52 พรรคลงทะเบียนจับเบอร์สำหรับใช้หาเสียง แกนนำ “น้ำเงิน-แดง” ล้อมวงคุยชื่นมื่น พรรคใหญ่ๆได้เลข 2 หลัก มีเพื่อไทยได้เลขหลักเดียวเบอร์ 9, ภูมิใจไทย 37, ประชาชน 46, ประชาธิปัตย์ 27,กล้าธรรม 42,พปชร. 43 วันแรกผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1,502 คน มี 34 พรรคส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ รวม73คน “อนุทิน” มั่นใจได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่ม ยังโอ่ได้อีก “เบอร์37 เด็ดตรงหนู” ค่ายส้มไม่กังวลจับได้เลขสองหลัก“เท้ง” ตั้งเป้าทะลุเพดาน 14 ล้านเสียง ไม่หวั่นใช้คดี 44สส.เตะสกัด ดูทางหนีทีไล่พร้อมรับทุกคมหอก “วีระยุทธ” ลั่นเหลือคนเดียวก็สู้ “ยศชนัน” ชี้ พท.ได้เบอร์ 9เลขมงคล-สื่อสารง่าย “จุลพันธ์” ให้สิทธิ์อันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลก่อน “ธรรมนัส” โต้เร็วไปปิดประตูใส่เพื่อนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี วันแรก พร้อมจับเบอร์หมายเลขพรรคการเมือง สำหรับใช้หาเสียง บรรยากาศคึกคัก แต่ปรากฏว่าพรรคการเมืองใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จับได้เลข 2 หลัก มีเพียงพรรคเพื่อไทยที่จับได้หมายเลข 952 พรรคลงทะเบียนรอจับเบอร์เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ บรรยากาศวันเปิดสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีวันแรก เป็นไปด้วยความคึกคักตั้งแต่เช้ามืด มีบรรดาแกนนำพรรค การเมืองรวม 52 พรรค ทยอยเดินมาตรวจสอบเอกสารพร้อมเงินค่าสมัคร 1 หมื่นบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และ สน.ทุ่งสองห้อง 200 นาย มาคอยดูแลความเรียบร้อย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มาพร้อมแกนนำพรรค เดินเข้าไปทักทายทีมงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำโดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก่อนเดินไปทักทายกับบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ“น้ำเงิน–แดง” ยืนล้อมวงคุยชื่นมื่นขณะที่นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มาพร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อเข้ามาภายในห้องจับสลากหมายเลข ได้เดินตรงเข้าไปยกมือไหว้สวัสดีนายอนุทินที่มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกฯ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกฯ มายืนล้อมวงคุยกันอยู่พักหนึ่ง โดยฝั่งพรรคภูมิใจไทย มีนายวราวุธ ศิลปอาชา และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ร่วมวงด้วย ยังมีนายกัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรคพลวัต นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาฟ้องร้องกันตามเข้ามาพูดคุยกับนายอนุทินด้วย จากนั้นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาชน ที่มาถึงได้กล่าวทักทายหัวหน้าพรรคการเมืองที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่นายยศชนันและนายจุลพันธ์จะเดินเข้ามาทักทาย และยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แคนดิเดตนายกฯและประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และแคนดิเดตนายกฯ ทยอยเดินทางมาจนท.กกต.ชี้แจงขั้นตอนจับสลากต่อมาเวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ กกต.เริ่มชี้แจงขั้นตอนการรับสมัคร มีทั้งหมด 5 ขั้นตอน คือ 1.ตรวจเช็กเอกสาร 2.จับสลากหมายเลขพรรคการเมืองสำหรับใช้หาเสียงและลงคะแนน 3.ชำระเงินค่าธรรมเนียมการสมัคร 4.ออกใบรับสมัคร และ 5.ตรวจรับเอกสารนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมือง มีพรรค การเมืองมาลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น. และตรวจสอบเอกสารการสมัครรวม 52 พรรค จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนการสมัคร และจับสลากหมายเลขประจำพรรคสำหรับหาเสียงนายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ประธาน กกต. กล่าวว่ามีพรรคการเมืองมาลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น. ทั้งสิ้น 52 พรรค กกต.ยืนยันว่ามีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง สส. และการออกเสียงประชามติในวันที่ 8 ก.พ.2569 และการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ต้องลงทะเบียนภายในวันที่ 5 ม.ค.2569พรรคใหญ่ได้เลข 2 หลัก พท.เบอร์ 9หลังการจับหมายเลขพรรคการเมืองสำหรับหาเสียง ปรากฏว่าพรรคใหญ่ๆล้วนแต่ได้ตัวเลข 2 หลัก มีเพียงพรรคเพื่อไทยที่จับได้หมายเลข 9 ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ พรรคภูมิใจไทย ได้หมายเลข 37 พรรคประชาชน ได้หมายเลข 46 พรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 27 พรรคกล้าธรรม ได้หมายเลข 42 พรรคพลังประชารัฐ ได้หมายเลข 43 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หมายเลข 6 พรรคประชาชาติ ได้หมายเลข 33 พรรคเศรษฐกิจ ได้หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย ได้หมายเลข 48 พรรคเสรีรวมไทย ได้หมายเลข 12 พรรคพลวัต ได้หมายเลข 734 พรรคส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯกระทั่งเวลา 12.00 น. นายแสวง บุญมี เลขา ธิการ กกต. แถลงสรุปภาพรวมการรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ และส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี วันแรกว่า ภาพรวมเรียบร้อยดี มีทั้งสิ้น 52 พรรค มีการตรวจสอบเอกสารความพร้อมทุกพรรคส่งครบถ้วน และจับเบอร์พรรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีเสนอรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ รวม 1,502 คน และมีพรรคการเมืองเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ 34 พรรค รวม 73 คน ส่วนพรรคที่ยังไม่ได้เสนอชื่อสามารถเสนอได้จนถึงวันสุดท้ายคือวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และทั้ง 52 พรรคยื่นนโยบายสำหรับใช้หาเสียงเรียบร้อยแล้ว จะส่งไปถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปถึงเจ้าบ้าน 19 ล้านครัวเรือน และคิดว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในวันที่ 8 ก.พ.2569 น่าจะพร้อมจัดการเลือกตั้งตามกำหนดได้ ภายใต้ความปลอดภัยของประชาชน กกต.จะหารือกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อหาทางให้บุคคลกลุ่มดังกล่าวได้รับความสะดวก จะไม่เสียสิทธิ รวมถึงกลุ่มคนไทยในประเทศกัมพูชา ทุกพื้นที่ที่มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุล มีการเปิดให้ลงทะเบียนต้องรอดูว่ามีปัญหาหรือไม่“อนุทิน” มั่นใจได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. ให้สัมภาษณ์กรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยันว่าไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 แล้ว จะสามารถจับมือกันได้หรือไม่ว่า พูดไปชัดเจนแล้ว พรรคภูมิใจไทยไม่แตะมาตรา 112 ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญหรือเรื่องนิรโทษกรรม เมื่อถามว่าน่าจะเป็นเงื่อนไขใหม่หรือไม่ถ้าพรรคประชาชนจะดันเรื่องนิรโทษกรรม นายอนุทินตอบว่า ไม่ทราบ แต่พรรคภูมิใจไทยมีแนวทางเช่นนี้ ถ้าไม่มีพรรคไหนที่ใช้นโยบายมาตรา 112 หาเสียง ประชาชนส่วนใหญ่คงสบายใจขึ้น ยังมีประเด็นอื่นที่เราสามารถนำไปหาเสียงกับประชาชน เมื่อถามว่าหากได้กลับมาเป็นรัฐบาลมั่นใจหรือไม่ว่า จะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองที่ทำให้เปลี่ยนตัวนายกฯเหมือนครั้งที่แล้ว นายอนุทินตอบว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราถึงต้องมีแคนดิเดตนายกฯมากกว่า 1 คน คงไม่ต้องใช้ถึงคนที่ 3 และมั่นใจว่าจะได้ สส.บัญชีรายชื่อมากกว่าเดิมไม่ตอบปมประชามติแก้รัฐธรรมนูญผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายอนุทินเดินเข้ามายังโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ (Con for All) นำโดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยืนชูป้ายอยู่บริเวณด้านข้าง พูดผ่านเครื่องขยายเสียงสอบถามว่าจะลงมติเห็นชอบประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายกฯจะเลือกอะไร แต่นายอนุทินเดินผ่านไป มี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เดินตามมาชี้แจงแทนว่า เรื่องนี้เป็นท่าทีความเห็นส่วนตัว ถ้าจะถามภาพรวมของพรรคยังไม่สามารถตัดสินใจแทนพรรคได้ยังโอ่ได้อีก “เบอร์ 37 เด็ดตรงหนู”นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังทราบผลว่าจับได้เบอร์ 37 ว่า ถ้าได้เลขตัวเดียวก็ดี สื่อสารง่าย แต่ไม่เป็นไร เน้นที่นโยบาย ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เบอร์ 37 มีเลข 7 เด็ดตรงไหน นายอนุทินตอบว่า “เด็ดตรงหนู” เราหาเสียงด้วยนโยบาย ด้วยความมั่นใจ รวมถึงผลงาน ไม่น่ามีปัญหาบ้านใหญ่ ภท.ท็อปเทนปาร์ตี้ลิสต์ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจัดลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ ของพรรค ภท. ที่ส่งทั้งหมด 98 คน 10 อันดับแรก เป็นแกนนำพรรค ภท. และแกนนำบ้านใหญ่ที่ย้ายมา ได้แก่ 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 2.นายไชยชนก ชิดชอบ 3.นายวราวุธ ศิลปอาชา กลุ่มสุพรรณบุรี 4.นายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์ 5.น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ 6.นายชลัฐ รัชกิจประการ บุตรชายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรค ภท. 7.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม รทสช. 8.น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี 9.นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล อยู่ลำดับ 10ค่ายส้มไม่กังวลจับได้เลขสองหลักด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและแคนดิเดตนายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังพรรคประชาชนจับได้เบอร์ 46 ว่า ทุกเลขเป็นเลขดี ตราบใดที่ประชาชนเลือกพรรคประชาชน ถือเป็นเลขดีทั้งนั้น ถ้าใครกังวลว่าจำยาก ให้ดูโลโก้สามเหลี่ยมหัวกลับในบัตรเลือกตั้งไว้จะได้จำกันง่ายๆ หลังจากนี้วางแผนให้แกนนำพรรคกระจายตัวไปให้ครบทั้ง 400 เขต คาราวานหาเสียงจะไปครบทุกจังหวัด เป็นดาวกระจายพร้อมเต็มที่ทั้งตัวผู้สมัคร และนโยบายพรรค ไม่มีข้อกังวล“เท้ง” ตั้งเป้าทะลุเพดาน 14 ล้านเสียงนายณัฐพงษ์กล่าวว่า มีความมั่นใจมากขึ้นทุกวัน ตั้งเป้าสูงสุดทำให้พรรคเข้มแข็งมากพอจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้องถูกฉีกสัญญาอีกต่อไป เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ครั้งที่แล้วได้ถึง 14 ล้านเสียง นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่กดดัน ครั้งนี้มั่นใจมากว่าเราได้คะแนนเสียงมากขึ้นแน่นอน แต่เราไม่เคยดูถูกเสียงประชาชน ไม่มีพรรคใดเป็นเจ้าของเสียงประชาชนตลอดไป แม้เราจะมั่นใจมากแค่ไหน เมื่อถามว่าในอนาคตจะจับมือกับพรรค ภท.ได้หรือไม่ หลังประกาศไปแล้วไม่มีการแก้กฎหมายมาตรา 112 นายณัฐพงษ์ตอบว่า อยู่ที่นายอนุทินว่าจะยอมรับเงื่อนไขของพรรค ปชน.ได้หรือไม่ ที่ผ่านมานายอนุทินเป็นคนบิดเบือนคำพูดตนบนเวทีดีเบต ความจริงควรจบได้แล้ว คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ออกมาแล้วว่าห้ามหาเสียงเรื่องแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112ย้ำอีกไม่มี สส.ปชน.โหวตให้ “อนุทิน”ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรค ปชน.เป็นพรรคอันดับ 1 ภท.เป็นพรรคอันดับ 2 จะจับมือกันได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ตั้งเงื่อนไขไว้ชัดเจนมาก คือหนึ่งตัวรัฐมนตรีถ้ามีประวัติพัวพันกับเรื่องสีเทา ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด บ่อนพนันออนไลน์ หรือเครือข่ายสแกมเมอร์ เรายกหลักการมาตรฐานการเมืองต้องสูงกว่าด้านกฎหมาย ไม่ต้องรอหลักฐานหรือรอให้คดีถึงที่สุด คนที่อยู่ในอำนาจควรแสดงความรับผิดชอบ ออกจากอำนาจก่อนการตรวจสอบได้เลย เมื่อถามว่าเงื่อนไขในการตั้งรัฐบาลคือไม่ยกมือให้นายอนุทินใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ถูกต้อง เป็นเงื่อนไขที่ประกาศไปแล้ว และยังยึดหลักการเดิม ไม่มี สส.คนไหนของพรรค ปชน.ไปยกมือโหวตให้นายอนุทินอีกต่อไป รวมถึงแคนดิเดตคนอื่นของพรรค ภท.ด้วยลั่น 112 ไม่ใช่นโยบายแถลงรัฐสภาเมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าหากเข้าสภาฯ ไปแล้ว จะไม่มีการผลักดันแก้มาตรา 112 อีก นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่เป็นนโยบายในการหาเสียง ฉะนั้นจะไม่เป็นนโยบายที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภาแน่นอน ส่วนในอนาคตจะมีการผลักดันในนามของพรรค ปชน.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสังคมจะตกผลึกร่วมกัน เชื่อว่าประชาชนที่เข้าคูหาโหวตให้เรารู้ดีว่าจุดยืนของพรรค ปชน.คืออะไร เมื่อถามว่าในเรื่องการนิรโทษกรรม ยังรวมถึงคดี 112 ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ถูกต้อง เรื่องนี้ควรต้องพูดให้ชัด ว่าการนิรโทษกรรมผู้ได้รับผลกระทบจากการเมืองต้องนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม หากได้รับนิรโทษกรรมเพียงบางกลุ่มจะไม่เกิดความเป็นธรรม สังคมก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ไม่หวั่นงัดคดี 44 สส.ขึ้นมาเตะสกัดเมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากพรรค ปชน.มาแรงได้อันดับหนึ่ง จะมีคดี 44 สส.มาสกัด นายณัฐพงษ์ตอบว่า ทางพรรคมีการบริหารความเสี่ยงไว้หมดแล้ว นอกจากคดี 44 สส. ยังมีคดีอื่นๆที่ทางผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตอาจโดนขบวนการนิติสงคราม จึงย้ายบางคนมาลง สส.บัญชีรายชื่อ หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองบัญชีรายชื่อสามารถลาออกและขยับคนอื่นขึ้นมาได้ อยากให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าอย่ากังวลในส่วนนี้ เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาชนได้แน่นอน เมื่อถามว่าการร่วมกิจกรรมไอลอว์กากบาท เห็นด้วยที่จะทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะซ้ำรอยเดิมทำให้เกิดการยุบพรรคหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ยังยืนยันในหลักการเดิมว่าทุกพรรคการเมืองควรณรงค์ได้ เพียงแต่กังวลกับการแสดงความเห็นของ กกต. ที่ตัดสินใจกาไปเพราะยังยืนยันในจุดนี้ และอยากให้ กกต.มีความชัดเจน อยากให้สื่อมวลชนไปสอบถาม กกต.ด้วยว่า ทำไมจึงออกความเห็นแบบนี้ไม่ถูกต้องดูทางหนีทีไล่พร้อมรับทุกคมหอกเมื่อถามว่านายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อยู่บัญชีรายชื่อลำดับที่ 99 นายณัฐพงษ์ตอบว่า เป็นความประสงค์ของนายวิโรจน์ อยากได้อันดับที่ 100 เพื่อลุกออกจากเก้าอี้เปิดทางให้ผู้สมัครหน้าใหม่มาทำงานในสภา แต่มีคนถอนตัวทำให้ได้อันดับที่ 99 เมื่อถามว่าลำดับไหนได้เป็นรัฐมนตรีบ้าง นายณัฐพงษ์ตอบว่า ทุกอันดับ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลมีตำแหน่งแห่งที่ให้ทุกคน เปิดโอกาสคนมีความรู้ความสามารถ คนใหม่ๆมาทำงาน ส่วนการจับผิดพรรคเราในการหาเสียง คงหนีไม่พ้น ครั้งนี้เราเป็นพรรคอันดับ 1 แล้ว คงไม่มีใครประมาท มองเป็นม้านอกสายตา คมหอกคมดาบทุกอย่างคงพุ่งเป้ามาที่เรา แต่เรามีความเชื่อมั่นในตัวเอง ถ้าไม่อยากเห็นเครือข่ายสีเทามาครอบครองประเทศ อยากได้การปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัย สร้างความเป็นธรรมให้สังคม ให้เลือกพรรคประชาชน“วีระยุทธ” ลั่นเหลือคนเดียวก็ลุยสู้ เมื่อถามว่าแคนดิเดตนายกฯทั้ง 2 ของพรรค ปชน.พร้อมหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แคนดิเดตนายกฯพรรค ปชน. ที่ยืนอยู่ข้างๆตอบว่า พร้อมมากสำหรับวันนี้ เมื่อถามย้ำว่าคดี 44 สส.ยังไม่นิ่ง นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร แคนดิเดตนายกฯอีกคนพร้อมหรือไม่ เพราะอาจเหลืออยู่เพียงคนเดียว นายวีรยุทธตอบว่า ถ้าเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดต เราต้องเตรียมความพร้อมทำงาน เตรียมทำงานเป็นทีมบริหารทั้งในเชิงเนื้อหาและเชิงคน เราพร้อมส่องลำดับบัญชีรายชื่อพรรคส้มสำหรับการจัดลำดับผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. 3 ลำดับแรก นำโดยแคนดิเดตนายกฯ 1.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 2.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล 3.นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ตามด้วย 4.นายเซีย จำปาทอง 5.นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ อดีตผู้บริหารไลน์แมน วงใน 6.น.ส.ณัฐยา บุญภักดี 7.นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ 8.นายรังสิมันต์ โรม 9.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ 10.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 11.นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล 12.นายธีระ สุธีวรางกูร 13.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 14.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม 15.นายกิตติพงษ์ ปิยะวรรณโณ 16.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 17.นายวิสุทธิ์ ตันตินันท์ 18.นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร 19.นายพูนศักดิ์ จันทร์จําปี 20.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ยังมีอดีต สส.ตัวจี๊ดอีกหลายคน เช่น น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ อยู่ลำดับที่ 25 น.ส.รักชนก ศรีนอก อยู่ลำดับที่ 28 รวมถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อยู่ลำดับที่ 99“ยศชนัน” ชี้ พท.ได้เบอร์ 9 สื่อสารง่ายนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจับได้หมายเลข 9 ถือเป็นเบอร์ที่ดี เป็นสิริมงคลสื่อสารง่าย และปีหน้าเราต้องพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน นโยบายของเรามีมากกว่า 9 ข้อ จะพยายามสื่อสารให้สอดคล้องกับตรงนี้เพื่อจะได้จำได้ เมื่อถามว่าก่อนจับหมายเลขมีภาพพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ พูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ ตอบแทนว่า ทักทายกันปกติคนรู้จักกัน ขณะที่นายยศชนันกล่าวเสริมว่า มีส่วนหนึ่งเราชื่นชมในเรื่องเกี่ยวกับสันติสุข และเรื่องพี่น้องประชาชนตรงชายแดน จะได้กลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ เราก็พยายามจะช่วยในเรื่องนี้ ต้องให้กำลังใจกัน เมื่อถามว่าได้พูดคุยเรื่องการจับมือร่วมรัฐบาลครั้งหน้าหรือไม่ นายยศชนันตอบว่า เราต้องถามพี่น้องประชาชน หากใครทำนโยบายไปในแนวทางเดียวกับเราได้ก็ยินดีร่วมงานด้วยในอนาคต“จุลพันธ์” แจงจับมือได้กับทุกพรรคนายจุลพันธ์กล่าวว่า เบอร์ 9 เป็นเบอร์ที่ดี เมื่อปี 2548 พรรคไทยรักไทยก็เคยจับได้เบอร์ 9 มาแล้ว สมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อถามถึงผลนิด้าโพลใน จ.นครราชสีมา ที่คะแนนตกลงไป นายจุลพันธ์ตอบว่า ดูจากคะแนนนิยมของพรรคตอนนี้ 26% มีคะแนนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกผู้ใดยังสูงมาก ยังเป็นโอกาสสำหรับทุกพรรครวมถึงเพื่อไทยด้วย เลขาธิการพรรค พท.ประกาศตอนเปิดตัวผู้สมัคร สส.เขตแล้วว่าเราจะยกจังหวัด เรายังมีนโยบายที่จะเปิดอีก 2 รอบ จะเป็นตัวตัดสินนโยบายที่พรรคเพื่อไทยทำให้ประชาชนจับต้องได้ และได้ประโยชน์เมื่อถามว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ไม่มี เราผ่านประสบการณ์เป็นรัฐบาล เป็นรัฐราชการที่แข็งแกร่ง วันนี้กลไกหนึ่งที่เราต้องทำคือการเปลี่ยนรัฐอุปสรรค ให้เป็นรัฐสนับสนุน เมื่อถามถึงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคส้มกับน้ำเงิน พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคไหน นายจุลพันธ์ตอบว่า ไม่อยากให้มาโฟกัสว่าใครจับกับใคร อย่าดูถูกประชาชน ให้ประชาชนตัดสินจากนโยบาย ไปตัดสินคนอื่นในนาทีนี้คงยังไม่ได้ ถ้าประชาชนเลือกมาเราต้องเคารพ พรรคเพื่อไทยไม่มีข้อจำกัดว่าจะจับ หรือไม่จับกับใครให้สิทธิอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลก่อนเมื่อถามว่าคำถามที่บอกว่าเป็นพรรคอันดับ 1 ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากทุกคนหรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า อยู่ที่กระบวนการประชาธิปไตย เสียงอันดับ 1 ได้สิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน เรายึดมั่นมาโดยตลอด ครั้งที่แล้วตอนปี 2562 พรรคเพื่อไทยก็ยึดมั่นเช่น เดียวกัน ให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล เมื่อจับไม่ได้จึงเป็นลำดับที่ 2 ดำเนินการ แต่ไม่มีว่าเป็นพรรคอันดับ 1 แล้วทุกคนต้องยกมือให้ เป็นการเข้าใจหลักการประชาธิปไตยคลาดเคลื่อน ต้องมาคุยกันว่านโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่“สุริยะ” คุยฟุ้งได้ชัวร์ สส. 200 ที่นั่งผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งนี้จะแลนด์สไลด์เหมือนครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยตอบว่า ยิ่งได้กำลังใจมากขึ้น ที่นั่ง 200 ยืนยันว่าได้แน่ แต่ไม่มากกว่านั้นเดี๋ยวจะไม่มีเพื่อน เมื่อถามว่าประเมินตัวเลข สส.บัญชีรายชื่อไว้เท่าเดิมหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า มากกว่าเดิมแน่นอน เพราะนโยบายของพรรคเมื่อเปิดไปแล้วประชาชนต้องชอบ เราทำเพื่อประโยชน์ประชาชน เมื่อถามว่าประเมินรอบนี้จะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า หลังจากเปิดชื่อนายยศชนันเป็นแคนดิเดตฯเบอร์หนึ่ง เดินสายออกรายการต่างๆ ทำให้ผู้สมัครของพรรคต่างแย่งตัวกัน คิดว่าช่วงนี้นายยศชนันต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรง เตรียมตัวลงพื้นที่หาเสียง และหากได้รับเลือกจากประชาชนให้เป็นนายกฯ ต้องทำงานหนักกว่านี้3 แคนดิเดตนายกฯ พท.3 อันดับแรกทั้งนี้ การจัดลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่น่าสนใจได้แก่ 1.นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ 2.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ 3.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 4.นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร 5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง 6.นายจาตุรนต์ ฉายแสง 7.นายชูศักดิ์ ศิรินิล 8.นายสุทิน คลังแสง 9.นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ 10.นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช 11.นายสุชาติ ตันเจริญ 12.น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล 13.นายธงธรรม เวชยชัย 14.น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน 15.นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ 16.นายอดิศร เพียงเกษ 17.น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล 18.นายจักรภพ เพ็ญแข 19.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ 20.นายมังกร ยนต์ตระกูล 21.นายศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ 22.นายดนุพร ปุณณกันต์ 23.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ 24.นายก่อแก้ว พิกุลทอง 25.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ขณะที่แกนนำพรรคที่มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีจะอยู่ลำดับท้ายๆ อาทิ ลำดับที่ 98 นายจักรพงษ์ แสงมณี 99.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 100.นายภูมิธรรม เวชยชัย“ธรรมนัส” โต้เร็วไปปิดประตูใส่เพื่อนขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาและแคนดิเดตนายกฯ พรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวว่า พรรคได้หมายเลข 42 ถือเป็นเลขมงคล เรามีความสุขและมีกำลังใจเดินหน้าต่อ ส่วนนโยบายที่จับต้องได้ทั้งหมดไม่มีขายฝัน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ส่วนที่บางพรรคประกาศไม่ร่วมงานกับพรรค กธ. คิดว่าเร็วเกินไปและจริงๆ เรามีความชัดเจนในจุดยืนว่าจะไม่ร่วมกับพรรคที่ต่อต้านอะไรบางอย่าง ตนก็ไม่เอาด้วยถ้าจะเล่นการเมืองแล้วไม่รักษาเสาหลักของบ้านเมือง ส่วนจะได้กี่เสียงต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ และไวเกินไปที่จะตอบมีแผนจะจับคู่กับใครเป็นพิเศษ เพราะท้ายที่สุดหลังการเลือกตั้งผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม เราไม่ทำอย่างนั้นกธ.ส่งครบ 100 “ธรรมนัส” ลำดับที่ 1ส่วนการจัดลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค กธ. ส่งครบ 100 รายชื่อ ลำดับที่ 1 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 2.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 3.นางปวีณา หงสกุล 4.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ 5.นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ 6.น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร 7.นายนัจมุดดีน อูมา ส่วนนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ อยู่ลำดับที่ 11 นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ลำดับที่ 14 นายมุข สุไลมาน ลำดับที่ 15 นายเอกราษฏฐ์ ช่างเหลา ลำดับที่ 18 นายศักดา คงเพชร ลำดับที่ 27“มาร์ค” ยิ้มกริ่มเลข 27 ดวงสมพงศ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจับได้หมายเลข 27 ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะตอนได้เป็น สส.ครั้งแรกก็ตอนอายุ 27 ปี และได้เป็นนายกฯคนที่ 27 ของไทย คิดว่าเลข 27 คงเป็นเลขที่สมพงศ์กับตน หลังจากนี้วันที่ 29 ธ.ค. พรรคจะแถลงนโยบายและเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้มาร่วมกับพรรคในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ขณะนี้เป็นโอกาสที่ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยประชาชนต้องมีส่วนร่วม และต้องมีบ้านเมืองที่สุจริต เมื่อถามว่ายังคงยืนยันว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ หรือธุรกิจสีเทาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า “ผมพูดชัดกว่าทุกคนแล้ว” เมื่อถามย้ำว่าสนามเลือกตั้งในภาคใต้ค่อนข้างดุเดือด จะเรียกคะแนนเสียงกลับคืนมาอย่างไร ขณะที่ธุรกิจทุนเทามีอำนาจอยู่มาก นายอภิสิทธิ์ตอบว่าตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จึงไม่รู้สึกว่าต้องกังวลอะไร“อภิสิทธิ์–ชวน–กรณ์”อยู่ 3 อันดับแรกผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ส่งรายชื่อผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ของพรรครวม 98 คน ดังนี้ 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2.นายชวน หลีกภัย 3.นายกรณ์ จาติกวณิช 4.นางการดี เลียวไพโรจน์ 5.นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส่วนคนอื่นที่น่าสนใจ อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อยู่ลำดับที่ 7 นายชัยชนะ เดชเดโช อยู่ที่ 8 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อยู่ที่ 14 นายสาธิต ปิตุเตชะ อยู่ที่ 16 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อยู่ที่ 17 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อยู่ที่ 19 นายสุรบถ หลีกภัย อยู่ที่ 39 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อยู่ที่ 96 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อยู่ที่ 97 และนายอลงกรณ์ พลบุตร อยู่ลำดับสุดท้ายคือ 98“ลุงป้อม” ให้กำลังใจ พปชร.โชคดีน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน แคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เรามาด้วยความมั่นใจ ไม่ได้มีการมูอะไร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ฝากกำลังใจมาตลอดอยู่แล้ว และขอให้พวกเราทำงานอย่างเต็มที่ ท่านยังอยู่กับพรรคคอยให้แนวคิดที่มีประโยชน์ให้กับสมาชิกพรรคทุกคน และ พล.อ.ประวิตรห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงและปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงเรื่องชายแดนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ น.ส.ตรีนุชจะเข้าไปจับสลากหมายเลขผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พล.อ.ประวิตรได้วิดีโอคอลมาอวยพรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมโบกมือทักทายให้กำลังใจว่า “ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้ประสบความสำเร็จ ขอให้โชคดี เป็นกำลังใจให้ทุกคน เอาใจช่วยทุกคนนะ”“ภัครธรณ์” ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 พปชร.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ ส่ง สส.บัญชีรายชื่อ ทั้งสิ้น 35 คน แต่ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ประกาศถอนตัวเพื่อเตรียมวางมือ ส่งผลให้ดันนายภัครธรณ์ เทียนไชย อดีต ผวจ.ชลบุรี รองหัวหน้าพรรค มาอยู่ลำดับที่ 1 แทน 2.พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ ที่น่าสนใจคือมีชื่อ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่เคยมีชื่อจะมาเป็น รมว.กลาโหม ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อยู่ในลำดับที่ 4 ขณะที่นายปรพล อดิเรกสาร บุตรชายนายปองพล อดิเรกสาร อยู่ลำดับที่ 20 นายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระ เชิญยิ้ม อยู่ที่ 32“ตั๊น” ย้ำจุดยืนปกป้องสถาบันหลักน.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคไทยก้าวใหม่ กล่าวว่า ขอย้ำ จุดยืนพรรคให้ชัดเจนว่า พรรคไทยก้าวใหม่ยังคงยึดมั่นในสามเสาหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหัวใจสำคัญทำงานทางการเมือง ไม่มีนโยบายแก้ไขหรือแตะต้องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จุดยืนดังกล่าวเป็นหลักการที่พรรคยึดถือมาตลอด และยังคงยืนหยัดปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างถึงที่สุด เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศ และความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่หัวหน้าพรรคเคยแสดงความเห็นในเชิงชื่นชมบุคคลจากพรรคก้าวไกลในบางประเด็น ขอชี้แจงว่าเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นในเชิงบุคคลและการเมืองเชิงเกมเท่านั้น ไม่ได้สะท้อนจุดยืนหรืออุดมการณ์ของพรรคโพลชี้อยากให้ “ณัฐพงษ์” เป็นนายกฯวันเดียวกัน สวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 2,151 คน เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนธันวาคม 2568” ระหว่างวันที่ 22-26 ธ.ค. พบว่ากลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ธ.ค.68 เฉลี่ย 3.87 คะแนน ลดลงจากเดือน พ.ย.68 ที่ได้ 3.90 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือการมีส่วนร่วมของประชาชน เฉลี่ย 4.46 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส 3.39 คะแนน เมื่อถามถึงการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.69 พบว่าร้อยละ 78.38 ตั้งใจจะไปใช้สิทธิ และร้อยละ 34.11 อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจมากที่สุด ทั้งนี้บุคคลที่อยากให้เป็นนายกฯคนต่อไปมากที่สุดร้อยละ 26.55 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่าการเลือกตั้งปี 69 สว.ไม่มีอำนาจในการเลือกนายกฯ ร้อยละ 62.72 ตอบว่ารู้ มีร้อยละ 37.28 ที่ไม่รู้โคราชยังหาคนเหมาะสมไม่ได้ขณะที่นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชน อายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งใน จ.นครราชสีมา 1,067 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “เลือกตั้ง 69 ของคนโคราช” ระหว่างวันที่ 18-22 ธ.ค. พบว่าบุคคลที่ชาว นครราชสีมาจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯในวันนี้มากที่สุดร้อยละ 40.58 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ รองลงมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 13.59 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ร้อยละ 13.31 นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ร้อยละ 5.81 และ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ ร้อยละ 5.72 สำหรับพรรคการเมืองที่ชาวนครราชสีมามีแนวโน้มในการเลือก สส.แบบบัญชีรายชื่อ พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 31.01 ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 2 ร้อยละ 20.06 พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 17.43 พรรคประชาชน อันดับ 4 ร้อยละ 14.34 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 5.44 พรรคประชาธิปัตย์อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่