สมภารเจ้าสำนักสงฆ์คลั่งรัก ผ้าเหลืองร้อน ถอดจีวรสึกออกมา บุกบ้านกระหน่ำยิงม่ายสาวคู่กิ๊กกับแม่และลูกเลี้ยงบาดเจ็บระนาว 3 คน ก่อนฉุดฝ่ายหญิงขึ้นรถกระบะพาไปปล่อยทิ้งที่สถานีอนามัยแล้วเผ่นหนี สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจตามลากคอ ทันควัน อ้างชนวนเหตุจากหึงหวงโกรธแค้นฝ่ายหญิง ที่ปันใจให้ชายอื่น อ้างแอบคบหากันมา 3 ปี ตั้งแต่ ผัวตาย ทุ่มเทดูแลทุกอย่างเร่งเก็บเงินเตรียมสึกออกมา อยู่ด้วยกันยังถูกหักอก พยายามพูดคุยปรับความเข้าใจ ไม่เป็นผล ฝ่ายหญิงไปมีชายคนใหม่แถมพามาเปิดตัว กับคนรู้จักทำเอาฉุนฟิวส์ขาดลงมือก่อเหตุอดีตสมภารหึงโหดก่อเหตุระทึก บุกยิงม่ายสาวคู่กิ๊กกับแม่และลูกเลี้ยงบาดเจ็บรวม 3 คน ก่อนฉุดหญิงสาวขึ้นรถขับหลบหนีเปิดเผยเมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 24 ธ.ค. พ.ต.ต.สฤษฏ์ ทีคะสุข สว.(สอบสวน) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่บ้านเลขที่ 106/1 หมู่ 6 บ้านแก่งระเบิด ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค รายงานให้ พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ กันตะยศ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.ผจญ หว่างอึ้ง รอง ผกก.ป. นำกำลังฝ่ายสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอาสามูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว พบปลอก กระสุนปืน 9 มม. ตกกระจายเกลื่อน 6 ปลอก และหัวกระสุน 1 หัว ตำรวจเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พบซากแมวถูกกระสุนลูกหลงตาย 1 ตัว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 3 คนคือ น.ส.กาญจนา ทองชาติ อายุ 47 ปี ถูกยิงต้นขาขวา 1 นัด ถูกคนร้ายที่ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือนายณรงค์เดช ปิ่นแก้ว อายุ 53 ปี เป็นทิดสึกใหม่ฉุดขึ้นรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บม 8409 กาญจนบุรี ขับพาออกจากบ้านไปปล่อยตัวทิ้งไว้ที่สถานีอนามัยหนองปลา ต.วังกระแจะ ห่างจากบ้านประมาณ 12 กม. ก่อนจะขับรถหลบหนีไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ยังอยู่ที่บ้านคือนางจำนงค์ เนียมศิริ อายุ 66 ปี แม่ของ น.ส.กาญจนา ถูกยิงใต้ราวนมซ้ายและต้นแขนซ้าย รวม 2 นัด และ ด.ช.ตะวัน เลื่อนลอย อายุ 13 ปี ลูกเลี้ยงของ น.ส.กาญจนา เป็นลูกติดสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว ถูกยิงต้นขาขวา 1 นัด ทั้ง 3 คนถูกช่วยเหลือนำส่ง รพ.ไทรโยคสอบสวนทราบว่านายณรงค์เดช ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตพระ เจ้าสำนักสงฆ์ป่าวนกาญจน์ อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 400 เมตร เพิ่งสึกออกมาเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ก่อนเกิดเหตุขับรถกระบะมาจอดหน้าบ้าน ลงจากรถเข้าไปพูดคุยกับ น.ส.กาญจนา แล้วมีปากเสียงทะเลาะอย่างรุนแรง จากนั้นเดินกลับไปเอาปืนที่รถออกมาจ่อยิง 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บ แล้วกระหน่ำยิงเข้าไปในบ้านอีก 5 นัด ทำให้แม่และลูกเลี้ยงของ น.ส.กาญจนา ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน และแมวตาย 1 ตัว ก่อนจะฉุด น.ส.กาญจนา ขึ้นรถพาตัวไปปล่อยทิ้งที่สถานีอนามัยแล้วขับหลบหนีไปสอบถามชาวบ้านทราบว่า ชนวนเหตุมาจากความหึงหวง หลังจากที่สามีของ น.ส.กาญจนาเสียชีวิตไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ตอนนั้นพระณรงค์เดชแอบชอบพอฝ่ายหญิงขึ้นมาจนกลายเป็นความรัก แต่ไม่ทราบว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันขนาดไหน จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ น.ส.กาญจนา ได้คบหากับผู้ชายคนใหม่และพามาเปิดตัวให้คนรู้จัก เมื่อพระณรงค์เดชทราบเรื่องจึงเกิดความหึงหวง ตัดสินใจถอดผ้าเหลืองสึกจากความเป็นพระด้วยตัวเองแล้วมาลงมือก่อเหตุดังกล่าวหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี สั่งระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งแกะรอยไล่ล่าตัวอดีตสมภารปืนโหด จนกระทั่งเวลา 13.00 น. นายณรงค์เดช ผู้ก่อเหตุที่ขับรถหลบหนีไปบ้านญาติใน ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค ญาติพี่น้องช่วยเกลี้ยกล่อมพาตัวมาส่งที่หน่วยบริการประชาชนตำบลวังกระแจะ (ตู้สายตรวจ) ถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้พร้อมปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุและรถกระบะที่ขับหลบหนี จากนั้นนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดที่เกิดเหตุใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.ไทรโยคจากการสอบปากคำอดีตพระณรงค์เดช ผู้ต้องหาให้การอ้างว่าแอบคบหากับ น.ส.กาญจนา ได้ประมาณ 3 ปี ตั้งแต่สามีฝ่ายหญิงเสียชีวิตก็จัดงานศพให้ เรื่องอื่นๆดูแลทุกอย่าง จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าแอบไปมีผู้ชายคนอื่น พยายามพูดคุยให้อภัยมาตลอดแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับ ทำให้เกิดความโกรธแค้น ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาพยายามเก็บเงินเตรียมตัวจะสึกออกมาอยู่ด้วยกันกลับถูกหักอก เสียใจมาก ตัดสินใจ ถอดผ้าเหลืองออกมาก่อเหตุ ไม่ได้ตั้งใจยิงให้ตายเพราะยังรักมาก ปืนที่ใช้ซื้อต่อมาจากคนรู้จัก ยอมรับผิดทุกอย่างและยอมรับโทษตามกฎหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนตอนนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่