป็นชาวคริสต์ได้เป็นประธานาธิบดี และมาร์ อัลคาติรี ผู้นำเฟรติลินที่เป็นมุสลิมเป็นนายกรัฐมนตรี)ขบวนการปาปัวอิสระโดนโยนความชั่วใส่หลายครั้ง (ซึ่งทำจริงหรือเปล่าไม่ทราบ) จึงทำงานไม่ค่อยสำเร็จ เพราะภาพลักษณ์เสียหาย อย่างใน พ.ศ.2539 มีการจับประชาชน 26 คนไปเป็นตัวประกัน และมีคนอินโดนีเซีย 2 คนถูกฆ่า พวก OPM ก็บอกว่าทหารอินโดนีเซียที่เป็นกองกำลังพิเศษสร้างสถานการณ์ กองทัพอินโดนีเซียก็กล่าวหาว่าพวก OPM ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการฆ่า ทรมาน และจับตัวประกันมีตัวละครที่อยู่เบื้องหลังที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ในวงการข่าวลับคิดว่ากลุ่มนี้สร้างสถานการณ์เพื่อโยนความผิดให้กับทั้งสองฝ่ายคือ กิจการเหมืองแร่ฟรีพอร์ตแม็กมอแรนของสหรัฐฯ ที่มาโกยทรัพยากรเหมืองแร่และทำให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมากในปาปัวตะวันตกสมาชิกขบวนการปาปัวอิสระต่อสู้จนอ่อนเปลี้ยเพลียแรง โดนกระหน่ำซ้ำเติมทั้งจากพวกทำเหมืองแร่และจากทหารอินโดนีเซีย จึงหนีเข้าไปอยู่ในรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีเป็นหมื่นๆคน กลับมาเมื่อใดก็โดนกำจัดเมื่อนั้นตอนที่ประธานาธิบดีซูฮาร์โตหมดอำนาจในเดือนพฤษภาคม 2541 พวกปาปัวอิสระก็ออกมาเดินขบวนและปะทะรุนแรงกับทหารอินโดนีเซียในนครชัยปุระ เมืองเอกของจังหวัดปาปัว และเมื่อ พ.ศ.2542 เมื่อคนติมอร์ตะวันออกออกเสียงลงประชามติแยกประเทศได้ พวกขบวนการอิสระเป็นหมื่นคนก็ออกมาเดินขบวนเพื่อจะเลียนแบบติมอร์ตะวันออก มีการชักธง OPM ขึ้นสู่ยอดเสาทั่วไปในนครชัยปุระ จัดตั้งสมัชชาประชาชนและลงมติให้ปาปัวตะวันตกเป็นเอกราชแต่รัฐบาลอินโดนีเซียไม่ยอม และลดกระแสความกดดันด้วยการออกกฎหมายพิเศษว่าด้วยการปกครองตนเองใน พ.ศ.2544 ขณะเดียวกันก็ตั้งขบวนการลับจัดการพวกที่ต่อต้านอินโดนีเซียการประท้วงของประชาชนคนปาปัวเกิดขึ้นตลอดเวลา ทว่าไม่ค่อยมีพลัง ที่เห็นว่ามีพลังของแท้จริงๆ ก็คือการออกมาประท้วงของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี และลามปามไปจนถึง 30 เมือง ที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ครั้งนี้ละครับ ที่มีคนวิเคราะห์กันว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีเอกราชชาติใหม่เกิดขึ้น หากรัฐบาลอินโดนีเซียแก้ไขสถานการณ์ได้ไม่ดี.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comข่าวที่เกี่ยวข้อง :เรื่องยุ่งที่ปาปัว (1)เรื่องยุ่งที่ปาปัว (2)