หลังจากวิ่งฝุ่นตลบ งวดสุดท้าย จะมีย้ายเข้า-ขยับออก เปลี่ยนค่ายย้ายสีเสื้อก็คงมีแค่ประปราย เพราะถึงดีเดย์ เริ่มเปิดรับสมัครเลือกตั้ง สส.กันแล้วถูกอกถูกใจในสังกัดหรือกล้ำกลืนฝืนทน เพราะถึงสุดท้ายไม่ได้ “ของ” อย่างที่ต้องการนั่นก็ว่าไปตามรูปแบบป้อมค่ายการเมืองแบบไทยๆธนาธิปไตย ธนกิจธิปไตย ธนบัตรธิปไตย แล้วแต่จะเรียกขานแล้วก็ดูจะสอดคล้องกับการคาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศ ที่ยังอยู่ในภาวะทรงๆ ส่อไปทาง “ทรุดหนัก” อย่างที่หลายฝ่ายหลายสำนักประเมินแต่ล่าสุด มีข้อมูลมาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดแถลงล่าสุด ช่วงเลือกตั้งปีหน้า คาดหมายเงินสะพัดทั่วไทยถึง 4-6 หมื่นล้านบาท ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ หนุนเศรษฐกิจไทย 3 เดือนแรกของปี 2569 โตเกิน 2 เปอร์เซ็นต์ ถ้าภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวตาม เรียกว่าแม้การเมืองฝุ่นตลบช่วงเลือกตั้ง การแข่งกันดุเดือดเลือดพล่าน จ่อเปิดศึกอัดของหนัก “สาดกระสุน” ปูพรมแทบทุกป้อมค่ายแต่มองอีกที ก็ถือ “เป็นคุณ” ต่อปากท้องชาวบ้านและหากจะบอกว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายเด็ดของ “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” และรัฐบาลภูมิใจไทย “ชิ้นโบแดง น.หนู” เฟสแรกก็ไม่ผิดได้อานิสงส์ของการ “หักเกม-ต้มส้ม” ได้โชว์แก้เศรษฐกิจ เห็นผลสัมฤทธิ์กันจะจะทุกพื้นที่เร็วๆนี้ส่วนรายละเอียดเงินสะพัดที่ว่า ลำพังแค่ค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร สส. ลงพื้นที่จัดกิจกรรมการเมืองของพรรคการเมือง นั่นก็ว่าตามกำหนดตามกฎหมายไว้ก็ไม่มาก และคงไม่ถึงขั้นยกระดับเศรษฐกิจไทยได้แต่ที่ทุกสำนักคาดการณ์ไม่ได้บอก คือรายการ “ยิงอาวุธ” ซัดการรบการเมือง สาดกระสุนกันนอกระบบ บอมบ์อัดฉีดกันใต้ดินเผลอๆตัวเลขน่าจะพุ่งไปเฉียดแสนล้านบาทโน่นทั้งหมดทั้งปวง ว่ากันขำๆภาพรวม และ “โลกของความเป็นจริง” ก็ดูเหมือนจะสวนทางที่แต่ละพรรคการเมือง พาคนไทยเคลิ้มคล้อย ฝันใฝ่โลกอุดมคติ “ยูโทเปีย”บอกปัดเรื่องทุนเลือกตั้ง ไม่นิยมชมชอบเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ไปจนกระทั่งตั้งข้อรังเกียจ “โลกสีเทา” ประกาศก้อง ขอไม่ร่วมสังฆกรรมตำบอนด้วยโลกใบนี้ของนักการเมืองไทย สวยสดงดงามจริงๆและอีกเดือนกว่าๆนับจากนี้ คนไทยจะได้อิ่มจุกๆกับความฝันที่แต่ละพรรคจะขนมาประเคนถึงหน้าบ้าน กับนโยบายที่ชวนเคลิ้ม โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แผนงานแก้ปัญหาปากท้อง พิมพ์เขียวดูแลชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้าน ค่ารถฟรี ลดค่าไฟ หั่นค่าน้ำ ค่ารถไฟฟ้าไปจนกระทั่งชี้ชวนให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของประเทศไทย กับสารพัดเมกะโปรเจกต์พัฒนาชาติ จะเร่งยกเครื่องอุตสาหกรรม ภาคการผลิต ปรับโครงสร้างขนานใหญ่ ดันภาคธุรกิจเทคโนโลยีทันสมัยใหม่ นิวเอสเคิร์ฟต่างๆนานาฟังตามกันไปก็มีหวัง แทบทุกพรรคต่างประกาศจะทำให้ประเทศไทยพ้นจาก “กับดักรายได้ปานกลาง” สู่ประเทศที่พัฒนาแล้วเจริญแล้ว ออกจากหุบเหวลึกทางเศรษฐกิจได้แน่นอนแต่คาดไว้หลังเลือกตั้ง คนไทยคงต้อง “ตื่น” โดยไม่ต้องปลุกกลับสู่โลกของความเป็นจริง ภาพการบริหารประเทศของนายกฯ รัฐบาล รัฐมนตรี และ สส. ที่ปรามาสไว้ล่วงหน้ากันได้ คงหนีไม่พ้นแบบเดิมๆ แผนงานโครงการนโยบาย ทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง หรือเดินหน้าก็แฝงพ่วงวาระผลประโยชน์การเมือง ประโยชน์กลุ่มทุน ประโยชน์พวกพ้องเครือข่ายนโยบายแนวอัดฉีดประชานิยมยังเป็นสูตรขายดี จัดเงินอุดหนุนทุกเรื่องที่มีปัญหาเช่นเดิมส่วนการปรับโครงสร้าง ยกเครื่องเศรษฐกิจ หาลู่ทางประเทศใหม่ๆก็คงค้างอยู่ในแผนพิมพ์เขียวหนำซ้ำปัญหา “ทุนเทา” ก็ไม่รู้จะกวาดล้างกันสิ้นซากหรือไม่ประเทศไทย พ.ศ.หน้า คงไม่พ้นวนกลับมาที่เดิม.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
