ไม่ปฏิเสธความเป็นไปของยุคโซเชียลครองโลก มักก่อผลทั้งด้านดีและด้านร้าย และด้านร้ายนั้นก็ย้อนแย้งกับความเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างคาดไม่ถึง!!ไม่ต้องไปมองอื่นไกล...แค่วงการบันเทิงที่ว่ากันว่าเจิดจรัสด้วยเหล่าเซเลบดารา-นักร้อง อันเป็นตัวชูโรงนั้น ก็ผิดแผกแตกต่างจากคนบันเทิงในยุคก่อน (โซเชียล) ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือดารา-นักร้องสมัยนี้ต้องการผลประโยชน์มหาศาลจากอาชีพนี้ ก้าวไปสู่สากลระดับโลก ต้องมีผู้จัดการส่วนตัวต่อรองเรียกร้องค่าจ้างให้ได้สูงสุดมันก็ไม่ผิดหรอก เพราะการผลิตผลงานจนก้าวไปสู่การมีชื่อเสียงโด่งดังคับฟ้า มันก็ต้องแปรผันกลับมาเป็นเม็ดเงินเพื่อความมั่งคั่งในอาชีพดังมากก็รวยมาก ดูจะสวนทางกับงานเพื่อประโยชน์สังคม มันช่างอับจน ไร้ค่า ไม่มีความดีที่จะให้กล่าวถึงใดๆเลยผิดกับดารา-นักร้องในยุคก่อน...อยู่บนอาชีพนี้อย่างพอมีพอกิน จะหาร่ำรวยล้นฟ้าแทบนับหัวได้ แต่หากงามน้ำใจนั้น มีอยู่ถ้วนทั่วทั้งวงการงานการกุศล...ช่วยเหลือผู้ป่วย... เด็กด้อยโอกาส...แม้แต่งานบุญผ้าป่า สร้างโบสถ์วิหาร สร้างโรงเรียน...จะเห็นภาพดาราน้อยใหญ่ไปรวมพลังเป็นจิตอาสาอย่างพร้อมเพรียงแฟนคลับทุกหมู่เหล่าอิ่มเอมเปรมใจ เพราะคำว่าศิลปินดารา-นักร้อง คือขวัญใจมหาชนของพวกเขา รวมตัวสร้างกุศลจิตยิ่งใหญ่ ร้อยใจเพื่อสังคมและส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเมื่อถึงวันเลิกราจากอาชีพนี้ ก็มีแต่เสียงสรรเสริญ ระลึกถึงความดีอันคงทนตราบเป็นอมตะตำนานไม่ได้ตายจากวงการไปเหมือนดารา–นักร้องยุคดิจิทัล โผล่มาโกย (เงิน) พอถึงวันร่วงโรย ใครจะชื่นชม!!‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com