เล่าโมเมนต์เจอหน้า "ลูกแฝด" เหมือนเป็น "รักแรกพบ"ต้อนรับ “วันพ่อแห่งชาติ” ปีนี้พิเศษและมีความหมายกว่าทุกๆปี สำหรับนักร้อง-นักแสดงหนุ่ม บีม-กวี ตันจรารักษ์ หลังจากทำหน้าที่ “ลูก” มาทั้งชีวิต แต่ปีนี้กลายเป็น “คุณพ่อป้ายแดง” หลังจากภรรยา ออย-อฏิพรณ์ คลอดลูกแฝดตัวน้อย แฝดพี่ ธีร์-ด.ช.ธีร์ทองธรรม และแฝดน้อง พีร์-ด.ช.พีร์ทองธรรม ตันจรารักษ์ ถือโอกาสชวนคุณพ่อบีมมาเปิดใจถึงลูกแฝดตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้าลูก สะดุดความขาวโอโม่ของแฝด จนกลายเป็น “รักแรกพบ” ต่อให้ทำงานดึกดื่นแค่ไหนต้องกลับไปหาทายาทตัวน้อย เพราะแค่เห็นหน้าก็มีความสุขแล้ว ใน “คนดังนั่งคุย”ปีนี้บีมกลายเป็นคุณพ่อแล้ว เล่าโมเมนต์วันแรกที่เห็นหน้า 2 หนุ่มน้อยให้ฟังหน่อย“ความรู้สึกโล่งใจที่เค้าออกมาปกติ ส่วนออย ภรรยาคำถามแรกคือ ลูกมีคิ้วมั้ย? คือปกติจะถามว่าลูกครบ 32 มั้ย แต่ออยไม่ เค้าห่วงกลัวลูกมีคิ้วน้อย คือเด็กๆที่เพิ่งคลอดยังไม่มีคิ้วเท่าไหร่ แต่ผมก็บอกไปว่ามีๆ (ยิ้ม)” ตอนดูภาพอัลตราซาวนด์ 4 มิติกับเจอของจริงอารมณ์แตกต่างกันขนาดไหน “เอาจริงๆตอนเค้าออกมา ผมเห็นหน้าลูกครั้งแรก งงนี่คือลูกเราเหรอ? เพราะเค้าขาวไปหมดเลย ตัวเป็นไขๆ เหมือนเป็นเด็กเผือก ปากแดงหน่อยๆ ขาวเหมือนเอาดินสอพองพอกทั้งตัว พยาบาลมาชี้คนนี้พี่นะ และชี้ให้ดูเพศ คือไม่ชี้เราก็รู้อยู่แล้ว ทาง รพ.เน้นให้เช็กให้ถูกต้อง ดูเพศ ครบนะ เราเห็นเค้าร้อง ถ่ายรูปเสร็จเดินไปดูอีกคน เรายังงงๆ นี่ลูกเราหน้าตาเป็นอย่างนี้เหรอ” หลังจากพาลูกแฝดกลับบ้านชีวิตอลเวงขนาดไหน“เราต้องทำความเข้าใจว่ามีลูกเราต้องทำอะไรบ้าง ป้อนนม หัดอุ้มเค้า หัดอาบน้ำก็ยากเหมือนกัน หัดใช้ชีวิตอยู่กับเค้า หัดเลี้ยงเค้าว่ายังไง ดูความต้องการของเค้า เค้าร้องไห้เพราะอะไร”หน้าตาแต่ละคนล่ะเป็นยังไงคุณพ่อเม้าท์ให้ฟังหน่อย บีมเปิดภาพในมือถือปัจจุบันของพี่ธีร์ แฝดคนโตที่หน้ากลมให้ดู ก่อนอธิบายต่อ “แรกๆหน้าตาตัวพี่หน้าแบบนี้ (คล้ายบีม) ผ่านไปสองอาทิตย์มันเป็นแบบนี้ (อ้วนกลม) เค้ากินเยอะ วันก่อนพาไปฉีดวัคซีนคุณหมอดูค่าเกณฑ์ชี้ขึ้นแต่ยังไม่เลยเกณฑ์น้ำหนักผิดปกติ เกือบเส้นสุดท้ายเค้ากินเยอะ ร้องจะกินเยอะ”กินเก่งได้ใคร “ไม่นะ ผมทั้งสองคนกินไม่เก่งนะ ผมคิดหรือว่าเป็นกรรมที่เคยคิดว่าลูกคนอื่น เห็นเด็กอ้วนๆ เคยคิดในใจว่าให้เค้ากินทำไมเยอะแยะ ดูสิลูกอ้วนเกินไปแล้ว การที่เด็กตัวอ้วนเพราะผู้ใหญ่บังคับให้กิน ถึงลูกเราถึงรู้ อ่อ...อออ ไม่ใช่ ลูกร้อง ถ้าเราไม่ให้กินมันก็ร้องไม่หยุด (หัวเราะ) ก็ต้องให้กิน แล้วมันก็อ้วน ต่อไปนี้ผมจะไม่ไปว่าลูกใครอีกแล้ว น่ารักหมดเลยทุกคน (หัวเราะ) พี่ธีร์จะกินเก่งกว่าน้องพีร์ เพิ่งไปชั่งมา คนพี่หนัก 4.7 กก. กับคนน้องหนัก 4.4 กก. หนักไม่ต่างกันมาก เดือนเดียวน้ำหนักขึ้นมา 2โล”เวลาอยู่บ้านบีมมีหน้าที่ยังไงบ้าง“เป็นโชคไม่ดีของผมมากๆ พอเค้าคลอดออกมา ผมได้อยู่กับเค้าแป๊บๆ หลังจากนั้นต้องไปซ้อมคอนเสิร์ต ช่วงนั้นเรานอนกับเค้าไม่ได้เพราะจะกลายเป็นเราแทบจะไม่ได้นอนเลย เค้าตื่นทุก 2-3 ชม. แล้วบีมเป็นคนตื่นง่าย ตื่นแล้วค่อนข้างหลับยาก แต่มีวันที่มีงานเที่ยงเราก็จะไปนอนกับเค้า ผมถึงเข้าใจแฟนผม ออยเค้าเสียสละมากๆ คอยดูแล พอหลังจากคอนเสิร์ต ผมก็กลับไปนอนกับเค้า เหนื่อยมากเลย”ยังไงเหรอ “คือเวลานอนเค้ามีเตียงของเค้า บางทีเค้าตื่นกลางดึก กินนมเสร็จในครั้งโชคดีเค้าหลับ ในครั้งโชคไม่ดี เราไม่รู้เค้าต้องการอะไร เค้าอาจจะต้องการเรา ต้องการความรักเราก็ต้องอุ้มเด็กที่หนักเกือบ 5โล ในช่วงเวลาตี 3 ไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย อุ้มๆ เขย่าๆ โอ๋ๆ เอาไปนอนเปลก็ตื่น เราก็อุ้มๆ แสดงว่าเค้าอยากนอนกับเราแล้ว พามานอนบางทีนอนบนตัวเรา นอนข้างๆเราก็อยู่ไปจนตื่นเช้ามา อ้าว อะไรเปียกๆ อ่อๆ มันฉี่ จริงๆ ตอนลูกฉี่ก็พอรู้ตัวแต่เราง่วงไง สองเรารู้สึกเราขยับตัวลูกอาจจะตื่น”คนไหนฝากรักด้วยการฉี่ใส่พ่อบีม “ตัวพี่เลยครับ (หัวเราะ)” เท่าที่เจอกันเดือนกว่าๆ นิสัยสองคนแตกต่างกันมั้ย“ไม่เหมือนกันเลยครับ คนพี่เค้าจะขี้ตกใจ ขี้โวยวาย เรานอนๆอยู่ เราไปแตะตัวเค้า เค้าจะสะดุ้งง่าย จะร้องง่าย แต่ปลอบให้ลงเร็ว แต่ตัวน้องเค้าไม่ค่อยตกใจง่าย เป็นคนนิ่งๆ แต่ถ้าร้องไห้จะเอาลงยากมาก ไม่รู้ต้องการอะไร” เลี้ยงกันเองเลยหรือมีพี่เลี้ยงคอยดูแล “เลี้ยงกันเองครับแต่ก็มีคนช่วยด้วย มีพี่เลี้ยงอีกคน อยู่กันแค่นี้ 3 คน ไม่มีตัวตายตัวแทน ถ้าพี่เลี้ยงลงไปทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ผมออกไปทำงานก็จะเหลือออยคนเดียวรับมือ ก็จะเห็นภาพเค้าป้อนนมสองคนพร้อมกัน หรือเวลาออยอาบน้ำ แล้วตื่นผมก็ต้องป้อนสองคนพร้อมกัน”คุณย่า (แม่บีม) ไม่ได้มาช่วยเลี้ยงเหรอตามประสาผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ “แม่เลยดูแลหลาน ลูกของบัว (น้องสาว) พอนอนน้อย จะเหนื่อยก็กลายเป็นป่วย หลังจากนั้นก็เลยไม่ได้เลี้ยงหลาน ก็ไม่เป็นไรเราก็ดูแลกันเอง กลายเป็นนอนน้อยแต่นอนหน่อยนะ” มิหน้าล่ะเห็นสภาพบางรูปบีมที่ลงไอจีสภาพเป็นหมีแพนด้ามาก หัวยุ่งๆ ฟูๆ “มีบางวันที่เค้าร้องเยอะๆ อย่างวันฮาโลวีน คืนปล่อยผีแต่ลูกเราปล่อยของ (หัวเราะ)”เจอหน้าลูกความสุขที่สัมผัสได้“มีความสุขนะ อย่างงานคอนเสิร์ตดีทูบีฯ เลิกเที่ยงคืนกว่า ทีมงานก็จัดโรงแรมจะให้นอนที่อิมแพค แต่เราอยากกลับบ้านมากกว่า แค่เราเห็นหน้าเค้าแป๊บๆ เราก็มีความสุขแล้ว ติดลูกน่ะ เป็นความรู้สึกเหมือนเป็นรักแรก เหมือนเราชอบผู้หญิงอะไรแบบนั้น มันเป็นความรู้สึกเราก็อยากเห็นหน้าลูกทุกวัน ดึกแค่ไหนก็ต้องกลับบ้าน เอาจริงๆคนเป็นแม่เหนื่อยกว่าอยู่แล้ว พ่ออาจจะต้องมีหน้าที่ทำอย่างอื่นเพื่อดูแลครอบครัว เอาง่ายๆ คือเราต้องหาเลี้ยง ความรู้สึกต่างกันนิดนึง บางทีเราเหมือนเอาเปรียบผู้หญิงนิดนึง เหมือนเรามาชื่นชมความน่ารักของเค้า เราไม่ได้ดูแลหลังจากนั้นมาก แต่พยายามช่วยนะ”เรื่องชื่อลูกมีที่มาอย่างไร “เป็นชื่อเล่นและชื่อจริงด้วย ธีร์ทองธรรม (แฝดพี่) กับพีร์ทองธรรม (แฝดน้อง) แปลประมาณ นักปราชญ์หรือที่รัก ทองธรรมคือรวย อยู่ในความดีแค่นั้นเอง มีใครตั้งให้มั้ย ไม่มี ออยเป็นคนตั้งเอง เค้าเปิดคำนวณเลขเอง บวกนามสกุล” เราได้สิทธิ์อะไรบ้างเนี่ย “คือตอนแรกๆ ผมพยายามตั้งชื่อเล่นให้ลูก ผมตั้งชื่อเดโม ทีเซอร์ อะไรที่เกี่ยวกับเพลง ออยปัดตกไม่ชอบ และก่อนหน้ามีชื่อเสือ สิงห์ ออยเค้าอยากได้แต่ดูหน้าเป็นเสืออ้วน ไม่ใช่จริงๆแหละพอชื่อจริงเป็นแบบนี้ ชื่อเล่นเอาตามชื่อจริงไปก็ได้เพราะว่าผมว่ามันก็เพราะดี มีปัญหาเหมือนกันเวลาเรียกเสียงมันเหมือนกันมากเกินไป เด็กงง เลยเรียกพี่ธีร์กับน้องพีร์”เรามีวางอนาคตแนวทางให้ลูกยังไงบ้าง“ยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถามถ้าเรื่องโรงเรียนมีคิดๆไว้เหมือนกัน เราจะไม่ค่อยวางขนาดนั้น จะไม่บีบอะไรเค้ามาก ไม่อยากไปกะเกณฑ์เค้ามาก ผมว่าอนาคตบางทีต้องเลือกด้วยตัวเองเหมือนกัน แต่เราคงเตรียมอะไรที่คิดว่าน่าจำเป็น เราอาจจะหากิจกรรมให้เค้าทำเรื่อยๆจนกว่าเค้ารู้ว่าเค้าชอบทำอะไร”ถ้ามีคนชักชวนแฝดเข้าวงการล่ะหวงมั้ย “นี่มันเพิ่งเดือนเดียวเอง (หัวเราะ) แต่ถ้ามีโฆษณาหรืองานเข้ามาผมก็คงให้เค้าลอง ผมไม่คิดว่าลูกทั้งสองคนจะชอบอะไรคล้ายๆ กัน คนนึงอาจจะชอบเรียนหนังสือ ตั้งใจเรียนก็ได้ หรืออีกคนชอบค้าขาย ไม่รู้สิ อาชีพใหม่ๆ เป็นยูทูบ ไม่รู้ครับ ไม่มีทางรู้เลยสุดท้าย” วิธีการเลี้ยงลูกของบีมกับออยมีแนวทาง มีความตั้งใจให้เป็นแบบไหน“ก็อยากให้เค้าเจออะไรหลายอย่างๆที่คนต้องเจอ อาจจะไม่ได้เลี้ยงแบบโอ๋มาก พยายามนะ บางทีเราเป็นพ่อแม่เราไม่รู้หรอกเนอะว่าเราปกป้องลูกมากจนเกินไป หรือเราคิดแทนลูกมากเกินไปหรือเปล่า เราไม่รู้สิ่งที่ทำอยู่มันดีหรือเปล่า มันปกป้องเค้าเกินไปหรือเปล่า แต่คือวิถีทางพยายามให้เค้ามีความสุขแต่ไม่ถึงขนาดไม่เจอความทุกข์เลย ผมว่าคนที่ไม่เจอความทุกข์เลยโตขึ้นมาไม่มีภูมิต้านทาน เวลาเราเจอความทุกข์เราจะเก็บมาเป็นบทเรียน สอนให้เค้าอยู่กับความเป็นจริง ให้เค้ารู้ว่าชีวิตคนอาจจะต้องมีความผิดหวังบ้าง บางอย่างอาจจะไม่ได้อย่างใจบ้าง”เวลาเห็นลูกแผลงฤทธิ์ใส่เราทำให้เรานึกย้อนสมัยเราเป็นเด็กๆบ้างมั้ย“ผมก็เตรียมไว้ว่าตอนเด็กๆผมทำอะไรไว้กับพ่อแม่ ต้องโดนบ้างบางครั้ง ทำใจ ผมน่าจะโดนการนอนดิ้นกับพื้นเพราะอยากได้ของเล่นแน่ๆเลย ผมเคยทำกับพ่อแม่ ผมเชื่อเรื่องกรรมเหมือนกัน”ถ้าแฝดโตขึ้นตั้งใจอยากให้ลูกเรียกเราว่าพ่อ ปาป๊า แดดดี้ มากกว่ากัน “จริงๆอยากให้ลูกเรียกเราว่าพ่อนะ รู้สึกว่าคำว่าพ่อมันดูมันสั้นแต่กินใจ จะบอกว่าเราเป็นคนไทยก็หน้าจีนซะขนาดนี้ (หัวเราะ) แต่ว่าผมก็เรียกพ่อว่าพ่อ ผมอินกับคำนี้มากกว่าป๋า หรือปาป๊า สำหรับผมมันไม่ได้กินใจ พ่อดูกว้าง ดูอบอุ่นครับ แต่ว่าพอเล่นคอนเสิร์ตเราตั้งว่าแดดดี้ ก็อาจจะให้เรียกทั้งสองอย่าง ทั้งพ่อหรือแดดดี้ก็ได้”ตั้งแต่ออยท้องเห็นทำยูทูบทำเรื่องราวเกี่ยวกับลูก“ใช่ครับ เริ่มทำ พอแฟนผมเค้าท้องเลยคิดว่าเราทำยูทูบกันมั้ย ทำช่องขึ้นมา ถ่ายเรื่องราวประจำวัน ส่วนใหญ่เกี่ยวกับลูก เพราะชีวิตของผมค่อนข้างราบเรียบไม่ค่อยมีอะไร เรากำลังมีลูกเป็นจุดเปลี่ยนที่มันใหญ่สำหรับชีวิตเรา เลยคิดลองทำอันนี้ ถ่ายๆกันมาจนคลอด ตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูก ทำกิจกรรมกับลูกเพิ่งไปถ่ายฉีดวัคซีนเป็นยังไงแต่ละเทปเราถ่ายกันเองไม่ได้จ้างทีมงาน ไม่ได้จ้างตากล้อง เป็นงานหัตถกรรม ผมเคยไปอยู่กับ แดน-วรเวช ที่เค้าตั้งใจถ่ายจริงๆ จะมีทีมงานหรือคนอื่นผมไปเปิดดูเค้ามีทีมงานเป็นเรื่องเป็นราว แต่ของผมถ่ายออกมายังมีเสียงค่อกแค่กๆตลอดเวลา โชคดีที่เราได้คนตัดต่อเค้าตั้งใจในการตัดให้ วิดีโอถ้าไม่ใส่ซัพจะดูไม่รู้เรื่อง ขอบคุณคนตัดได้ดีครับ ถ้าคนตามยูทูบจะรู้ว่าลูกเราเกิดจากความตั้งใจที่เราไปหาคุณหมอเพื่อที่จะมีเค้า จะมีกระบวนการมากมาย ซึ่งออยเค้าตั้งใจอยากจะเล่า ตอนที่เค้าทำเค้าไปหาข้อมูลที่เป็นความรู้สึกของคนไม่ค่อยมี เค้าเลยอยากถ่ายทอดให้คนรู้ เลยเป็นตอนนึงในแชนแนล ถ่ายทอดประสบการณ์และเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกันสำหรับคนที่มีลูกยาก ตอนที่เราไปปรึกษาคุณหมอเราก็จะเห็นคนอื่นนะที่เค้ามาเห็นคนนั่งอยู่ข้างๆ ร้องไห้กัน คือเป็นการลุ้นของเราด้วย ผมกับออยต้องลุ้นของตัวเอง ฟังคนรอบข้างเป็นยังไง”พอบีมมีลูกเหมือนงานจะกลับมาเยอะอีกครั้ง เหมือนดวงลูกหนุนพ่อเลย คิดแบบนั้นมั้ย“อาจจะมีส่วนก็ได้ครับ เดี๋ยวกลับไปดูปฏิทินจีนก่อน (ฮ่าๆๆๆ ) คนไม่เชื่อนะที่ผมพูดในคอนเสิร์ตเป็นเรื่องจริง (พร้อมเปิดภาพในมือถือเป็นปฏิทินจีน วันที่ 16 พ.ย. เขียนระบุว่า ควรระวังการหลงๆ ลืมๆ สิ่งต่างๆรอบตัว) ซึ่งวันนั้นลืมหมดทุกอย่าง เอฟวี่ติง อ่านมาก่อนแล้วไปพูด ซึ่งบนเวทีก็ลืมจริงเลยพูดเลย”ได้ลูกชายแล้วคิดอยากมีลูกสาวเพิ่มมั้ย “อยากมีเหมือนกัน แฟนผมเค้าชอบลูกผู้หญิง”กับแฝดก็ดูปฏิทินจีนเพื่อดูฤกษ์คลอดด้วยหรือเปล่า “เค้าดูวันเอาไว้แต่เราไม่คิดเค้าจะอยู่ถึงวันดีนี้หรอกเพราะแฝดส่วนใหญ่จะออกก่อน แต่สองคนเลย 9 เดือน เป็น 10 วัน 40 สัปดาห์ ออกมาตัวใหญ่ หนัก 2.7 กก. ลูกของฟลุค-จิระ ยังตัวเล็กกว่าลูกผมเลย”ตอนนี้เข้าสมาคมคุณพ่อไปแล้ว “ก็มีคุยกันนะ คุยผ่านไอจีกันนี่แหละ ผมก็แอบส่องไอจีดูลูกฟลุคเหมือนกัน เผื่อลูกชายเราจะไปจีบตอนโต (หัวเราะ) แอบมอง ลูกน่ารักจังเลยต้องไปเป่าหู (หัวเราะ)”ชีวิตตอนนี้ก็ถือว่าสมบูรณ์ “เข้าใจความรู้สึกพ่อมากขึ้น ว่าพ่อรักเรายังไง แต่นี่แฝดเพิ่งเดือนเดียว ต้องรอให้มันดื้อกับเราเยอะๆ ก่อน อยากรู้เหมือนกัน แต่หลายๆอย่างเราเริ่มเข้าใจคนเป็นพ่อเป็นแม่มากขึ้น”.ทีมข่าวบันเทิง
