จากศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป ก้าวสู่บทบาทใหม่ๆ สาวเจ้าเสน่ห์ พิมมา Pixxie หรือ พิมมาดา ใจสักเจริญ ประเดิมเล่นหนังครั้งแรกใน "พนอ 2" ภาพยนตร์ไสยศาสตร์ สยองขวัญที่พร้อมปล่อยของให้ทุกคนสยองคูณสอง "มาลัยไทยรัฐ" เลยชวนสาวพิมมา Pixxie มาลุคผมสั้น สาดความสดใสขยุ้มหัวใจแฟนๆ พร้อมรีวิวความหลอนก่อนชมพร้อมกัน 15 มกราคม 69 ในโรงภาพยนตร์ถึงเป็นคนกลัวผีแต่ก็โดดเข้าสู่จักรวาล “ลองของ” สุดหลอน สยองขวัญ “ที่ตัดสินใจรับเพราะพนอ 2 คือหนึ่งโอกาสได้ฝึกพัฒนาตัวเอง ด้วยความเป็นหนังสยองขวัญ พิมมาไม่เคยมีประสบการณ์เล่นหนังแนวไสยศาสตร์มาก่อน เป็นอีกหนึ่งชาเลนจ์ เพราะถ้าเราอยากเป็นนักแสดงและพัฒนาฝีมือการแสดงของเรา ก็เป็นโอกาสที่ดีมากๆที่จะรับเรื่องนี้ มีความท้าทายหลายอย่าง การรับครั้งนี้ต้องอาศัยเครื่องมือ นักแสดง หลายๆอย่างมาประกอบทำให้เราสามารถเข้าใจเหตุการณ์และตัวละคร รู้สึกว่าการเล่นหนังได้ออกจากเซฟโซนที่ไกลที่สุด เป็นการพัฒนาตัวเองได้ดีมากๆ” ได้สกิลใหม่ๆ “น่าจะเกี่ยวกับจินตนาการ ไม่เคยมีประสบการณ์ด้วย อาศัยความเข้าใจ ก็ถามพี่ๆ นักแสดงและพี่ตั้ม (พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว) ผู้กำกับ ต้องเห็นมันเป็นแบบไหน ของจริงถ่ายทำไม่ได้มีให้เราเห็นขนาดนั้น ก็อาศัยความเข้าใจค่ะ”ต้องท่องบทสวดด้วยเป็นยังไงบ้าง “กลัวค่ะ (หัวเราะ) เขาใช้คาถาจริงด้วยและซีนที่พิมมาเล่นน่ากลัวประมาณนึง เราเล่นกับวิญญาณ เราไม่รู้จะมีของจริงตามมาด้วยไหม พอเราอยู่ที่กองมีพี่ๆ เมจิกไดเรกเตอร์คอยสวดให้ ทำให้พาร์ต นักแสดงสบายใจมากขึ้นและกล้าที่จะกระโจนเข้าไปในบทบาทนั้นมากขึ้น และเป็นกฎของเขาห้ามท่องคนเดียวตอนกลางคืน ต้องอาศัยซ้อมตอนมีเพื่อนอยู่ด้วย ท่องให้เพื่อนๆพิกซี่ฟัง จนทุกคนบอกว่ากลัวค่ะ (หัวเราะ)” ถ่ายเรื่องนี้เจอเหตุการณ์แปลกๆบ้างไหม “โชคดีที่พิมมาไม่ได้เป็นคนมีเซ้นส์อยู่แล้ว พี่ๆ เมจิกไดเรกเตอร์มาเล่าให้ฟังหลังถ่ายจบไปแล้ว มันก็มีนะ ซีนที่เราท่องคาถาเขาก็มาจริงๆ ตัวพิมมาตอนถ่ายไม่เห็นและพี่เขาไม่บอกเพราะกลัวหนูสติแตก”หนังก็เล่น เพลงก็ทำแยกร่างยังไงก่อน “ก็แยกร่างได้บ้างไม่ได้บ้างค่ะ (หัวเราะ) สู้ค่ะ อาจจะหนักหน่อย ทำงานโชว์เสร็จเที่ยงคืน พอเช้าต้องตื่นไปถ่ายหนัง เวลาพักค่อนข้างน้อยแต่หนูรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เราไม่รู้จะได้โอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ เมื่อโอกาสเข้ามาอยากทำเต็มที่ในทุกๆโอกาสเลย” มีข่าวว่าปีหน้าจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ของพิกซี่ด้วย “ใช่ค่ะ เราจะทำคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 2 วันที่ 7 ก.พ. จัดที่อิมแพ็คด้วย เลยรู้สึกเป็นบิ๊กสเต็ปของพิมมาเองได้มีคอนเสิร์ตใหญ่ เป็นอีกหนึ่งปีที่พิกซี่กำลังจะเติบโตขึ้นและ ปีหน้ามีโปรเจกต์มากมาย อยู่กันยาวๆ ช่วงนี้ซ้อมหนักๆ มีเรียนเต้นเรียนการแสดงเพิ่มเติม เพราะเราอยากนำไปพัฒนาเพื่อให้คอนเสิร์ตออกมาดีที่สุด” ชีวิตโฟกัสแต่งานและงาน แล้วมุมความรักล่ะปิดไปก่อนเลยมั้ย “ตอนนี้โฟกัสเรื่องงานก่อนค่ะ (หัวเราะ) ปีนี้พอเราทำงานเยอะ อย่าว่าแต่ความรักเลย แม้แต่เพื่อนเรายังไม่ค่อยได้เจอเลย ช่วงนี้ยังโสดอยู่ค่ะ ทำงานไปก่อน” แม่มีห้ามไม่อยากให้มีแฟน “เขาไม่ห้ามเลยค่ะ เขาชอบแซวเวลาหนูมีความรัก แต่ช่วงนี้เขารู้แหละว่าหนูเหนื่อยๆ ทำงานมากกว่า เขาจะซัพพอร์ตในแบบของเขา” มุมมองความรักล่ะ“เป็นคนชอบความรักมากๆ ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก หนูรู้ตัวว่าเป็นคนขับเคลื่อนด้วยความรักประมาณนึงในการใช้ชีวิต ถ้าเรามีแฟนแล้วทำให้ชีวิตเราโพซิทีฟ ก็ควรที่จะมี รู้สึกว่าเราก็โตมีชีวิตที่ต้องรับผิดชอบเยอะขึ้น การที่เรามีพาร์ตเนอร์ที่ดี แล้วส่งเสริมกันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามีแล้วไม่ช่วยให้เรามีความสุขขึ้นหรือทำให้เราคิดเยอะกว่าเดิม เหนื่อยกว่าเดิม ทำงานไปก่อนดีกว่า ตอนนี้ได้รับความรักจากพี่ๆ จากเพื่อนๆร่วมงาน จากเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย จากครอบครัวเต็มที่มากๆ เลยรู้สึกว่ายังมีความสุขดีด้วยตนเองด้วย โชคดีมีความรักอยู่รอบกายจริงๆค่ะ”. อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่