สาดหล่อไฟลุกทะลุจอ สำหรับ ภูมิ–เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ พระเอกสายบู๊จากละคร “ภูเขาเงาพยัคฆ์” ทางช่อง 7HD ประกบคู่ พระพาย-รมิดา เคมีเคใจลงตัว กับเรื่องราวกำลังเดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย “คนดังนั่งคุย” วีกนี้เลยชวนหนุ่ม ภูมิ มาเปลือยใจ ที่เจ้าตัวยอมเล่าความลับมีปัญหาสุขภาพเป็น “หมอนรองกระดูกเสื่อม” ที่ไม่ค่อยบอกใครๆ มาก่อน ยิ่งเป็นความรักโสด แต่ไม่เหงาบู๊เรื่องนี้ถูกอกถูกใจขนาดไหน“ยอมรับตรงๆ บู๊เรื่องนี้หินมาก มิติเยอะ อารมณ์ค่อนข้างยาก หนักสุดคือบู๊แต่เล่นจริงๆหนักดราม่าด้วย เพราะฉะนั้นหนักเป็นทวีคูณ”เป็นแนวบู๊เราถนัดอยู่แล้วไม่น่ายากมั้ง“ก็ต้องฝึกซ้อมเอาท่าที่เราถนัดเพราะเรื่องนี้เน้นบู๊เรียลๆ ตีกันบ้านๆ แบบ 50 ปีก่อน ยอมรับมีเหนื่อยบ้างเพราะเราสู้กันตั้งแต่เช้าจดเย็นเหมือนกัน”กังวลมั้ยเพราะเป็นบู๊สไตล์พี่เวอร์ (โอริเวอร์ บีเวอร์) บู๊จริงเจ็บจริง“จริงๆ แอบเสียวๆ เหมือนกันแต่ภูมิมีเตี๊ยมกับทีมสตันต์อยู่แล้วเพราะมีปัญหาร่างกายตรงไหนบ้าง อะไรที่ตรงไหนที่ภูมิรับได้ หรือรับไม่ได้ก็มีบอกเขา ภูมิเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม กระดูกสันหลังข้อล่าง เป็นตั้งแต่อายุ 15-16 แล้วมั้งครับ”เกิดอะไรขึ้นถึงเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม“คือตอนนั้น สูงเร็ว บวกกับยกของผิดท่าก็เลยเจ็บมาตลอด ตั้งแต่ ม.3 ถ้าภูมิจำไม่ผิดนะ”พอเรามีปัญหาสุขภาพส่งผลกับการเล่นบู๊ขนาดไหน“ให้พูดกันตามตรงว่าส่งผลต่อชีวิตประจำวันอยู่แล้วเพียงแต่เราออกกำลังกายให้มันอยู่ในท่วงท่าที่เราสามารถรับได้ อยู่กับมันให้ได้ ใช้ชีวิตให้เป็นปกติ แต่ตอนแอ็กชันเราจะต้องระมัดระวัง อย่ากระแทกเยอะ ไม่ให้หลังไปกระแทก ส่วนไหนป้องกันได้ก็ป้องกัน”เวลาเล่นบู๊ๆไปมีลืมตัวบ้างมั้ย“มีครับ กลับบ้านปวดไปเหมือนกัน เราพยายามเซฟให้มากที่สุด เวลาบู๊ๆ มันก็มันเนอะ อะดรีนาลินมันหลั่งไปบ้างก็ลืมตัว มาหนักอีกทีตอนกลับบ้าน ตอนเล่นเราเต็มที่เพราะอยากให้ภาพออกมาสวยเต็มที่ไปเลย ป๋าบุ๋ม ผกก.จะคอยถามตลอดว่าถนัดมั้ยภูมิ ถ้าไม่ถนัดบอกจะได้เปลี่ยน”หลายๆคนไม่รู้เรามีปัญหาเรื่องนี้เลย“ใช่ครับ คนไม่ค่อยรู้เพราะภูมิจะไม่ได้มาบอกว่าภูมิเจ็บนะ ไม่อยากไปป่าวประกาศอะไรเพราะเราก็อยากทำงานเต็มที่แต่ในส่วนที่ทำงานบู๊กับทีมสตันต์ก็จะบอกเค้าไว้ แต่ก็ไม่ได้เป็นจุดบอดที่ทำให้เราทำงานยาก ถามภูมิ จริงๆเป็นส่วนดีที่ทำให้ทุกคนระวังตัวบาดเจ็บ” กับการร่วมงานกับพระพาย ก่อนร่วมงานกันเราจินตนาการในหัวยังไงบ้าง“สบายใจครับ เขาดูเป็นผู้หญิงสวย น่ารัก ดูไฮโซ ดูมีความบอบบาง ตัวก็เล็กแล้วมาเล่นบู๊เหรอ? เขาจะไหวหรือเปล่า โอเคตามบทเน้นฉลาด ไหวพริบดี พอมาร่วมงานกันจริงๆ เป็นเหมือนภาพที่เราเห็นเลย และเป็นคนที่คุยด้วยง่าย ได้อินสไปร์หลายๆอย่างจากเค้า แลกเปลี่ยนหลายอย่างจากเขาเหมือนกัน จะเป็นมุมชีวิต ตัวเขาเองมีเรื่องทำธุรกิจด้วย เราก็มีการพูดคุย มันเป็นส่วนหนึ่งในการละลายพฤติกรรมได้ด้วยเหมือนกัน นั่งรอเข้าฉากนานๆ ก็ลองคุย”มีความเกร็งกันมั้ยช่วงแรกๆ“ส่วนตัวภูมิไม่ได้เกร็งนะ มีการละลายพฤติกรรมกันก่อน แล้วภูมิไม่ได้เรียกเขาว่าพี่นะ พอไปใช้คำนี้มีเส้นบางๆ อย่างมันนี่ก็โตกว่า ภูมิจะถามก่อนเลยว่าไม่เรียกพี่ได้มั้ย เขาบอกว่าได้ ก็เรียกบ้างไม่ได้เรียกบ้าง แต่เวลาทำงานก็จะไม่เรียก ที่ต้องถามเพราะบางคนไม่โอเคบางคนไม่รู้สึกชอบ ทำไมปีนเกลียวล่ะ ก็มี ภูมิถามตรงๆ ได้มั้ยจับรีแอ็กว่า...ได้แบบเต็มใจหรืออึกอัก ซึ่งนางเอกที่ร่วมงานมาทุกคนชอบนะ ไม่อยากให้เรียกพี่ อย่างชิงชิงเรียกพี่ไม่ได้นะ เขาก็จะไม่ยอมเลย” เวลาเล่นฉากมุ้งมิ้งกับพระพายมีแอบเกรงใจมั้ยเพราะเขาก็มีแฟน แฟนอาจจะหวงก็ได้“ยอมรับจริงๆ ภูมิไม่ค่อยรู้ว่าคนที่ภูมิเล่นด้วยใครมีแฟนหรือไม่มีแฟน ภูมิไม่รู้เลยไม่เสพเรื่องพวกนี้และไม่ได้อยากรู้ด้วย เป็นเรื่องของเขา ใครจะมีแฟนไม่มีแฟนหรือเลิกกันก็เป็นเรื่องของเรา จะรู้เป็นคนท้ายๆ พระพายมีแฟนพอรู้มาบ้างแต่ก็ไม่เกร็ง เพราะเป็นเรื่องของงาน เค้าเป็นคนทำงานเต็มที่นะไม่ได้มีตะขิดตะขวงตรงไหนเลย เขาก็มืออาชีพเหมือนกัน เล่นจริงจูบจริงครับ”ลุคเราดูเป็นแนวสนุกสนานเฮฮา แต่บางมุมเหมือนมีโลกส่วนตัว ถึงขั้นเป็นมนุษย์อินโทรเวิร์ตหรือเปล่า“พอสมควรครับ (หัวเราะ) ไม่ค่อยอยากใช้คำว่าอินโทรเวิร์ต รู้สึกเราแบ่งแยกเกินไปหรือเปล่า เราไม่ได้พูดเองคนรอบตัวเริ่มพูดกันเยอะว่าเราเป็นอินโทรเวิร์ต แต่ภูมิยืนยันยังชอบเจอเพื่อน ชอบมาทำงาน แต่ขึ้นรถกลับบ้านอยากอยู่คนเดียวแล้ว พ่อขับรถให้ก็ไม่ได้อะไรกับใคร พอกลับบ้านก็อยู่แต่ในห้องตัวเองไม่ได้คุยกับใครเลย ตื่นเช้ามากินกาแฟ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ภูมิสามารถใช้ชีวิตวนลูปแบบนี้ได้อย่างมีความสุข แทบไม่ได้ไปเที่ยวเลย”เราเป็นประเภทดองแชตเพื่อนด้วยหรือเปล่า“ผมชอบโทร.คุยไม่ค่อยชอบพิมพ์แชตเท่าไหร่ บางทีคนแชตมาไม่อยากตอบ รู้สึกว่าการพิมพ์ความรู้สึกมันจะด้าน”คนที่ชอบโทร. คุยมากกว่าพิมพ์จะเป็นคนยุค 80–90มากกว่านะ“ภูมิว่าแปลก เมื่อก่อนมีเพจเจอร์ส่งข้อความ ไฮโซแล้ว แล้วมีโทร.ได้สะดวกพอมาสมัยนี้กลับมาพิมพ์กันอีกแล้ว ภูมิพิมพ์ในเรื่องที่ไม่สำคัญมาก พิมพ์ทิ้งไว้ มีอะไรจะอยากโทร.คุยกันมากกว่า ยกหูคุยเลยเป็นที่รู้จัก”ความรักล่ะยังไงมีสุ่มๆ คบมั้ย“ไม่มีครับ ผมไม่ได้ปิดตัวเองนะ ถ้ามีก็อยากจะเปิดแหละ ตัวภูมิเอง ณ ตอนนี้ค่อนข้างเอนจอยกับการใช้ชีวิตคนเดียว ถ้าเกิดมีคนอื่นเข้ามาทำให้ดีกว่าก็ดี เพียงแต่ตอนนี้ภูมิเอนจอยกับชีวิตคนเดียวได้ รู้สึกสบายตัว ทำอะไรคล่องตัวไปหมด”มีเข้าตาหรือว่าเรากำแพงกั้นยังไว้ก่อน“น่าจะไม่มีกำแพงนะ เพียงแต่ชั่วโมงนี้ภูมิทำงานจะไม่มองเลย อะไรที่ส่งผลกระทบกับงานจะตัดทิ้งไป สมมติมีแฟนโทร.ตามไม่รับสายก็เป็นปัญหา ช่วงนี้เราว่างๆ ถามว่ามีมองคนสวยๆมั้ย? ก็มี มองสวย น่ารัก ถามว่าอยากได้เป็นแฟนมั้ยก็เปล่า เราไม่ได้อยากได้เป็นแฟน”แอบเหงามั้ย“ไม่เหงานะ แปลกมั้ย? ภูมิมีพ่อแม่ มีเพื่อน มีน้อง ก็คุยกันได้ไม่ต้องมายึดติดจะต้องเป็นแฟนเท่านั้น”โสดมานานขนาดไหน“นานมาก...ก (ทำท่านึก) จำไม่ได้แล้ว หลายปีมากแล้ว ก่อนเข้าวงการก็ไม่มีแฟน อาจจะเป็นเพราะเราเป็นอินโทรเวิร์ต มีความสุขกับตัวเองแค่เราไม่รู้ตัวเฉยๆ”พอโสดนานๆ ไม่ยอมมีแฟน ที่บ้านมีสงสัย ตั้งคำถามกับเรามั้ย“ภูมิคุยกับที่บ้านตลอดเลยว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรเพราะว่าเรามองเป็นเซฟโซนที่สุดของเราแล้ว ไม่น่ามีคุยกับใครแล้วปลอดภัยไปกว่านี้เพราะแม่หรือญาติๆทุกคนให้ใจเราจริงๆ เขาก็เข้าใจเราเป็นคนแบบนี้ ช่วงป่วยโควิดแฮปปี้นะ พูดไม่ได้ด้วยนะไอตลอด นั่งอยู่แค่ในห้องไม่เจอใคร เราก็ดูหนัง ฟังเพลง อยู่ได้ มีความสุข มันอาจจะแล้วแต่คน เราไม่ต้องตามเทรนด์ต้องมีแฟน แต่ไม่ได้แอนตี้มีแฟน มองเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำถ้าใครจะมีแฟน มีเพื่อนให้คุยให้ปรึกษาได้ มันดีเพียงแต่ไม่มีก็ไม่ผิด”สเปกมีเปลี่ยนแปลงจากวัยรุ่นขนาดไหน“เคยมีคนบอกว่าเด็กสเปกแบบนี้โตมาก็ดรอปเอง มันไม่เพอร์เฟกต์ขนาดนั้นแต่ยิ่งอยู่มาจะมีสักคนมาวุ่นวายก็หาดีๆไปเลย หลักๆ นิสัยมากๆเลย”แบบนี้เจอคุยถูกใจแต่งงานเลยมั้ย“ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกเพราะว่าจริงๆยืนยันคำเดิมว่าเราเอนจอยกับชีวิตคนเดียวมาก เจอแบบนั้นสักวันคงอีกสักพัก ยังอยากทำงาน ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากทำ”.เรื่อง: วรรณีห่อวโนทยานอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม