สามพรรคการเมืองใหญ่ ส้ม แดง น้ำเงิน เปิดตัวนโยบายไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีพรรคไหนมีนโยบาย “ลดค่ายารักษาโรคที่แพงลิ่ว” สักพรรค ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพและคุณภาพชีวิตคนไทยดีขึ้น วันเสาร์สบายๆส่งท้ายปีเก่าวันนี้ ผมเลยชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “ยารักษาโรค” กันนะครับ ยายุคใหม่มีความก้าวหน้ามาก สามารถรักษาโรคร้ายให้หายขาดได้จริง แต่ก็มีราคาแพงมาก การค้นพบยาใหม่มากมาย เป็นผลมาจากความสามารถของ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่ช่วยการค้นคว้าวิจัยและพัฒนายา เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยารุ่นใหม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในเวลาไม่ถึงปีผมมีข้อมูลจากตลาดยาสหรัฐฯ ระบุว่า อุตสาหกรรมยาปี 2025 มีการค้นพบยาใหม่รักษาโรคร้ายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) และนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้การพัฒนายารักษาโรคแม่นยำมากขึ้น และบริษัทยาได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตรยาโรคที่หายากได้นานขึ้นด้วย ส่งผลให้มีการค้นพบยาใหม่ทั่วโลกกว่า 40,000 รายการ ประเทศที่มีการค้นพบยาใหม่มากที่สุดในโลก 10 อันดับแรก มีดังนี้อันดับ 1 สหรัฐฯ ค้นพบยาใหม่ 11,455 รายการ มูลค่าตลาด 673,000 ล้านดอลลาร์อันดับ 2 จีน ค้นพบยาใหม่ 7,032 รายการ มูลค่าตลาด 256,800 ล้านดอลลาร์อันดับ 3 เกาหลีใต้ ค้นพบยาใหม่ 3,386 รายการ มูลค่าตลาด 28,800 ล้านดอลลาร์อันดับ 4 อังกฤษ ค้นพบยาใหม่ 3,214 รายการ มูลค่าตลาด 52,800 ล้านดอลลาร์อันดับ 5 ออสเตรเลีย ค้นพบยาใหม่ 2,615 รายการ มูลค่าตลาด 24,200 ล้านดอลลาร์อันดับ 6 เยอรมนี ค้นพบยาใหม่ 2,545 รายการ มูลค่าตลาด 68,600 ล้านดอลลาร์อันดับ 7 ฝรั่งเศส ค้นพบยาใหม่ 2,485 รายการ มูลค่าตลาด 50,600 ล้านดอลลาร์อันดับ 8 แคนาดา ค้นพบยาใหม่ 2,446 รายการ มูลค่าตลาด 34,800 ล้านดอลลาร์อันดับ 9 สเปน ค้นพบยาใหม่ 2,381 รายการ มูลค่าตลาด 30,700 ล้านดอลลาร์อันดับ 10 ญี่ปุ่น ค้นพบยาใหม่ 2,160 รายการ มูลค่าตลาด 98,800 ล้านดอลลาร์การค้นพบยาใหม่ใน 10 ประเทศนี้ ครอบคลุม 85% ของยาใหม่ทั่วโลกในปี 2568 มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ เอา 32 บาทไทยคูณก็กว่า 41.6 ล้านล้านบาท ยาใหม่ที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ ปี 2568 มีมากกว่า 160 รายการ เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยารักษาเนื้องอก ยารักษาโรคเบาหวาน ยาลดน้ำหนัก ยารักษาโรคเลือดออกไม่หยุด ยารักษาความเจ็บปวดและเส้นประสาท ยารักษาการติดเชื้อ ฯลฯ ยาใหม่ที่ใช้รักษา โรคหายาก (Orphan Diseases) มีราคาแพงมาก เช่น ยีนบำบัด เพื่อรักษาโรคพันธุกรรมที่มีผลต่อสมอง ราคา 4.25 ล้านดอลลาร์ต่อการรักษาหนึ่งครั้ง ยีนบำบัดสำหรับโรคเลือดออกไม่หยุด ไฟเซอร์ตั้งราคาที่ 3.5 ล้านดอลลาร์ที่น่าเป็นห่วงคือ ราคายาในปี 2025 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.4% แต่โซนเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งไทยเพิ่มขึ้นถึง 12.3% สูงกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลให้ค่ายาค่ารักษาแพงขึ้นมากเห็นราคายาในสหรัฐฯแล้ว ก็ต้องชื่นชม ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กล้าเปิดศึกชนกับบริษัทยายักษ์ใหญ่ทั่วโลก ออกคำสั่งฝ่ายบริหารบังคับให้ผู้ผลิตยาทั่วโลกที่ส่งมาขายในสหรัฐฯต้องลดราคายาลง มิฉะนั้นจะถูกขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 200% ทำให้ 17 บริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯและยุโรป ต่างยอมลงนามข้อตกลงลดราคายากับประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยจะมีการตั้งราคาใหม่ทั้งหมดบริษัทยาเหล่านี้ ยังตกลงที่จะนำยาที่ขายดีที่สุดลงในเว็บไซต์ เพื่อขายตรงถึงผู้บริโภคในแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ TrumpRx ที่ทรัมป์จะเปิดตัวในเดือนมกราคม 2569 ด้วยก็ต้องชื่นชมความกล้าหาญของ ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่สามารถกดดันให้บริษัทยายักษ์ใหญ่ทั่วโลก ยอมลดราคายาลงมาอย่างมาก เพื่อชาวอเมริกัน ผมยังไม่เคยเห็นมี นายกฯประเทศไทย คนไหน ไม่ว่าจากการเลือกตั้งหรือเผด็จการ กล้าชนกับบริษัทยาต่างชาติ เพื่อให้ลดราคายาที่โคตรแพงลงมาเพื่อประชาชน ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนคงอยากเห็น “นโยบายลดราคายาเพื่อประชาชน” เหมือนที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ มอบให้ชาวอเมริกัน จะมีพรรคไหนกล้าไหม ส้ม แดง น้ำเงิน ทำเพื่อประชาชนจริงๆ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม