สัปดาห์สุดท้ายก่อนเข้าฤดูหยุดยาวฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บรรยากาศของการเร่งทำงานปิดจ๊อบปลายปี เคล้าไปกับเสียงเฮฮา ความสุขสนุกสนาน หน่วยราชการ บริษัทเอกชนจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ภายในหน่วยงาน ก่อนแยกย้ายไปพักผ่อนห้วงลองวีกเอนด์ ได้เวลาเดินทางกลับบ้าน ออกท่องเที่ยวต่างจังหวัด“ทีมการเมืองไทยรัฐ” ขอใช้โอกาสนี้อวยพรท่านผู้อ่านขาประจำล่วงหน้า ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัย แคล้วคลาดจากอุบัติภัย ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ครองสติให้มั่น ฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความเบิกบานสำราญอุรา ชาร์จแบตฯให้เต็มที่เพื่อมีแรงกลับมาสู้ชีวิตในปีหน้าฟ้าใหม่และในจังหวะสถานการณ์ที่พอดิบพอดีกับบรรยากาศการเมืองก็อยู่ในโหมดอึกทึกคึกคักตีคู่ไปกับเทศกาลส่งท้ายปีเสียงปี่กลองเชิดฉิ่งโหมโรง ฤดูกาลเลือกตั้งใหญ่เปิดหวูดอย่างเป็นทางการ จังหวะป้อมค่ายการเมืองต่างๆนำขบวนแห่ผู้สมัคร สส.ทั้งแบบเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ ยื่นสมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เปิดให้สมัครตั้งแต่วันที่ 27 และ 28 ธันวาคม ไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม ไม่เว้นวันหยุดเทศกาลแต่ส่วนใหญ่จะปักหมุด ชิงเลขสวยๆกันตั้งแต่การรับสมัครวันแรก เพื่อที่จะได้ติดตัวเลขในป้ายหาเสียงสีสันฉูดฉาดตามสัญลักษณ์ของยี่ห้อพรรค ที่ไปแย่งจองทำเลทอง ยึดเสาไฟฟ้าสองข้างถนนหนทาง“ติดเบอร์” เข้าแนวรบตะลุมบอน “ชิงแต้ม” แบบใครดีใครอยู่ นับแต่นี้ไปจนถึงวันเข้าคูหากาบัตรวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ต้นปีหน้า 2569ชาวบ้านร้านตลาดจะได้ยินเสียงรถแห่เร้าไปกับเสียงเพลงปีใหม่ ผู้สมัครพรรคการเมืองสารพัดป้อมค่ายจะเป็นแขกไม่ได้รับเชิญ อาศัยช่วงงานเลี้ยงสังสรรค์ ผู้คนรวมตัวเยอะๆสบช่องเข้าไปแนะนำตัว อ้อนขอคะแนนเสียงกันแทบหัวบันไดไม่แห้งแต่นั่นก็ต้องไม่เสี่ยงแจกเหล้ายาปลาปิ้ง จะโดนใบแดงตายน้ำตื้นง่ายๆ ภายใต้วิถีการเมืองเลือกตั้งแบบไทยบ้านเดิมๆน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ประเพณีที่มองตาก็รู้ใจ โดยเฉพาะในชนบทไกลปืนเที่ยงห่างหูห่างตาเทศกาลมันเอื้อให้เต็มใจทั้งผู้จ่ายประทับใจทั้งผู้รับแน่นอน โดยรูปการณ์มันก็เข้ากับสไตล์ “บ้านใหญ่” ระบบหัวคะแนนโบราณต่างจังหวัดที่จะได้โอกาส “มัดจำแต้ม” มั่วนิ่มงานเลี้ยงปีใหม่กันแบบเนียนๆโคตรเซียนเลือกตั้งอาชีพไม่ปล่อยโอกาสทองอยู่แล้วแนวโน้มสถานการณ์ไหล “เข้าทางปืน” ค่ายเซราะกราว ภูมิใจไทย เต็มๆ เพราะกวาดฐานบ้านใหญ่ ต้อนเข้าคอก “นายฮ้อยเขากระโดง” แทบยกโขยงยึดฐานหัวคะแนนการจัดตั้งระบบอุปถัมภ์ไว้เป็นส่วนใหญ่ในทางตรงกันข้าม สถานการณ์เสี่ยงใบแดงจากการแจกงานเลี้ยงปีใหม่น่าจะเบาใจหรือตัดทิ้งไปได้ สำหรับกองทัพส้ม พรรคประชาชน ที่เน้นยุทธศาสตร์ “แห่แต้มฟรี” เดินเท้าบุกเคาะประตูบ้านกฎเหล็กที่เป็นเงื่อนตายของค่ายการเมืองรุ่นใหม่ “ห้ามซื้อเสียง” เด็ดขาดประกอบกับตลาดของเด็กรุ่นใหม่ก็อยู่ในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ เมืองมหาวิทยาลัย โซนปัญญาชนบ้านมีรั้ว ที่ไม่เน้นหนักระบบจัดตั้งหัวคะแนนเหล้ายาปลาปิ้งซื้อกินเองได้ ไม่ง้อนักการเมืองเรื่องของเรื่อง โฟกัสมันก็อยู่ที่ “2 หัวขั้วหลัก” คู่ชิงแชมป์ในเกมชิงอำนาจบริหารประเทศไทยผ่านสนามเลือกตั้งรอบต่อไป“มุมน้ำเงิน” ทีมภูมิใจไทย บดบี้กับ “มุมส้ม” ค่ายประชาชนโคตรเซียนเลือกตั้งอาชีพทุกสำนักอ่านเกมทะลุฝุ่นที่ตลบอบอวล ประมวลผลจากปัจจัยบวกลบ ประกอบเงื่อนไขที่มากกว่าอิงตัวเลขตามโพลศึกเลือกตั้งแบบไทยๆที่มีจุดตัดสินมากกว่า “กระแส” ก็คือ “กระสุน”ยึดตามฟอร์ม เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ป้อมค่ายที่พร้อมสุดในด้าน “ยุทธปัจจัย” ในแนวรบชิงพื้นที่ สส.เขตเลือกตั้ง จากทั้งหมด 400 เขตทั่วประเทศ“เต็งหนึ่ง” มันก็ยกให้ก๊วนเซราะกราวที่คึกคักตามภาวะขาขึ้น กับภาพ “บิ๊กเนม” บ้านใหญ่ นั่งกันหน้าสลอน แน่นห้องประชุมหรู “โรงแรมคิง เพาเวอร์” กลางกรุงเทพฯ ราศีจับ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่โชว์เดี่ยวไมโครโฟน จัดเต็มงานอีเวนต์เปิดตัวโชว์นโยบายเลือกตั้งแม้จะสะดุดจังหวะ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ไม่เต็มบัญชี 3 คน“ด็อกเตอร์เอก” เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ “มาดามแต๋ม” ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ออกลูกแหยง แค่แหย่ขา ไม่กล้าเสี่ยงลุยโคลนเต็มตัวนาทีสุดท้ายต้องไปล็อกตัว มัดคอ “ทูตสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” มาเติมภาพอินเตอร์แต่ก็ดูปึ้กสุดในสถานะของหัวขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยมตามสิทธิของ “ผู้ถือตั๋วโปรโมชันอำนาจพิเศษ” ที่ “อนุทิน” พึงมีหันไปที่ “มุมส้ม” พรรคประชาชนที่ยึดแท่น “เต็งจ๋า” ทีมคนรุ่นใหม่ที่ขี่กระแสความนิยม ยึดแท่นเหนือกว่าป้อมค่ายการเมืองอื่นในทุกโพลสำนักมาตรฐานมาต่อเนื่อง ผูกปีอันดับนำโด่งมาตลอดปาร์ตี้ลิสต์การันตีความปลอดภัยในลำดับเกิน 40 แม้แต่ 50 ยังได้ลุ้น สส.ตามฟอร์ม “กุมารเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ที่เป็น “ฤทธิ์มีดสั้น” คมในฝัก เพิ่งเผยให้เห็นทีเด็ดในสนามดีเบตโชว์กึ๋นตั้งแต่เวทีแรกสไตล์ผู้นำกองทัพส้มที่ไม่ตายไมค์ ไม่แพ้ “เดอะทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลและก็ล้ำหน้าในด้านความพร้อมเชิงบริหารการเมืองใหม่ พรรคประชาชนเปิดทีม “รองนายกฯในฝัน” ก่อนใครเพื่อน นำโดย “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล กัปตันหญิงตัวจี๊ดแต่จังหวะสะดุดของ “เด็กส้ม” ก็คือปมคดี 44 อดีต สส.ที่ค้างอยู่ในกระบวนการ ป.ป.ช.จ่อส่งต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เด็กเจอมาเยอะ วางแผนรองรับไว้หมดแล้วแนวโน้ม “มุมส้ม” เบียดกับ “มุมน้ำเงิน” ชิงแป้นอันดับหนึ่ง แย่งเป็นแกนนำรัฐบาล สถานการณ์นอกเหนือจากนั้นก็ไล่เก็บแต้มรอเป็น “ตัวแปร”แม้แต่พรรคเพื่อไทยที่เคยเป็นหัวขั้วอำนาจมาตลอด รอบนี้ถูกบ่อนตั้งราคาเป็นพรรคต่ำร้อยโจทย์ของก๊วน “เถ้าแก่ใหญ่” ต้องเร่งเครื่องให้เกิน 50 ขึ้นไป เพื่อยึดแท่น “ตัวแปรหลัก”แต่นั่นก็ต้องลดเพดานลงไปเบียดชิงกับพรรคกล้าธรรมของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่กวาดต้อนบ้านใหญ่ เบียดชิงฐานจัดตั้งหัวคะแนนโบราณแบ่งมาจากก๊วนเซราะกราวงานหินของ “บิ๊กบราเธอร์” ต้องเบ่งพลังภายในฝ่า “ด่านสกัดสีเทา”เท่าที่ดูจากต้นทุน สส.เขตหน้าเก่า “ก๊วนผู้กอง” ก็ยังหน้าตักเหนือกว่า พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ยี่ห้อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” มากู้วิกฤติตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ดูมีสีสันขึ้นในมุมของการแห่แต้มปาร์ตี้ลิสต์แต่ สส.เขตโดนดูดหายไปจนซีด แม้แต่ปักษ์ใต้ก็แทบเลือดหมดตัวเพื่อไทยล็อกสถานะ “ตัวแปร” ตัวยืน ไม่ว่าขั้วไหนก็เสียบได้ ขณะที่ประชาธิปัตย์กับ “ก๊วนผู้กองนัส” จะฟัดกันเป็น “ตัวแปร” เติมแต้มขั้วอนุรักษ์นิยมพรรครวมไทยสร้างชาติหมดพลัง “ลุงตู่กู้ชาติ” รอบนี้ “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคคงแค่ตีตั๋วรถไฟเที่ยวสุดท้ายแต่ที่ส่อหายไปจากหน้ากระดานก็คือพรรคพลังประชารัฐที่กลายเป็นสุสานทหารเฒ่า เพราะ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ใส่เกียร์ถอยดื้อๆแบบไปไม่ลามาไม่ไหว้นอกนั้นก็สารพัดยี่ห้อจำไม่หวาดไม่ไหว พรรคใหม่ป้ายแดง พรรคเก่ารีโนเวตใหม่ รองรับบิ๊กเนมที่หลุดโซนปลอดภัยในค่ายหลัก วิ่งหาพรรคลุ้นตัวแปรกระจัดกระจาย ไล่เก็บแต้มกันหืดขึ้นคอในวันที่อำนาจทุนจากขุมทรัพย์ “โจรสลัดสแกมเมอร์ข้ามชาติ” เข้ามาแทรกซึมศึกเดิมพันชิงอำนาจประเทศไทยผ่านสนามเลือกตั้งทำความหวังพรรคต่ำเอี่ยว ลุ้นถูกหวยได้หลุดเข้าสภายากเต็มกลืน."ทีมการเมือง"คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม