กลับมาสร้างรอยยิ้มความสุขสุดฟินให้หายคิดถึงกัน สำหรับซุปเปอร์สตาร์ตลอดกาล พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ในปี 2022 เป็นปีแห่งการครบรอบ 36 ปี ในการเป็นศิลปิน-นักร้อง ที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอยไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มใหม่แกะกล่อง BIRD 22 (เบิร์ด ทเวนตี้ทู) อัลบั้มใหม่เต็มรูปแบบ และอีกหนึ่งความสุขของ “พี่เบิร์ด” กับบรรยากาศที่คิดถึง ความสนุกและความประทับใจกับ “คอนเสิร์ต SINGING BIRD 2022 ตอน LIFETIME SOUNDTRACK #โตมากับเพลงพี่เบิร์ด” ได้เปิดการแสดงถึง 3 รอบ วันที่ 11, 12 และ 13 พฤศจิกายน 2565 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี จัดโดย GMM GRAMMY งานนี้ “ทีมข่าวบันเทิงไทยรัฐ” ไม่พลาดที่จะชวน “พี่เบิร์ด” มาพูดคุยถึงผลงานอัลบั้มใหม่ล่าสุด และคอนเสิร์ตที่ทุกคนเฝ้ารอแห่งปี ใน “คนดังนั่งคุย”ช่วงที่ผ่านมา “พี่เบิร์ด” ไปทำอะไรมาบ้าง“พี่เบิร์ดไม่ได้ไปไหนเลย หลังจากโควิดเข้ามาก็อยู่แต่บ้าน ไม่ได้เจอผู้คน ไม่ได้อัดรายการ ไม่ได้อัดเพลง แต่หลังจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็กล้าออก ระหว่างที่หยุดไปพี่เบิร์ดบอกกับทีมงานทุกคนว่า เราไม่ได้เป็นแค่คนเดียว เราเอาเวลาที่โควิดทำให้เราต้องอยู่บ้านมาทบทวนในสิ่งที่เราควรทำในปีต่อๆไป เมื่อโควิดไปแล้วเราจะได้เริ่มทำให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เราคิดหรือให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ตัวเอง หนึ่งในสิ่งที่โควิดให้เรามาคือเวลา เวลาที่เราจะได้กลับมาดูงานของเรา เราทำได้เท่าที่เราควรจะทำหรือเปล่า ใกล้เคียงกับปลายทางไหม ใกล้เคียงกับที่ที่ควรจะเป็นไหม แน่นอนว่าการทำงานก็ต้องมีข้อผิดพลาด แต่เมื่อเรามีเวลามากขึ้นข้อผิดพลาดย่อมน้อยลงจริงไหม? เพราะฉะนั้นเราควรทำงานกันอย่างมีความสุข จริงๆการทำงานทุกวันนี้ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น อย่างโปรแกรมซูมที่ทำให้การทำงานง่ายขึ้น ติดตามทุกอย่างได้เร็วขึ้น” พี่เบิร์ดได้ซุ่มทำเพลงใหม่ๆไหม“ที่ผ่านมาได้ซุ่มทำอัลบั้มใหม่ไม่ได้ทำแค่ซิงเกิล แต่ทีนี้เมื่อมีเดียในโลกของเรามันเปลี่ยน เมื่อก่อนมันมีแค่ช่องทีวีหลักๆ แต่เดี๋ยวนี้มันมีอะไรเยอะแยะไปหมด เราได้เจอน้องๆ กลุ่มใหม่ในการทำงานมากขึ้น ได้ประชุมมากขึ้น ต้องบอกเลยว่าผู้ฟังคนไทยทุกคนเป็นเจ้าของโปรเจกต์ที่แท้จริง พี่เบิร์ดอยากจะให้เจ้านายทุกคนได้เห็นว่าทำเสร็จไปเยอะมากแล้ว เจ้านายใกล้จะได้ดูแล้ว เลยเกิดเป็นอัลบั้ม BIRD 22 (เบิร์ด ทเวนตี้ทู) อย่างเพลง “เพลงที่ไม่มีใครฟัง” และเพลง “มากองรวมกันตรงนี้” ทำในช่วงเวลาทั้งก่อนที่จะเกิดโควิดได้ทำงานในแบบที่ไม่เคยทำ มัน New normal มากๆ โควิดเข้ามามันสอนอะไรหลายอย่าง สอนทั้งเรื่องความสะอาด และยังคืนเวลาให้เราได้ทำอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นด้วยย้อนเวลานิดนึงกับ เพลงที่ไม่มีใครฟัง ที่มาที่ไปของเนื้อหาเพลงนี้คืออะไร“เพลงนี้เขียนมาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว เปรียบความประชดประชันในเรื่องความรัก กว่าจะ develop (ดีเวลลอป) พัฒนาเนื้อเพลงมาเป็นแบบนี้คือเปลี่ยนมาหลายทีแล้ว มันก็เลยเป็นเพลงที่เปรียบเทียบความรักในวันที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพลงเพลงนี้กลายเป็นเพลงที่เราต้องฟังคนเดียว ไม่มีเธอแล้วเพราะเธอไปกับเค้าแล้ว ทีนี้มันแล้วแต่การตีความของแต่ละคน สำหรับการตีความแบบที่รักพี่เบิร์ดมากๆ ก็ตีความตรงๆ คือกลัวว่าจะไม่มีใครฟังเพลงที่พี่เบิร์ดร้อง พี่เบิร์ดเองก็เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ตีความหลายๆ อย่างเหมือนกัน ทั้งเรื่องความรัก เรื่องบทเพลง จริงๆ แล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังแล้วอยากให้รักกันมากขึ้น ความรักมันไม่ควรที่จะจืดจาง ถ้ารักกันแล้วตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ต้องหาเรื่องที่จะรักกันได้เรื่อยๆ ไม่ใช่หาเรื่องที่จะเลิกกันในท่อน “และเพลงนี้ก็เป็นแค่เพียง เป็นเพลงที่ไร้คนรอคอยก็เหมือนแค่เสียงลอยๆไม่มีความหมาย” เห็นได้ว่าเป็นเพลงที่เกี่ยวกับความรักโดยตรง ความรักที่เราให้ไปมันไม่มีความหมาย เหมือนคนที่ถูกมองข้าม พี่เบิร์ดมองว่ามันแปลได้เยอะสำหรับเพลงนี้ มันสามารถที่จะเปรียบเปรยได้หลายๆด้านเลย” ล่าสุดพี่เบิร์ดมาเป็นหัวหน้าเผ่าคนโสดแล้ว“อันนี้เป็นเรื่องจริงจนป่านนี้แล้วก็ไม่มีใคร ไม่ใช่ว่าเราไม่มีคนเดียว ก็ไม่มีกันเกือบค่อนประเทศ เพราะฉะนั้นพี่เบิร์ดว่าเรามากองรวมกันดีกว่า ถึงแม้ว่าจะมีแฟนแล้ว แต่ถ้ารู้สึกไม่ใช่ก็มากองรวมกันได้ มากองรวมกันหมายถึงไม่ต้องมาเจอกันก็ได้ แต่หมายถึงว่าให้เข้าใจคนโสดด้วยกัน แล้วก็เพลงนี้ยังเป็นเพลงที่กองรวมศิลปินเยอะมาก มีบรรดาศิลปินทั้งหลายมาช่วยกัน เพราะว่าต่างก็โสดกัน...จริงๆแล้วจะมีเยอะกว่านี้ที่จะมาร่วมทำเพลง แต่เนื้อที่ของเพลงมันมีแค่นี้ ก็มีศิลปินหลายท่านอย่างที่ทุกคนเห็น แต่พอแสดงสดจริงๆไม่รู้ว่าจะมีมาเพิ่มหรือเปล่า ใครอยากมากองก็มากองรวมกันก็เหมือนกับเพื่อนที่รู้ใจกันมาอยู่ด้วยกัน เรื่องอะไรที่เพื่อนคิดอยู่เรารู้หมดไม่ต้องพูดกัน เหมือนกับพี่เบิร์ดที่อยู่มาถึงตอนนี้ รู้ใจคนไทยว่ามากองรวมกันแล้วจะเป็นประมาณไหน"คอนเสิร์ตของพี่เบิร์ดครั้งนี้ล่ะ“คอนเสิร์ตของพี่เบิร์ดมาแน่นอน เดือนพฤศจิกายน ปลายปีจะเป็นเทศกาลของพี่เบิร์ดอยู่แล้ว แล้วเราก็จะมีความสุขไปด้วยกัน สำหรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ใช้ชื่อว่า คอนเสิร์ต SINGING BIRD 2022 ตอน LIFETIME SOUNDTRACK #โตมากับเพลงพี่เบิร์ด จะเป็นเพลงพี่เบิร์ดมันไปเกี่ยวข้องกับทุกคน ทุกๆอิริยาบถ ทุกช่วงของชีวิตตั้งแต่เรียนหนังสือ อนุบาล ประถม มัธยม เข้ามามหาลัยจนเรียนจบ จนกระทั่งโควิดมาเพลงพี่เบิร์ดก็ยังออกมาให้เห็น ทุกคนล้วนโตมาพร้อมๆกับเพลงพี่เบิร์ด มันชื่นใจมากๆที่วันเวลาเหล่านั้นไม่ได้ถูกลืมเลือนไปเลย เชื่อมั้ยตอนรายการ The Golden Song ออกอากาศไป พี่เบิร์ดถามพี่น้อยว่าจะมีน้องๆช่อง 3 จะดูพี่เบิร์ดไหม แต่หลังจากรายการจบคุณไก่-วรายุฑ โทร.มาบอกว่าได้นัดเจอกับผู้จัดละคร ดารา นักแสดงต่างๆ ซึ่งพวกเค้าดูพี่เบิร์ดแล้วชอบมาก และเดี๋ยวอีกไม่นานพี่เบิร์ดจะกระซิบบอกแฟนเพลงว่าจะไปไหนมาไหนให้ตาหูไวไว้เพราะพี่เบิร์ดกำลังจะมา" ในคอนเสิร์ตจะมีการเล่าเรื่องราวหรือมีเซอร์ไพรส์อะไรให้กับแฟนๆไหม“จะมีเพลงที่ไม่ใช่โชว์แบบพี่เบิร์ดที่เคยเห็น แต่ว่าเป็นโชว์แบบที่ทุกคนชอบแน่นอนแตกต่างจากทุกโชว์ที่เคยแสดง ตั้งแต่วงโดยใช้วงดนตรี “SING ING BIRD SUPER BAND” ซึ่งเป็นการรวมสุดยอดนักดนตรีเพื่องานนี้โดยเฉพาะ โดยมีโหน่ง-วิชญ วัฒนศัพท์ ศิลปินวงเดอะ โฟโต้ สติกเกอร์ แมชชีน และโปรดิวเซอร์ยอดฝีมือของเมืองไทย มาร่วมเป็นมิวสิคไดเรกเตอร์ ของคอนเสิร์ตครั้งนี้อีกด้วย รับรองว่าคุณจะได้รับอรรถรสทางดนตรี ได้มาร้อง มาอิน มาฟินด้วยกัน” ตอนนี้เพลงที่เลือกเล่นในคอนเสิร์ตมีกี่เพลง เชื่อว่าพี่เบิร์ดจะต้องเลือกออกมาได้อย่างกลมกล่อม “ในคอนเสิร์ต SINGING BIRD ครั้งที่ 1 เชื่อไหมว่าพี่เบิร์ดร้องไปทั้งหมด 51 เพลงสด แต่คอนเสิร์ตคราวนี้มีแขกรับเชิญมากมาย รวมถึงพี่เบิร์ดเองก็รอเช่นกัน พี่เบิร์ดจึงเตรียมทุกอย่างไว้ ต้องมีเวลาซ้อม” อยากให้กลุ่มไหนเข้ามาดูเป็นพิเศษไหม? “เข้ามาได้เลยทุกกลุ่มจะใครก็ได้ คนที่เรารักหลายๆ คนไปสวรรค์กันหมดแล้ว ก็เหลือแต่คนดูแล้วที่พี่เบิร์ดอยากจะทำทุกย่างให้เค้าได้มากที่สุด ทำอะไรได้พี่เบิร์ดก็จะทำ อะไรที่ทำให้เรายิ้มได้ เราเรียกมันว่าความสุข”ตอนนี้พี่เบิร์ดเริ่มเข้าวงการโซเชียลมีเดีย มากขึ้น“ก็เพราะด้วยความรักแฟนเพลงและอยากจะสื่อสารให้คนรู้ว่าตอนนี้เป็นยังไง จริงๆมีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่พี่เบิร์ดออกกำลังกายเสร็จ พี่เบิร์ดจะร้องเพลงแบล็กกิ้งแทร็กของทุกๆอัลบั้ม แต่มันมีอยู่เพลงหนึ่งคือเพลงเธอผู้ไม่แพ้ พี่เบิร์ดก็บอกให้พี่น้อยส่งให้ใครก็ได้หลายๆคนเพื่อเป็นการบอกว่าอย่ายอมแพ้นะ หลังจากส่งได้แป๊บเดียวมีคนดู 12 ล้านคน จึงรู้ว่า อ๋อ! มันเป็นแบบนี้นี่เอง แล้วพี่เบิร์ดก็เปิดคลับเฮาส์/Bird Fan Club พอพี่เบิร์ดเริ่มคล่องโซเชียลก็เริ่มไลฟ์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีมาก อย่างการเปิดคลับเฮาส์ พอเราเปิดเราก็ได้ฟังสิ่งที่แฟนๆพูดถึงพี่เบิร์ดแบบสดๆ ปกติพี่เบิร์ดไม่ได้เจอใครเลย เจอแต่นักข่าวทีมงาน นักดนตรีและเจอคนดูแบบทีละเยอะๆ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ได้เจอใครอีก ฉะนั้นเมื่อมีคลับเฮาส์แล้วเราก็ได้ฟังเสียงแฟนๆ รุ่นเด็กพูดถึงพี่เบิร์ดว่าพี่เบิร์ดเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆอย่างไร จนตอนนี้พี่เบิร์ดก็ไปเกือบทุกแพลตฟอร์มทั้งไอจี เฟซบุ๊ก ติ๊กต่อก”พอพี่เบิร์ดเข้าสู่โลกโซเชียลมีเดียแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง แตกต่างจากสมัยก่อนมากมั้ย“โลกมันใกล้ชิดขึ้น ใกล้กับแฟนเพลงมากขึ้น ทุกวันเสาร์พี่เบิร์ดเคยพูดคุยกับแฟนๆวันละ 5 ชั่วโมง โซเชียลมีเดียมันสร้างความอบอุ่นให้กับเราและคนที่รักเราได้เยอะมาก และสิ่งที่พี่เบิร์ดชอบที่สุดในการพูดคุยคือ ‘การรอคอย’ มันจึงมาถึงอัลบั้มนี้ด้วย การรอคอยที่จะได้เจอกัน การรอคอยที่จะได้เจอกันในคอนเสิร์ต” นอกจากออกเพลงและมีคอนเสิร์ตแล้วยังมีทำโปรเจกต์อะไรเป็น พิเศษไหม“ปีนี้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับวงการเอนเตอร์ เทนเมนต์มีพี่เบิร์ดหมด เชื่อพี่เบิร์ดเถอะว่าไม่ไปไหนจะอยู่ตรงนี้ พี่เบิร์ดไม่หนีทุกคนไปทำอย่างอื่นเด็ดขาด พี่เบิร์ดจะแทนคุณทุกคนให้ทุกคนมีความสุข” กลับมารอบนี้ทุกโปรเจกต์หนา แน่นใช่ไหม? “แน่นเอี้ยดมาก เราค่อยๆทำค่อยๆทยอยปล่อยออก เพราะทุกวันนี้มีเดียมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตามเราต้องเข้าไปให้ถึงตัวแฟนๆให้ได้มากที่สุด ทุกวันนี้พี่เบิร์ดรู้สึกมีความสุขแล้วก็ตื่นเต้นที่ได้ทำงานกับน้องกลุ่มใหม่ๆกับนิวเจเนอเรชันที่รักเรา ทำงานกับคนที่รักเรามันสนุก เค้าอยากเห็นคนที่เค้ารักเป็นแบบนี้เราก็เป็นให้เค้าดู”หลายๆคนเคารพพี่เบิร์ดแล้วก็ยกให้เป็นบุคคลต้นแบบในการใช้ชีวิต“มันก็เหมือนหนังสือ ถ้าคุณไม่เปิดอ่านหนังสือก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ ถ้าคุณเปิดอ่านสิ่งที่ควรอ่านคือสิ่งที่อยู่ในวงเล็บ เวลาเล่าอะไรสิ่งที่อยู่ในวงเล็บเป็นเกร็ดที่น่ารู้มาก ในวงเล็บของแต่ละเล่มมันไม่เหมือนกัน บุคลิกภาพของตัวละครหรือของสิ่งที่พูดมันคนละเรื่องกัน บางครั้งเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเราก่อน แล้วค่อยชิมอะไรที่ไม่ดีเพื่อให้รู้ว่าอันไหนดีหรือไม่ดี เข้าไปลองให้รู้ว่าอันไหนไม่ดีแล้วจบให้ได้ พี่เบิร์ดอยากจะบอกทุกคนว่าความรักที่แท้จริงมันก็คือการที่คนสองคนจะต้องปรับกันคนละครึ่งทาง ไม่ใช่ให้คนที่เรารักมาเป็นในแบบที่เราอยากให้เป็น”แฟนๆ หากไม่อยากพลาดความสนุกสุดฟิน #โตมากับเพลงพี่เบิร์ด รีบกดบัตรได้แล้ววันนี้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และติดตามรายละเอียดของคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ทาง www.facebook.com/bird thongchai(เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน)