หลังเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง จนมีประกาศเตือนคนไทยในฮ่องกงหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีผู้ชุมนุมประท้วง ทำเอาแฟนคลับเป็นห่วงพระเอกฮอตลูกครึ่งไทยฮ่องกง เจมส์ มาร์ ที่มีครอบครัวอยู่ที่นั่นว่าได้รับผลกระทบรึเปล่า เจอ เจมส์ งาน “THE BODY SHOP PLASTICS FOR CHANGE” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยถามถึงสถานการณ์การเมืองที่ฮ่องกง...เราเป็นห่วงคุณพ่อมั้ย?“ก็ส่วนใหญ่แล้วสถานการณ์ตรงนั้นอย่างที่ทุกท่านเห็นก็มีหลากหลายอารมณ์ หลากหลายข้อมูล แต่ส่วนตัวครอบครัวผมก็ปลอดภัย ตอนนี้ทุกคนอยู่เมืองไทย (หัวเราะ) มาเที่ยวอยู่แล้ว ที่บ้านก็ใช้ชีวิตปกติมากๆถึงแม้จะมีการชุมนุมหรืออะไรก็ตาม ซึ่งเราไม่พูดถึง แต่เค้าทุกคนก็ใช้ชีวิตปลอดภัยปกติ ไปทำงาน กลับบ้านตามเวลา ตอนนี้พวกเค้าอยู่เมืองไทยกัน มาเที่ยวพอดี จริงๆ เค้าบินมาเมืองไทยบ่อยมากอยู่แล้ว”มาก่อนช่วงที่จะเกิดปัญหา?“อ๋อ...มาตอนที่ก่อนเค้าจะมีปัญหา และมาตอนช่วงที่เค้ามีปัญหาด้วย ต้องบอกว่าแม่ผมบินมาเมืองไทยมาหาลูกตลอดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่คุณแม่ก็มาอยู่แล้ว”ไม่ได้กังวลถ้าคุณแม่ต้องกลับไปทำงานไปใช้ชีวิตที่นั่น?“ไม่ได้กังวล คือทุกคนโอเคอยู่แล้ว เค้าก็จะมีวันที่บอกว่าวันนี้อยู่บ้าน วันนี้ทุกอย่างงด เค้าจะชัดเจน ทุกคนก็ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว”คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงงานที่โน่นมั้ย?“ไม่ครับ ตอนนี้แฮปปี้อยู่ มาเที่ยว คืองานทางโน้นเค้าก็จัดการของเค้าไป ไม่ว่าบริษัทต่างๆนานาส่วนใหญ่ทั้งหมดก็ยังปลอดภัย ครอบครัวก็ปลอดภัย”หลังมีข่าวกับสาวพาย-รินรดา ที่เคลียร์แล้ว มีโอกาสได้คุยกันหรือยัง?“ก็ได้โทร.ไปคุยแล้ว ก็ขอโทษเค้าที่ทำให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เค้าก็บอกว่าเค้าโอเค บอกว่าเค้ากลัวที่สุดเลยคือกลัวผู้จัดการว่า เค้าเองก็เป็นเด็กในการปกครองของพี่อ๋า ผู้จัดการผมเช่นกัน เค้าจะโดนเหมือนผม พี่ณเดชน์จะโดนพี่อ๋าดุสั่งสอน น้องเลยกลัว”สบายใจขึ้นมั้ย?“น้องไม่เครียด สบายใจอยู่แล้ว เราโทร.ไปคุยก็สบายใจขึ้น”ตัวเราก็เคลียร์แล้ว?“เราก็เข้าใจว่าทำไมถึงสงสัย เราเหมือนเป็นเพื่อนกลุ่มผู้จัดการเดียวกัน เป็นเพื่อนที่สนิทกัน มันก็เข้าใจได้ว่าคนอาจจะเห็นว่าเราเคยไปนู่นไปนี่ด้วยกันเป็นกลุ่ม”หลายคนชื่นชมการตอบคำถามของเรา?“เหรอครับ อันดับแรกไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราต้องให้เกียรติน้องเค้าเพราะน้องเค้าเป็นผู้หญิงด้วย และเราก็ตอบตามความเป็นจริง ตอบในสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนเข้าใจ”จากข่าวเป็นข้อยืนยันมั้ยว่าแฟนๆอาจจะยังไม่พร้อมให้เรามีแฟน?“ผมว่ามันก็เป็นความคิดของแต่ละท่าน ซึ่งผมเองก็ไม่มีสิทธิที่จะไปออกเสียงว่าจะเป็นยังไง แต่เชื่อว่าเมื่อเวลามันใช่เมื่อมันถึงเวลาทุกอย่างจะโอเค เชื่อว่าทุกคนต้องเข้าใจว่าสุดท้ายแล้วเราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เราก็ต้องมีชีวิตของเรา แต่ชีวิตของผมอาจเดินทางไม่เหมือนชีวิตของคนอื่น อาจจะช้าหน่อย มีโลกส่วนตัวหน่อย เราแฮปปี้กับชีวิตของเรา เราก็จะแฮปปี้ที่จะให้คนอื่น”ถ้ามีตัวจริงจะเปิดเผยมั้ย?“ผมว่าไม่ยากหรอก ต้องดูเรื่องของจังหวะเวลาเพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคน”.