“ปวีณา” พา ร.ท.ทหารหญิงอ้างถูกอดีตนายทหารยศ พล.ท.วางยาข่มขืน หลังเจอกันครั้งแรกที่ร้านอาหารขณะผู้เสียหายทำงานหารายได้ตอนเป็นนักศึกษาควักเงินให้ทิปถึง 1หมื่น ขอไลน์ติดต่อนัดกินข้าวแถมใจปํ้าซื้อรถเก๋งให้ ก่อนลงเอยมีสัมพันธ์กัน ภายหลังกลับหึงหวงทุบตีจนต้องขอเลิก ล่าสุดหลอกจะไปอยู่ต่างประเทศขอเจอครั้งสุดท้าย หลงกลโดนวางยาพาไปขืนใจในม่านรูดแล้วให้ลูกน้องยศ ร.อ.ถ่ายคลิปขู่ ทนไม่ไหวร้องมูลนิธิฯพาพบตำรวจบี้เอาผิดร.ท.ทหารหญิงร้องมูลนิธิปวีณาฯอ้างถูก พล.ท.ทหารนอกราชการวางยาขืนใจถ่ายคลิปขู่ เปิดเผยเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พาทหารหญิงยศ ร.ท. อายุ 29 ปี สังกัด กรมทหารแห่งหนึ่ง เดินทางไปที่ สน.บางพลัด เข้าให้ปากคำต่อ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.อัครพล จั่นเพชร ผกก.สน.บางพลัด หลังอ้างว่าถูกทหารนอกราชการยศ พล.ท. อายุ 63 ปี วางยาข่มขืนถ่ายคลิปข่มขู่ร.ท.หญิงเล่าเหตุการณ์ว่าช่วงปี 63 ขณะเป็นนักศึกษาชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ครอบครัวยากจน ต้องเลี้ยงดูย่า ทำงานด้วยเรียนไปด้วย ช่วงกลางวันและตอนเย็นจะไปรับจ้างยืนแจกขนมตามสถานีรถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้า วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์จะทำงานร้านอาหาร ได้พบกับ พล.ท.คนดังกล่าวมากินข้าวกับกลุ่มเพื่อน วันนั้น พล.ท.ให้ทิปถึง 10,000 บาท ตกใจและดีใจมาก เพราะเป็นช่วงต้องจ่ายค่าเทอมพอดี คิดว่าเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่เมตตาเด็ก จากนั้นให้ลูกน้องมาขอไลน์และไลน์ชวนไปทานข้าวและซื้อรถเก๋งให้ 1 คัน ราคา 2 แสนกว่าบาท จากนั้น ได้มีความสัมพันธ์กันร.ท.หญิงเหยื่ออดีตนายทหารกล่าวอีกว่า ภายหลังฝ่ายชายเริ่มออกอาการหึงหวง ไม่ยอมให้ไปไหน ไม่ยอมให้พูดคุยกับผู้ชาย แม้กระทั่งเพื่อนที่เป็น LGBTQ+ก็ไม่ได้ ตลอดเวลาเหมือนเป็นนางบำเรอและทาสรับใช้ ต้องทำทุกอย่างคอยเอาใจ ทำอะไรไม่ถูกใจก็จะถูกทุบตีทำร้ายหลายครั้งจนต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว ต้องอดทนมานานเกือบ 6 ปี สุดท้ายทนต่อไม่ไหวขอแยกทาง ฝ่ายชายได้ทวงคืนทรัพย์สินที่เคยให้ แต่เมื่อคืนของให้แล้วกลับถูกคุกคามไม่จบสิ้น บุกแฟลตทหาร พังประตูคุกคาม หยอดกาวรถยนต์ ทำทรัพย์สินเสียหาย ต้องแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ แต่ พล.ท.คู่กรณีกลับเหิมเกริมเตะตนต่อหน้าตำรวจ และกระชากกล้องตำรวจ อ้างว่ารู้จักตำรวจใหญ่กระทั่งวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ท.คนดังกล่าวโทรศัพท์มาหาบอกว่าหย่ากับเมียแล้วจะไปอยู่ต่างประเทศ ขอเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย นัดพบกันร้านอาหารย่านบางพลัด ทำให้ใจอ่อนเพราะตั้งใจจะเอาพวงมาลัยไปไหว้ขอขมาและชวนน้องสาวไปด้วย ตนกับน้องดื่มไวน์ 2 แก้ว จนรู้สึกมึนงง ฝ่ายนายทหารให้ลูกน้องคนขับรถยศ ร.อ.พาตนไปเอาของขวัญที่รถ ใช้เคเบิลไทร์มัดมือมัดเท้าพาไปโรงแรมม่านรูดลงมือข่มขืนสำเร็จความใคร่ และให้คนขับรถถ่ายคลิปไว้ข่มขู่ ก่อนพามาพบน้องสาวที่ร้านอาหารและชวนกันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ไปแจ้งตำรวจ สน.บางพลัด ก่อนตัดสินใจขอความช่วยเหลือมูลนิธิฯ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และขอชีวิตคืนจากอดีตนายทหารด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เปิดเผยว่า พา ร.ท.หญิงผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอุกอาจ ขอให้ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายต้องเคารพสิทธิ์ความเท่าเทียมกัน ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ตำรวจต้องให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว มูลนิธิปวีณาฯจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาดูแลผู้เสียหายและให้กระทรวงยุติธรรมช่วยคุ้มครองพยานหากมีการข่มขู่คุกคามผู้เสียหายขณะที่ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น.กล่าวว่า พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมายให้มาดูแลคดีนี้ หลังรับเรื่องสั่งการให้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและวัตถุพยานดำเนินการให้เร็วที่สุด ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตำรวจทำตามพยานหลักฐาน หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดจะโดนแจ้งข้อกล่าวหาหมดทุกคน แม้ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดในอดีตจะมียศใหญ่โต รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ถ้ามีหลักฐานกระทำผิดจริงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่