ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองในการทำงานครั้งใหญ่ หลังนักแสดงหนุ่มหน้าเข้ม “นัท-อติรุจ สิงหอำพล” เลือกเส้นทางใหม่ โบกมือลาช่อง 7 ที่ผูกพันมายาวนาน ออกมาหาประสบการณ์กับการเป็น “นักแสดงอิสระ” เปลี่ยน มุมมองในการใช้ชีวิตใหม่หลังได้เข้าไปอยู่กับ ธรรมชาติและการทำยูทูบรายการ “นัทเจอโน่นนัท journey” ล่าสุด นัท ได้รับบทบาทสุดท้าทายในละคร “ดวงใจจอมกระบี่” ทางช่องวัน 31 ที่เจ้าตัวเองก็ตื่นเต้น นัท เล่าชีวิตช่วงนี้พร้อมอัปเดตหัวใจเริ่มจาก“เรื่องนี้รับบทหวังหรงเซน พี่ชายของหวังอี้เทียน (ไบร์ท-นรภัทร) ครั้งแรกในชีวิตที่แต่งชุดแบบนี้ตื่นเต้นมากครับ ช่องวันเรียกมาแคสติ้งว่านัทสนมั้ยจะทำละครซีรีส์จีนก็ตอบตกลง พอได้ก็ดีใจ สรุปบทนี้คือเรา เค้าเลือกเราแล้วก็ทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่ ปกติก็เล่นบทบู๊แต่เรื่องนี้บู๊น้อยมาก ไม่มีวิทยายุทธ เราจะใช้สมองคิดวางแผนแค่นั้น ปกติเล่นบู๊มือไม้แขนขาได้ออกตลอดแต่เรื่อง นี้น้อยมาก”ออกมาเป็นนักแสดงอิสระนานแล้วใช่มั้ย? “ประมาณปีครึ่ง เกือบๆ 2 ปีแล้วครับ” ที่ตัดสินใจออกมาเป็นเพราะ ชิงชิง–คริษฐา ยังอยู่ที่ช่องหรือเปล่า เราเลยเลือกที่จะเดินออกมาเอง? “ไม่เกี่ยวครับ คือผมมองว่าผมอายุค่อนข้างเยอะแล้ว อยากจะไปเจอโลกที่มันกว้างขึ้น อยากเจอแพลตฟอร์มที่แปลกใหม่สำหรับตัวผมเอง อยากเจอทีมงาน เจอนักแสดงใหม่ๆ เพราะเราเองก็อยู่ช่อง 7 มานาน 16-17 ปี เราอยากออกไปเจอ หาประสบการณ์ที่แปลก ออกไป ก็มีคนห้ามว่าอย่าไปนะ อยู่แบบนี้ก็มีงานอยู่แล้ว ซึ่งตอนที่ผมตัดสินใจผมก็ยังไม่รู้นะว่าจะมีงานหรือเปล่า ผมออกมาแบบไม่มีงาน แล้วผมก็ไปอยู่ป่าเลย คำตอบคือในป่านั่นแหละว่าจริงๆแล้วตัวผมเองต้องการอะไร ผมทำช่องยูทูบเริ่มจากศูนย์เหมือนกัน ผมเริ่มจากความตั้งใจ จริงจังตรงนี้วันนึงมันประสบความสำเร็จในระดับนึง รู้สึกดีมีกำลังใจกับการที่เราตัดสินใจในวันนั้น ละครเรียกผมไปแคสติ้งผมก็ไปนะ ผมไปมาหลายที่มากเลย ผมมาเล่นช่องวันก็ถือว่าเป็นเด็กใหม่ช่องวันนะ (หัวเราะ) ถ้าผมแบกคำว่าดารา แบกคำว่าชื่อเสียงมา ผมจะไม่สามารถมาแคสติ้งได้ มันติดตรงที่ผมไม่ได้แบกไง ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ๆ เจออะไรใหม่ๆ ทุกคนก็รู้ผมเป็นนักแสดงช่อง 7 พอเรามาแคสต์เค้าก็เปิดใจ กล้าเรียกก็กล้ามา เน็ตฟลิกซ์หนัง ที่ไหนมีแคสต์ผมก็ไปหมด แต่กับช่องวัน ถือว่าเป็นฟรีทีวีที่แรกที่รับผมเล่น เรียกมาแคสต์และจับเล่นเลย ดวงใจจอมกระบี่ก็เป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่มาก แล้วผมได้มาเล่นบทนี้ แสดงว่าต้องมีบันดาลให้ผมเล่นบทนี้”ต้องทลายกำแพงกันยังไงเพราะเราเป็นคนใหม่สำหรับช่องวัน?“ผมทำการบ้านให้ออกมาเป๊ะก่อน ถึงหน้าเซตผู้กำกับอยากได้แบบไหนเราก็ตามเค้า เหมือนเป็นกระดาษ A4 ให้เค้าอยู่แล้วให้เค้าวาดเขียน อย่าไปแบบเต็มร้อย ถ้า ไปร้อยจะไม่มีความสุข ถ้าผมไปศูนย์ เป็นกระดาษ A4 คุณอยากได้แบบไหนก็เติมมาเลย ผมรับได้หมด บทในเรื่องนี้ก็ยากด้วยนะเป็นคำราชาศัพท์ ดีใจที่ผ่านมาได้ เป็นประสบการณ์ใหม่ เราอยากออกมาหาเองใช่มั้ย พอออกมาหาปุ๊บเราต้องเปิดใจว่าจะเจออะไรบ้างในแต่ละวัน”คิดว่าตัดสินใจถูกที่กล้าเดินออกมากล้าเสี่ยง?“ใช่ครับ ไม่ยึดติดดารานักแสดง สบายๆ อายุเยอะแล้ว”จุดตรงไหนที่ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองการทำงาน การใช้ชีวิต?“ผมว่าการที่ผมเอาชีวิตตัวเองไปอยู่กับธรรมชาติมากๆ มันจะมองเห็นตัวเอง ภาพเก่าๆวันแรกที่เราเข้ามาวงการบันเทิง จากวันนั้นถึงวันนี้ถึงเวลาที่มันประมวลผล ทั้งหมดทำอะไรมานัท ผมถึงได้รู้เราชอบอะไรที่ผ่านมาเหมือนหาตัวตนว่าจริงๆเราชอบอะไร อยากทำอะไร เราอายุ 36-37 คิดได้ยังไม่สาย เรายังมีแรง ยังมีสุขภาพที่มันยังดีอยู่ทำไป ลุยไป ชาเลนจ์ตัวเอง”การออกมาเป็นนักแสดงอิสระครั้งนี้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงชีวิตอะไรๆไปหลายอย่างเลยมั้ย? “มันเข้ามารวดเดียวเลยครับจนแบบ สำหรับผมตั้งตัวทันเพราะเตรียมรับมืออยู่แล้ว” ล่าสุดเปิดตัวแฟน เจอกันได้ยังไง? “เจอกันเมื่อปีที่แล้ว เป็นเรื่องปกติของมนุษย์คนเราของคนอายุ 37 จะบอกโสดก็ไม่ได้ ถามว่าใครแนะนำ ไม่ต้องมีใครแนะนำครับ หัวใจแนะนำไปเอง เราเจอกันบนดอยครับ เป็นการท่องเที่ยว ถ้าใครดูช่องผม “นัทเจอโน่นนัทjourney” ก็จะเห็นว่าผมไปเที่ยวคนเดียว ผมไปผจญภัย ผมอยากรู้ว่านอกเหนือชีวิตที่ผมในวงการบันเทิงผมจะเจออะไรบ้าง ออกไปเที่ยว ผมเป็นคนเริ่มทำความรู้จักเค้าก่อน เจอเค้าโดยบังเอิญเลย หลังจากนั้นเราตามไอจี ทักดีเอ็มไป ตอนแรกเค้าไม่รู้ว่าผมเป็นใคร เค้าไม่รู้จักพี่เวียร์-ศุกลวัฒน์ อยู่ต่างประเทศบ่อย ใช่ครับแล้วเค้าก็ไม่ได้ดูละคร ไม่ได้ติดตามข่าวสารวงการบันเทิง ก็จะคบกันครบรอบ 1 ปี เจอกันเดือน ส.ค.นี้ครับ”ตอนนี้เรียกว่าแฟนแล้วถูกมั้ย?“อยากเรียกก็เรียก ไม่เรียกแฟนครับ เรียกที่รัก (หัวเราะ) ถ้ามีโอกาสก็ลงรูปครับเพราะไม่มีอะไรปิดบังอยู่แล้ว ถามว่าคลิปที่เราถ่ายต้องมีเค้าติดมาบ้างหรือเปล่า อยากรู้ต้องไปดูกันครับ นัทเจอโน่นนัทjourney ไปไล่ดูเลยครับผมมีทั้งหมด 62 อีพี”ประทับใจอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ “เค้าเป็นสายท่องเที่ยวเหมือนกัน สายลุย สายเดินป่า มีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว”ตกลงสาวคนนั้น เค้าเป็นใคร? “ผมไม่ค่อยอยากลงรายละเอียดเลย เขาเป็นสายธุรกิจ ชิลๆ สบายๆ”สะดุดอะไรถึงคนนี้เราเข้าไปทำความรู้จักเค้า?“คงเป็นการพูดคุยกันในช่วงเวลานั้นมากกว่า ผมไปตัวคนเดียว เค้าไปกับเพื่อนคนนึง คุยกัน พอคุยไปคุยมาก็รู้สึกว่าเค้าน่ารักเนอะ น่ารักดี เห็นแล้วชอบ แต่ไม่ได้ทำอะไรกลับมากรุงเทพฯก็ดีเอ็มคุยกันในไอจี ก็แลกไอจีกันตอนที่เจอกันเพราะในวงโฮมสเตย์ก็จะคุยกัน ถามไอจีกัน เป็นการแนะนำตัว หลังจากนั้นเค้าก็เลย รู้ว่าผมเป็นใคร”พูดคุยประทับใจจนอยากคุยต่อ ไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดาแล้ว? “เค้าใส่ใจผมนะ เวลาผมจะออกทริปไปไหน ถ้าเค้ารู้ว่าผมจะไปจังหวัดนี้ เค้าก็จะทำการบ้านแล้วว่าจังหวัดนี้มีอะไรบ้าง อันไหนคนไปเยอะแล้ว อันไหนคนยังไม่เคยไป เค้าจะหาข้อมูล ซึ่งไม่ใช่งานของเค้าเลย แต่เค้าทำให้เราเหนื่อยน้อยลง เพราะยูทูบแต่ละคลิปทุกอย่างผมทำคนเดียวหมดทุกขั้นตอน เค้าคอยซัพพอร์ตเรา ดูแลเรื่องนี้ให้เรา” ต้องปรับตัว ขนาดไหนอายุห่างกันถึง 10 ปีมั้ย? “ไม่ถึง 10 ครับ 7-8 ปี ครับ ก็มีปรับตัวกันบ้างเพราะแรกๆเราไม่รู้เค้าเป็นคนยังไง ลองศึกษาดูใจคบกัน ก็โอเคไม่ได้มีอะไร แฮปปี้ เค้ามีมุมเป็นผู้ใหญ่ ผมว่าวุฒิภาวะ เค้าโตกว่าอายุอีกนะ เก่ง ชอบคน เก่งครับ”วันที่เราตัดสินใจลงรูปในไอจีว่าเรามีคนคุยอยู่นะ เค้าว่ายังไงบ้าง? “เค้าก็เฉยๆนะไม่ได้มารู้สึกอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าเป็นยังไง เค้าเขินแหละที่ผมอยากลงเพราะมันเป็นโมเมนต์ที่น่ารัก ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เห็นแค่นี้ ด้านหลังผมว่ามันโอเค เพราะปกติผมไม่ค่อยได้ลงรูปอะไรแบบนี้อยู่แล้ว”ตอนนี้มองไกลๆถึงแต่งงานเลยมั้ยตามเฮียเวียร์ให้ทัน? “ปล่อยเฮียเค้าไปเหอะ ไม่ต้องรีบตามเราก็ขอดูไปเรื่อยๆก่อน”เริ่มมีความรักมองเรื่องแต่งงานมั้ย?“ผมก็คิดนะเพราะผมอายุเยอะแล้ว คิดเหมือนกันวันนึงแต่งงาน มีลูก แต่ไม่ได้เร่งรีบอะไร”พอเห็นความน่ารักลูกของพี่เวียร์ มีผลทำให้เราอยากแต่งมีลูกเองบ้างมั้ย? “ไม่ครับ ผมก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้มีอะไรรุกเร้าใจต้องตามเค้า ต้องมีเมีย อยากแต่งงาน มีลูก ผมมีความรู้สึกยังไม่คิดถึงขั้นตอนการมีลูกยังไม่ได้โฟกัสขนาดนั้นเพราะครอบครัวผมมีน้องสาว 2 คน แล้วลูก 3 ลูก 2 คน ผมก็เป็นคุณลุง พ่อแม่ผมไม่ได้มาเร่ง มาโฟกัส ต้องมีเมีย มีลูกนะ เข้าใจว่านามสกุลก็ต้องมีคนสืบทอด เราต้องคิดมีครอบครัวได้ คิดว่าถึงเวลาก็คงมาเองไม่ช้าก็เร็วจะได้รู้กัน”ก่อนอายุ 40 แน่นอนมั้ย? “เอ้า มันก็แค่ 3-4 ปี แล้วสิ ก็ไม่รู้ครับต้องรอดูต่อไป”.