สร้างกระแสได้ฮือฮาอีกครั้งเมื่อไมเคิล มัวร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ประกาศว่าเขากำลังสร้างภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่เกี่ยวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ยังเป็น “ความลับ” ซึ่งเขาเพียงเปิดเผยชื่อว่า “ฟาเรนไฮต์ 11/9” (Fahrenheit 11/9) ชื่อคล้ายกับอดีตภาพยนตร์สารคดีของเขาเรื่อง Fahrenheit 9/11 ที่สร้างเพื่อวิจารณ์การทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ในเหตุวินาศกรรมวันที่ 11 ก.ย.2544 และสงครามในอิรัก ภาพยนตร์ดังกล่าวได้รับรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2547 แต่ภาพยนตร์เรื่องที่กำลังทำใหม่นี้ เพียงแค่สลับตัวเลขจาก 9/11 มาเป็น 11/9 ซึ่งเป็นวันที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาการแสดงตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมาของไมเคิล มัวร์ ต่อผู้นำสหรัฐฯแสดงออกอย่างหลากหลายและการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนการเลือกตั้งเขาได้ทำสารคดีเรื่อง “ไมเคิล มัวร์ อิน ทรัมป์แลนด์” (Michael Moore in TrumpLand) เพื่อวิพากษ์วิจารณ์นายทรัมป์อย่างสุดแสบ สำหรับ Fahrenheit 11/9 แล้วเขาหวังว่าภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นอย่างลับๆมาหลายเดือน จะก่อปฏิกิริยาตอบกลับจากประธานาธิบดีคนดัง มัวร์กล่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ มีเกราะที่มองไม่เห็นและไม่ว่าจะขว้างอะไรไปหาก็จะไม่ได้ผล พร้อมกับขบกัดการชอบเขียนข้อความผ่านทวีตเตอร์ของผู้นำสหรัฐฯอย่างไรก็ตาม ไมเคิล มัวร์ ยังไม่ระบุว่าภาพยนตร์เรื่อง Fahrenheit 11/9 จะออกฉายเมื่อใด แต่คงจะช้ากว่างานของ โอลิเวอร์ สโตน ผู้กำกับรางวัลออสการ์อีกคนที่ทำภาพยนตร์สารคดี “เดอะ ปูติน อินเทอร์วิวส์” (The Putin Interviews) กำหนดฉายในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ตลอด 4 คืน ทางสถานีโทรทัศน์ในสหรัฐฯ ซึ่งในสารคดีจะเป็นการนั่งสนทนากับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน แบบเดียวกับสารคดีโทรทัศน์เรื่อง The Nixon Interviews ที่เดวิดฟรอสต์ นักข่าวชาวอังกฤษ เป็นผู้สัมภาษณ์อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ในปี 2520การสัมภาษณ์นายปูติน นอกจากจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย คำถามที่หลายคนคงอยากฟังคือข้อกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งล่าสุด โอลิเวอร์สโตน กล่าวว่า “ถ้าวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างน้อยเราก็ควรพยายามทำความเข้าใจกับเขาเช่นกัน”.ภัค เศารยะ