ทำเอานางเอกสาว น้ำตาล–พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ซาบซึ้งปลื้มใจสุดๆ หลังแฟนหนุ่ม ไผ่–พาทิศ พิสิฐกุล เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา น้ำตาล ได้เห็น ปีติในธรรมถึงขั้นน้ำตาไหล งานนี้เลยต้องถามถึงสเต็ปต่อไป บวชเรียนแล้วจะพร้อมเบียดเลยมั้ย เจอ น้ำตาล บวงสรวงละคร มือปราบมหาอุตม์ ที่ช่อง 3 หนองแขม เลยถามถึง เรื่องที่ไผ่พาทิศไปบวชมา?“ก็เป็นความตั้งใจของเค้ามานานแล้ว แต่เลื่อนมาเรื่อยๆ เพราะเป็นช่วงโควิดด้วย กองละครก็เลยไม่สามารถปิดกล้องได้ รวมๆแล้วที่พี่เค้าไปบวชมาก็ 15 วันค่ะ ความตั้งใจคือเค้าอยากบวชทดแทนพระคุณคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะน้องชายพี่ไผ่ก็บวชไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นช่วงระยะเวลาที่พอเหมาะพอดี ละคร 2 เรื่องปิดกล้องเรียบร้อย ส่วนละครที่รอจะเปิดกล้องเค้าก็รอได้”ได้เห็นพี่ไผ่ในผ้าเหลืองแล้วเป็นยังไงบ้าง? “ดีใจและภูมิใจในตัวเค้าที่ได้บวชทดแทนคุณพ่อแม่ แล้วก็ได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่เราไม่คิดว่าเราจะได้เห็น เพราะวันที่ปลงผม อยู่ดีๆเค้าก็ร้องไห้หนักมาก เราก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่เคยเห็นเค้าร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน แล้วเค้าก็เป็นพระไปแล้วเราก็ไม่กล้าถาม พอสึกเรียบร้อยแล้วก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกว่าตอนนั้นมันปีติตื้นตันมาก เหมือนเค้าหลุดไปเลย ด้วยความที่เป็นผู้ชายแบบเค้าลุยๆเข้าป่าไม่เชื่ออะไร เราก็ไม่คิดว่าเค้าจะเชื่อ ส่วนเราก็ร้องตามเลยค่ะ” ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยเห็นเค้าร้องไห้? “ไม่เคยเลยค่ะ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไหล แต่ร้องๆๆปล่อยออกมาเลย เหมือนเค้าบอกว่าคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงทุกอย่าง กลั้นไม่ได้แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมา ตาลเองก็ขนลุกตอนแรกเค้าก็ยังคุยกับตาลอยู่ว่าไม่รู้ว่าบวชไปแล้วจะซึมซับได้มากน้อยแค่ไหน เพราะมีเวลาแค่ 15 วัน แล้วตอนแรกพี่ไผ่เค้าอยากจะบวชในเมืองและบวชที่วัดป่าด้วย แต่ระยะเวลาไม่พอเลยทำได้เท่านั้น แต่สุดท้ายเค้าบอกว่าเค้าได้อะไรมากกว่าที่เค้าคิด”หลังสึกออกมาเค้าเปลี่ยนไปมั้ย? “เปลี่ยนไป นิ่งขึ้น ทุกวันนี้ก็จะโทร.มาบอกว่าสวดมนต์ก่อนนอน นั่งสมาธิ แล้วก็ชวนเราไปวัด อันนี้คือสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันเป็นมิติใหม่ของไผ่-พาทิศ หนูก็แบบ เริ่ด! ซึ่งเป็นอะไรที่เราอยากให้เป็นมานานแล้ว เค้าเหมือนมาให้ความสำคัญกับพระพุทธ ศาสนามากขึ้น เรียกว่าเป็น นิวไผ่ ค่ะ” เหมือนได้แฟนคนใหม่?“ใช่ค่ะ แฟนใหม่ในร่างเดิม”บวชแล้วเบียดเลยมั้ย?“อุ๊ยตายแล้ว! คำถามนี้แอบกดดันนิดนึง เพราะว่าด้วยระยะเวลามันก็ค่อนข้างนานสิบกว่าปีแล้ว แต่ว่ายังไม่ใช่ภายใน 1-2 ปีนี้ ยอมรับว่ามีคนถามเยอะ เพราะว่ารุ่นๆเราหลายคนแต่งงานไปแล้ว ถึงยังไม่แต่งงานก็ถูกขอแต่งงานแล้ว ทุกคนก็จะถามว่าเรามีแพลนเมื่อไหร่ อันนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันด้วยอะไรหลายอย่างที่เราต้องทำก่อนแต่ง”ถ้าเค้ามาทำเซอร์ไพรส์ล่ะพร้อมมั้ย? “เราก็ต้องหาชุดสวยไปทุกทริป แต่งหน้าทุกวัน” เซ้นส์เริ่มมาบ้างหรือยัง? “ถามว่ามีการพูดคุยกันมั้ย มีค่ะ แต่ยังไม่ใช่ในปีสองปีนี้ ยังมีโปรเจกต์ที่ตาลต้องทำเป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่มากๆอยากทำให้สำเร็จก่อน”กดดันมั้ยคนรอฟังข่าวดีของคู่เราเยอะ? “กดดันมั้ยเหรอ ตอนนี้เริ่มชินแล้วเพราะไปไหนคนก็เริ่มถามว่าเป็นยังไงจะแต่งเมื่อไหร่ หรือเวลาไปเลี้ยงรุ่นก็ไม่ค่อยอยากไปแล้ว รับน้องขึ้นดอยอะไรอย่างเนี้ย คือเมื่อก่อนก็จับมือเพื่อน ตอนนี้เพื่อนจับมือลูก เราจับมือหลาน แล้วด้วยวัยเรามัน 30 กว่าแล้ว แต่เอาจริงๆก็ยังไม่แก่หรอก เราฝากไข่ไว้เรียบร้อยแล้วเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่”ไผ่ล่ะกดดันมั้ย? “ปีนี้เค้าก็ 40 แล้ว บอกว่าปีนี้ซื้อเค้กอย่าปักเทียนนะ เขิน”อะไรที่ทำให้คู่เรายังอยู่กันได้มาถึงวันนี้ ในขณะที่หลายคู่ก็แยกย้ายกันไปแล้ว? “เราว่ามันสนุกเรื่อยๆ ในการคบกันช่วง 1-5 ปีแรกเป็นช่วงที่ทะเลาะกันเยอะ อยู่ในช่วงการปรับตัวเพราะตาลกับพี่ไผ่อายุห่างกันเกือบ 10 ปี เลยมีช่องว่างค่อนข้างเยอะ สิ่งที่ทำให้ยึดมั่นกับผู้ชายคนนี้คือเค้ามีความเสมอต้นเสมอปลาย เป็นคนที่ไม่อารมณ์ร้อนเลย เย็นมากๆ ไม่เคยทิ้งเราเลยไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ พี่ไผ่จะมีกฎอยู่ข้อหนึ่งว่าห้ามโกรธกันเกิน 1 ชั่วโมง ห้ามติดต่อกันไม่ได้ พอมันมีกฎอย่างนี้ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้ถูกทิ้งให้เรารู้สึกแย่นานๆ”.