“เสี่ยหนู” โต้กลับ “เท้ง” ไม่พูดอะไรมัดตัวเพราะไม่อยากกลืนน้ำลาย ลั่นไม่ออก ความเห็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม เย้ยมาเป็นนายกฯได้ “ก็เพราะเสียงของท่าน” ลีลาอุบไต๋เปิดอีก 2 แคนดิเดตนายกฯ พท.ตั้งเวทีใหญ่หาเสียง กทม.ที่แรก โว “ยศชนัน” ดึงแต้มคนกรุงได้ ยัน “จาตุรนต์” ไม่ได้ไขก๊อก แค่เปลี่ยนไปขับเคลื่อนประชามติ-แก้ รธน. “ทักษิณ” ฝากให้กำลังใจ “หลานเชน” ปชน.นัดเคลียร์กลุ่มไรเดอร์ไลน์แมนปมบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ “อภิสิทธิ์” ชูแคมเปญ “ไทยหายจน” “พีระพันธุ์- อรรถวิชช์-นราพัฒน์” 3 แคนดิเดตนายกฯ รทสช. กกต.เผย 2 วันขอใช้สิทธิ์ล่วงหน้ากว่าสองแสน “รุทธพล-ไชยชนก” สั่งลุยสอบ MOU ฉาว “ประเสริฐ” โวยขั้วตรงข้ามดิสเครดิต “ช่อ” ไม่ทน แจ้งเอาผิดพวกปั่นข่าวบิดเบือนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โต้กลับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เรื่องจับมือกับพรรคการเมืองอื่นจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ย้ำไปพูดอะไรก่อนพอทำไม่ได้จะกลายเป็นว่าต้องกลืนน้ำลาย เรื่องอะไรที่อยู่เหนือการควบคุม ไม่ขอออกความเห็นดีกว่า“อนุทิน” ไม่มัดตัวไม่อยากกลืนน้ำลายเมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 22 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีหลังเลือกตั้งอยากจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชนว่า ทำไมต้องใช้คำว่าจับมือ วันนี้คนไทยต้องสามัคคีเป็นหลัก เรามีเรื่องกับเพื่อนบ้านอยู่ เรื่องการเมืองปล่อยไปตามกลไก ใครไปพูดอะไรก่อนพอทำไม่ได้จะกลายเป็นว่าต้องกลืนน้ำลาย วุ่นวายไปหมด เรื่องอะไรที่อยู่เหนือการควบคุม ตนไม่มีความเห็นดีกว่า เมื่อถามว่านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ประกาศว่าถ้าพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนพร้อมเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทินตอบว่า มาเป็นนายกฯ ได้ก็เพราะเสียงของท่าน พรรคภูมิใจไทยวันนี้เราพยายามทำให้ประชาชนเชื่อใจ มั่นใจ เดินเข้าสู่สนามเลือกตั้งด้วยความพร้อม ด้วยนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ต่อประชาชน เมื่อถามว่าผลสำรวจประชาชนจากหลายสำนัก พรรคภูมิใจไทยอยู่ในอันดับ 3 นายอนุทินตอบว่า จากอันดับบ๊วย มาอยู่อันดับ 3 ก็ขอบคุณพี่น้องประชาชนมากๆเร่งจบข้อพิพาทเพื่อนบ้านเร็วที่สุดผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงเลือกตั้งพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีอุปสรรคต่อการหาเสียงหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า คิดว่าผู้สมัครแต่ละคนมีความพร้อมในพื้นที่ของพวกเขาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสถานการณ์ชายแดนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นอำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เราทำตามบทบัญญัติ ส่วนสถานการณ์ในอนาคตเป็นอย่างไร ต้องพยายามทำให้ข้อพิพาทและความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน มีข้อสรุปโดยเร็วที่สุด เมื่อถามย้ำว่าถึงเวลานั้นถ้าความขัดแย้งยังคงมีปัญหาอยู่ รัฐบาลกับ กกต.ต้องหารือกันใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องคุยกันอยู่แล้ว รัฐบาลให้ความร่วมมือกับ กกต.ทุกกรณีอยู่แล้วลีลาเปิดหน้าอีก 2 แคนดิเดตนายกฯเมื่อถามว่าวันที่ 24 ธ.ค. ที่พรรคภูมิใจไทยจะแถลงนโยบาย จะมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคทั้ง 3 คน ด้วยหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะก่อนกล่าวว่า “เอาเป็นว่าไม่ผิดหวังก็แล้วกัน” เมื่อถามว่าจีบนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เป็นแคนดิเดตนายกฯได้หรือยัง นายอนุทินตอบสั้นๆว่า ทำงานด้วยกัน เมื่อถามย้ำว่าทั้งสองคนตอบรับแล้วหรือไม่ นายอนุทินย้ำว่าทำงานด้วยกันต่อไป เมื่อถามว่านายกฯจะร่วมเวทีดีเบตหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้เปิดรูปโปรโมตพรรคภูมิใจไทย ที่ขนาบข้างด้วยนายเอกนิติ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ มีนางศุภจีอยู่ด้านล่าง ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดแล้วใช่หรือไม่ว่าแคนดิเดตนายกฯเป็นนายสีหศักดิ์ และนายเอกนิติ นายอนุทินตอบสวนว่า “พี่แต๋ม (นางศุภจี) ก็อยู่หนิ”“สรรเพชญ” โวจัดทัพใหญ่สงขลานายสรรเพชญ บุญญามณี ว่าที่ผู้สมัคร สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย กล่าวหลังการประชุมทำไพรมารี โหวตสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขต จ.สงขลา ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบผู้ผ่านการสรรหาครบทั้ง 9 เขต ประกอบด้วย ตนลงสมัครที่เขต 1 นายศาสตรา ศรีปาน ลงเขต 2 นายสมยศ พลายด้วง ลงเขต 3 นายโยธิน ทองเนื้อแข็ง ลงเขต 4 นายอภิชาต ลาพินี ลงเขต 5 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ลงเขต 6 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ลงเขต 7 นายฆอซาลี ดุสะเหม๊าะ ลงเขต 8 และ พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ลงเขต 9 พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมทั้งตัวบุคคล ทีมงาน และนโยบาย ผู้สมัครของพรรคทุกคนพร้อมลงพื้นที่เดินหน้าทำงานให้กับประชาชนชาวสงขลาพท.ตั้งเวทีใหญ่หาเสียง กทม.ที่แรกช่วงสายที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงรายชื่อ ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อที่ปรากฏตามสื่อว่าอีก 1-2 วันจะพิจารณาจัดลำดับกันอีกครั้ง ชื่อที่ปรากฏต่อสาธารณะขณะนี้ เรียงตามตัวอักษร ก-ฮ เท่านั้น ก่อนไปสมัครวันที่ 28 ธ.ค. เมื่อถามว่าแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คน ควรอยู่ในบัญชีลำดับต้นๆหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ควรอยู่ลำดับต้น เพราะเป็นบุคคลสำคัญของพรรค ส่วนการเปิดตัวผู้สมัคร สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อนั้น ขณะนี้ผู้สมัคร สส. 400 เขต เข้าสู่กระบวนการสรรหาของพรรคเรียบร้อยแล้ว วันที่ 25 ธ.ค.นี้ จะเปิดตัวทั้ง 400 เขต และบัญชีรายชื่อ 100 คน ที่พรรคเพื่อไทย หลังผ่านกระบวนการสมัครเรียบร้อยแล้ว พรรคจะเร่งเดินหน้าหาเสียงทันที รวมถึงมีกำหนดปราศรัยใหญ่ไว้แล้ว เวทีแรกเป็นที่กทม.โว “ยศชนัน” ดึงแต้มคนกรุงเทพฯได้เมื่อถามว่า ผลโพลคน กทม.เกือบ 50% ยังไม่ตัดสินใจจะดึงคะแนนเสียงส่วนนี้ได้มากน้อยแค่ไหน นายประเสริฐตอบว่า เรามั่นใจ เพิ่งเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯไปไม่กี่วัน แต่มีคะแนนนิยมผลโพลดีขึ้นตลอด มั่นใจจะแย่งคะแนนส่วนนี้ได้ เพราะ แคนดิเดตฯทั้ง 3 คน มีความรู้ ความสามารถโดนใจประชาชน เมื่อถามว่า พรรคประเมินหรือไม่ว่าคะแนน นิยมของนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกฯ บางโพลที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายประเสริฐตอบว่า มีการพูดคุยกันอยู่ คะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้นมาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะนายยศชนันเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ มีความรู้ เป็นจุดขาย อยู่ในช่วงเวลาที่ใช้พลังขับเคลื่อนประเทศได้อย่างเต็มที่ การเป็นแคนดิเดตฯพรรคเพื่อไทยที่มีฐานคะแนนอยู่แล้ว ถือว่าส่งเสริมกันและกัน นอกจากนโยบายแล้ว มั่นใจว่าตัวนายยศชนันจะดึงคะแนนกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจได้ เพราะหลังลงพื้นที่ได้รับคะแนนตอบรับดียัน “จาตุรนต์” ไม่ได้ไขก๊อกทิ้งพรรคนายประเสริฐยังกล่าวว่า วันที่ 27 ธ.ค.ที่จะมีการเปิดรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต โดยในพื้นที่ กทม. นำโดยนายยศชนัน ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ไปที่ จ.เชียงใหม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกฯอีกคนไปที่ จ.ขอนแก่น ส่วนวันที่ 28 ธ.ค.จะสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อพร้อมกัน ส่วนกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ทำหน้าที่นี้มาพักหนึ่งแล้ว ได้วางยุทธศาสตร์ร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค ขณะนี้เข้าสู่การเลือกตั้ง จึงแจ้งมายังตนและหัวหน้าพรรค ว่า ประสงค์อยากทำเรื่องประชามติ และรัฐธรรมนูญ พรรคก็เห็นด้วย จะให้การสนับสนุนนายจาตุรนต์ขับเคลื่อนการทำประชามติ ยืนยันนายจาตุรนต์ไม่ได้ออกจากพรรคเพื่อไทย เพียงแต่ภารกิจหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป คณะกรรมการยุทธศาสตร์ยังเป็นชุดเดิม ส่วนประธานคนใหม่กำลังพูดคุยกันอยู่“ทักษิณ” ฝากให้กำลังใจ “หลานเชน”ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อม น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ภรรยา เป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อมานายพานทองแท้ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมว่า สุขภาพคุณพ่อถือว่าดี ส่วนปัญหาความเครียดหรือความดัน เป็นปกติดี คุณพ่อมีสอบถามเรื่องหลานๆ บอกว่าคิดถึงหลาน ส่วนตารางกิจกรรมต่างๆ ภายในเรือนจำในช่วงปีใหม่ ยังไม่ทราบรายละเอียด ทั้งนี้คุณพ่อยังฝากให้กำลังใจนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยด้วย ก่อนเดินทางกลับนายพานทองแท้และภรรยาได้ทักทายกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจอยู่ด้านหน้าเรือนจำฯ ก่อนขึ้นรถยนต์ส่วนตัวและเดินทางกลับปชน.นัดเคลียร์ไรเดอร์ปมปาร์ตี้ลิสต์ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชน (ปชน.) ว่า วันที่ 23 ธ.ค. กลุ่มสหภาพไรเดอร์-Freedom Rider Union นัดกลุ่มไรเดอร์มาทวงถามจุดยืนของพรรค และผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ กรณีนายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ อดีตผู้บริหารระดับสูงกลุ่มบริษัทไลน์แมน-วงใน ที่เข้ามาเป็น 1 ใน 100 รายชื่อผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากเหล่าไรเดอร์ ถึงข้อพิพาทด้านค่าแรงที่อาจไม่เป็นธรรม ในช่วงที่นายอิสริยะดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทไลน์แมน ขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม. พรรค ปชน. เชิญชวนพี่น้องไรเดอร์ และทุกคนที่สนใจประเด็นนี้ มาร่วมวงพูดคุยแลกเปลี่ยน ถึงข้อห่วงกังวลที่มี แม้เป็นคำติติง คำวิพากษ์วิจารณ์ ก็พร้อมยินดีรับฟังทุกอย่างไปปรับปรุง“อภิสิทธิ์” ชูแคมเปญ “ไทยหายจน”ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 ในธีม “ไทยหายจน” ว่า หลังพรรคเปิดสำรวจความคิดเห็นประชาชนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ผ่านกิจกรรม “ประเทศ ไทยไม่ทน” เห็นว่าการคอร์รัปชันเป็นต้นตอของปัญหา จนเกิดคำถามสุดท้ายว่า “เมื่อใด คนไทยจะหายจน” การเลือกตั้งในเดือน ก.พ.2569 พรรคประชาธิปัตย์และพี่น้องประชาชนจะกลับมาจากปัญหา “ทนหายใจ” เป็น “ไทยหายจน” ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะเรื่องปัญหาทางการเงิน หรือเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงปัญหาจนปัญญาจากระบบการศึกษา หรือจนตรอกเพราะไม่มีทางสู้ในการประกอบอาชีพ พรรคจะยึดแคมเปญนี้เป็นแกนหลักใช้ในการหาเสียง อาสาขจัดความจน แก้ปัญหาสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิต ภายในสัปดาห์นี้จะเปิดตัวผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อทั้ง 100 คน รวมถึง 3 แคนดิเดตนายกฯรทสช.เปิดแล้ว 3 แคนดิเดตนายกฯขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ร่วมแถลงนโยบายและเปิดสโลแกนพรรค “เด็ดขาดแก้วิกฤติพลิกโฉมประเทศ” พร้อมเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ได้แก่ นายพีระพันธุ์ นายอรรถวิชช์ และนายนราพัฒน์ มีนโยบายที่น่าสนใจ อาทิ ยกเลิก MOU 43-44 สร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา รับเบี้ยเลี้ยงออกรบ 2 แสนบาท เกณฑ์ทหารสมัครใจรับ 3 หมื่นบาท ทหารเกณฑ์ส่วนใหญ่รายได้น้อย ต้องดูแลครอบครัว รับไปเลยเงินเดือนบวกเงินค่าครองชีพเดือนละ 15,000 บาท ออกกฎหมายประหารชีวิตคนโกงชาติ ลงโทษหนักสแกมเมอร์ เสรีโซลาร์ ไม่ต้องขออนุญาต ค่าไฟถูกได้อีก ฯลฯ เมื่อถามว่าหลังเลือกตั้งมีโอกาสร่วมรัฐบาลกับพรรค ภท.หรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ถ้าร่วมกันตนก็อยู่ร่วมในรัฐบาล และต้องเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่เอาปัญหาส่วนตัวมาเกี่ยวโอกาสใหม่ชูธงเปลี่ยนอนาคตไทยน.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ กล่าวว่า พรรคทำการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. และตัวแทนจากทั่วทุกภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “วิกฤติเปลี่ยนไทย โอกาสใหม่เปลี่ยนอนาคต” มีผู้มีประสบการณ์การทำงานจริงในระบบราชการระดับประเทศ เข้ามาจัดการอย่างเชี่ยวชาญ นำโดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ หัวหน้าพรรค นโยบายพรรคไม่ใช่นโยบายขายฝัน แต่ทำได้จริง วันนี้ประเทศไทยไม่ใช่สนามฝึกมือ แต่ต้องการคนที่มีประสบการณ์ และพร้อมรับผิดชอบจริง ส่วนปัญหาคุณภาพชีวิตคนไทย โดยเฉพาะใน กทม.ไม่ได้เกิดจากการขาดงบประมาณ แต่เกิดจากขาดการวางแผนเป็นระบบ พรรคจึงเสนอการยกระดับชีวิตประชาชนตั้งแต่เกิดจนถึงบั้นปลายชีวิตผ่านระบบสาธารณสุขที่ป้องกันโรคควบคู่การรักษา ส่วนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ไม่ได้เริ่มด้วยการแจกเงิน แต่เริ่มจากทำให้ประชาชนแข็งแรงพอที่จะแข่งขันได้2 วันขอใช้สิทธิล่วงหน้ากว่า 2 แสนวันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ถือเป็นวันที่ 2 ของการเปิดให้ลงทะเบียน พบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งยื่นขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร รวม 106,555 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ลงทะเบียนนอกเขตเลือกตั้ง 96,132 คน และผู้ลงทะเบียนนอกราชอาณาจักร 10,413 คน รวม 2 วัน มีผู้ยื่นขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งสิ้น 205,455 คนนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการทำไพรมารีโหวตของแต่ละพรรคการเมืองว่าทุกพรรคสามารถดำเนินการได้เลย แต่ต้องถูกกฎหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับพรรค วันนี้มีพรรคการเมืองส่งเอกสารจัดตั้งสาขาและตัวแทนพรรคเข้ามาวันละ 100 แฟ้ม มั่นใจว่าสามารถตรวจสอบและส่งผู้สมัครได้ทัน สำหรับการส่งผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคที่มีเอกสารถูกต้องครบถ้วนเท่านั้นจึงจะสามารถส่งผู้สมัครได้“รุทธพล” สั่งเดินหน้าสอบ MOU ฉาวอีกเรื่อง พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเรียกนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มาสอบสวนกรณี MOU ระหว่างกระทรวงดีอีกับบริษัทไพรม์ ออพ พอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วิซีซี จากประเทศสิงคโปร์ หลังดีเอสไอเข้าสอบปากคำอดีตปลัดกระทรวงดีอี ให้ข้อมูลเชื่อมโยงถึงระดับนโยบายว่า รายละเอียดคงต้องถามดีเอสไอ เมื่อถามว่าช่วงนี้ใกล้ช่วงเลือกตั้ง เป็นการดิสเครดิตทางการเมืองกันหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพลตอบว่า ไม่ทราบ เรื่องรูปคดีและสำนวนต้องถามดีเอสไอ ให้นโยบายไปว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะมีประชาชนเกี่ยวข้องมากกว่า 1.2 ล้านคน ในเรื่องการสแกนม่านตา และเราไม่ทราบว่าข้อมูลตรงนี้จะถูกเอาไปทำอะไรบ้าง“ไชยชนก” อ้างทำตามหน้าที่ส่งข้อมูลนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ จากคำให้การของอดีตปลัดกระทรวงดีอีจะมีการเรียกนายประเสริฐ ต้องรอดูผลการวินิจฉัย หน้าที่ของตนเบื้องต้นคือการรวบรวมข้อมูลที่ตรวจสอบพบในกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งให้กับดีเอสไอ มีเอกสารสำคัญหลายส่วนที่มีข้อน่าสงสัย แต่การวินิจฉัยเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ“ประเสริฐ” โวยขั้วตรงข้ามดิสเครดิตด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.ดีอี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากดีเอสไอ อยากจะชี้แจงว่าการทำข้อตกลงต่างๆกับกระทรวงดีอี จะดูรายละเอียดว่าข้อตกลงนั้นทำได้หรือไม่ มีหน่วยงานราชการตรวจสอบทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อดูครบถ้วนแล้วจึงลงนามได้ ยืนยันว่ากระบวนการขั้นตอนต่างๆ เป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีหมกเม็ดอะไร แต่ไม่ทราบว่านายเบน สมิท มาปรากฏตัวอยู่ในงานลงนาม MOU ได้อย่างไร ตนไปร่วมในฐานะพยานลงนาม MOU การลงนามเป็นฝ่ายราชการ โดยปลัดกระทรวง และตัวแทนบริษัทสิงคโปร์ แต่ละปีกระทรวงเซ็น MOU หลายหน่วยงานมากทั้งภาครัฐ เอกชน ต่างประเทศ และในประเทศ ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายเบน สมิท ระหว่างลงนามก็ไม่ได้พูดคุยกัน คิดว่าฝ่ายไม่หวังดีพยายามโยงเป็นเรื่องการเมืองที่กำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง ดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามให้เสียหาย โดยปราศจากข้อเท็จจริง ยืนยันพร้อมชี้แจงต่อดีเอสไอ หากได้รับหนังสือเชิญมาป.ป.ช.ปัดฟัน 44 สส.ส้มไม่ใช่การเมืองอีกเรื่องนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าว ป.ป.ช.เตรียมลงมติคดีผิดจริยธรรมร้ายแรงอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่เข้าชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า ยังไม่เห็นวาระ แต่อำนาจการบรรจุวาระเป็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยืนยันว่าคดีอดีต 44 สส.ก้าวไกล เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่เคยแถลงไว้ และคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง“ช่อ” แจ้งฟันพวกปั่นข่าวบิดเบือนที่ สน.ทองหล่อ น.ส.พรรณิการ์ หรือช่อ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า นำหลักฐานข้อความในเฟซบุ๊ก เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่ข่าวปลอมในโลกออนไลน์ ในข้อหาหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง ปกป้องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ฟ้อง 4 แอ็กเคาต์ มีแอ็กเคาต์ต้นเรื่องคือ “เพจหมึกซึม” และบุคคลที่แชร์ต่อ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ยืนยันไม่เคยพูดตามที่ถูกบิดเบือน เพราะไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับใครเลย ฉะนั้นข้อความนี้เป็นข้อมูลเท็จ เป็นข่าวปลอม ที่จงใจให้เกิดความเสียหาย มีคนนำไปแชร์ต่อหลายคน ทั้งนักการเมืองที่มีตำแหน่งเป็นอดีตโฆษกพรรค แอ็กเคาต์ IO ทหาร และอดีตนักดนตรี ลงแคปชันที่บิดเบือนด่าทอว่าขายชาติ วันนั้นพูดในรายการถกไม่เถียง วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนายอนุทินที่ไม่มีการปราบปรามสแกมเมอร์อย่างจริงจังว่า “รัฐบาลอนุทินกางแผนปราบสแกมเมอร์ และที่บอกว่าจะรบให้จบนั้น จบอย่างไร แต่ไม่ต้องบอกรายละเอียดแผนที่การรบ ไม่อยากทราบ เพราะถ้าต้องบอกละเอียดจะทำให้คู่กรณีทราบ” แต่ข้อความดังกล่าวถูกนำไปตัดต่อบิดเบือนคำพูด ขอให้ประชาชนไตร่ตรองว่า พรรคประชาชนเป็นผู้เปิดโปงเรื่องนายเบน สมิท แต่กลับถูกกระบวนการใส่ร้ายป้ายสีสร้างเฟกนิวส์ ในช่วงที่ใกล้เลือกตั้งยื่น อสส.ไล่บี้สอบคดีฮั้วเลือก สว.ที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด นายธนวัตน์ ศรีสุข พร้อมนายสาโรจน์ สุวรรณวงศ์ และ น.ส.ณภัทร โชติพฤกษ์ชูกุล ในนามคณะตัวแทนสว.สำรอง เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน รอบด้าน และเป็นไปตามหน้าที่ตามกฎหมาย ในคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีมีพฤติการณ์ทุจริตและสมคบกันกระทำความผิดในการเลือก สว.ปี 2567 นายธนวัตน์กล่าวว่า มีข้อเสนอให้อัยการสูงสุดเรียกตรวจสอบคำให้การพยานทุกปาก รวมถึงพยานที่ยัง ไม่ได้สอบสวน เพื่อตรวจสอบบทบาทและแจ้งข้อกล่าวหาให้ครบถ้วน นำคำให้การและสำนวนคดีทุจริตเลือก สว. ที่ กกต.ดำเนินการสอบสวนและไต่สวนไว้มาเป็นพยานหลักฐานประกอบการพิจารณา สั่งสอบสวนบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ อดีตและปัจจุบัน กรรมการ กกต. รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และนำพยานหลักฐานทางการเงินจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาประกอบสำนวน พร้อมสอบสวนผู้ช่วย สว. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่