สนามปราบเซียน...“กรุงเทพฯ” เมืองหลวงของประเทศที่มีประชากรระดับ “ครีม” อาศัยอยู่ พูดง่ายๆ คือชนชั้นนำของประเทศเป็นปัญญาชนที่มีความรู้และรับรู้การเมืองมากสุด ดังนั้นการเลือกตั้ง ณ สนามแห่งนี้จึงต้องพิเศษ พรรคไหนจะได้ สส.มาก จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้การเลือกตั้ง สส. ณ พื้นที่แห่งนี้ก็มีปรากฏการณ์ที่ไม่เหมือนใคร บางพรรคเด่นดัง เคยได้รับการเลือกตั้งครบทุกเขตแต่พอเลือกอีกได้มาเพียง 1 คน ก็มีบางพรรคเคยได้มาเพียงคนสองคนกลับได้ยกจังหวัดก็มีพูดง่ายๆว่าคนกรุงเทพฯนั้นหากพรรคไหนกระแสจุดติดก็มีโอกาสกวาดทั้งจังหวัดได้ อย่างคราวที่แล้ว “ประชาชน” ในนาม “ก้าวไกล” ก็ยกจังหวัดมาแล้วเหลือ 1 เก้าอี้ให้ “เพื่อไทย”ดังนั้นการเลือกตั้งทุกครั้ง สนามเมืองหลวงจึงได้รับความสนใจจากคนไทยมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะวัดว่าพรรคไหนจะชนะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วพรรคไหนจะ “อกหัก” ก็น่าสนใจไม่น้อย!ว่าไปแล้วนับแต่อดีตมาประชาธิปัตย์ ไทยรักไทย แล้วก็มาเพื่อไทย จนมาถึงประชาชน ต่างก็ได้ลิ้มรสชัยชนะและความพ่ายแพ้กันมาทั้งนั้นคราวนี้มาดูกันว่า “ประชาชน” จะเป็นอย่างไรหลังจากกวาดทุกเขตมาแล้ว“เพื่อไทย” จะเป็นอย่างไรหลังจากถูกสอยลงมากอง“ประชาธิปัตย์” ที่หายหน้าไปนานจะคืนกลับสู่ฐานเก่าได้หรือไม่“ภูมิใจไทย” น้องใหม่ที่หวังจะปักหมุดให้ได้ในครั้งนี้ ก็น่าลุ้นจริง...“ประชาชน” มีการปรับเปลี่ยนผู้สมัครจากชุดเดิมหลายคนตามแนวทางของพรรคที่เชื่อว่าส่งใครก็ได้เพราะไม่ได้ยึดตัวบุคคลแต่ยึด “อุดมการณ์” ของพรรค“ประชาธิปัตย์” ระดมทีมงานคัดสรรผู้สมัครซึ่งมีทั้งสส.เก่า หน้าใหม่ และคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจก็หวังว่าจะได้ สส.จำนวนไม่น้อยหากได้มากโอกาสที่พรรคจะฟื้นตัวเร็วก็มีมาก!“ภูมิใจไทย” ให้นักการเมืองที่เคยเป็น สส.เก่าซึ่งมีเครือข่าย และยังมีนักการเมืองที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดีวางตัวบุคคลลงชิงชัยเต็มอัตราศึกนอกจากนั้นยังมีพรรคการเมืองใหม่ๆที่มีแนวทางเฉพาะด้านก็หวังว่าจะได้รับการเลือกตั้งด้วยการขาย “ของใหม่” ฉีกตลาดออกไป คนกรุงเทพฯนั้นเคยมีการเปรียบเปรยว่าเป็นคนเลือกนายกรัฐมนตรี แต่คนต่างจังหวัดล้มนายกรัฐมนตรีพูดง่ายๆคือมีบทบาทและพลังทางสังคมสูงแต่ละพรรคจึงพยายามที่จะเลือกบุคคลที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถ มีประวัติดีเพื่อส่งชื่อเป็น “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีเพื่อจะให้คนกรุงเทพฯยอมรับและมีผลต่อการชนะเลือกตั้งแต่ละพรรคจึงคัดสรรบุคคลให้เป็นแคนดิเดตพรรคละ3คน เพื่อโชว์ตัวให้เห็นว่าถ้าเลือกพรรคเขาจะได้คนคุณภาพอย่างนี้มาบริหารประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในทางการเมือง!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม