“ยังไม่พร้อมเจรจา” ไม่ต้องแจงให้รับทราบ เพราะ “ธง” ของประเทศไทยก็น่าจะมาจาก “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” กำหนดยุทธศาสตร์ประเทศไทยเอง กับสถานการณ์การสู้รบกับกัมพูชาตลอดพรมแดนประเทศ และมหาอำนาจโลกกำลัง “แหย่มือ” เข้ามาป่วนอีกรอบฉะนั้น จำลองภาพกันได้ถ้า “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐอเมริกา สายตรงมายัง “นายกฯประเทศไทย” ยื่นเงื่อนไขให้พูดคุยกับผู้นำเขมรเพื่อยุติสู้รบ กลับสู่โต๊ะเจรจากรณีนี้ “นิกรเดช พลางกูร” อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แง้มสคริปต์บอกไว้ล่วงหน้า คำตอบเดียวที่จะตอบผู้นำสหรัฐฯ คือ “โนเวย์” ณ เวลานี้ส่วนจะมองว่า ออกรูปนี้จะเป็นท่าทีแข็งกร้าวเกินไปหรือไม่ โดยเฉพาะกับ “ขาใหญ่” ของโลก และจะส่งผลกระทบตามมาด้วยแรงกดดัน ทั้งมาตรการภาษีสหรัฐฯ ความขุ่นข้องหมองใจที่ทำให้ “คาวบอยเฒ่า” เสียเครดิต ถูกแหกหน้า “ผู้นำสันติภาพโลก” ระยะยาวจะไม่เป็นผลดีตามมาแต่สำหรับผู้นำประเทศ เชื่อว่านาทีนี้อธิปไตยไทย แผ่นดินไทย ความปลอดภัยของประชาชนไทย อยู่เหนือสิ่งใด “บ้านไหนเมืองใคร ถูกรานรุก ก็ต้องปกปักรักษา”เพียงแต่ “นายกฯอนุทิน” ต้องเจอบททดสอบวัดศักยภาพ “ผู้นำในภาวะวิกฤติ” กับคิวเจรจา “ความเมือง” จะทำได้ดีกว่าพูดเร้ากระแส “ชาตินิยม” ในประเทศเพียงใดยังไงรอบนี้ก็ต้องเบี่ยงแรงกดดัน ยื้อโต๊ะ “เจรจา” ไปก่อนโดยต้องยึดหลักแม่นๆ งัดศัพท์การทูต การทหาร ชุดคำที่ฟังบ่อยๆห้วงนี้มาใช้ ประเภท “ถูกรุกรานก่อน จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตามหลักกฎหมายสากล Self-Defense และตอบโต้แบบได้สัดส่วน-โจมตีก่อนเพื่อป้องกันตัวเอง” Preemptive Strike-เลือกปฏิบัติการเป้าหมายทางการทหาร เลี่ยงบ้านเรือนพลเรือน ฯลฯไม่ต้องท่องแต่เพราะเจอมาเยอะ บวกลูกล่อลูกชน ได้โชว์จริงรอบนี้ กับเดิมพันใหญ่ภัยบ้านเมือง ไฟสงครามคุกคามความมั่นคงของประเทศ เป็นภารกิจที่สำคัญ และยากยิ่งกว่างานการเมืองอย่างที่แบ่งเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานมาเร่งแผนเลือกตั้ง โชว์เหนือ แบ็กดีมีแต้มต่อไล่ทุบคู่แข่งบารมี เปิดดีลบ้านใหญ่ กลุ่มก๊กก๊วนเข้าค่ายขยายคอก หรือหลอกล่อลวงเด็ก ด้วยของเล่นแก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา“อนุทิน” ควรปล่อย “ผู้บงการสีน้ำเงิน” หาคนเล่นแทนเพราะโจทย์มั่นคงหนักอึ้ง มีที่ต้องจัดการ “หน้างาน” อีกมาก แม้ประกาศปล่อยให้ทหารนำในการศึกสงคราม แต่นโยบายหลักภาพรวมจะ “ลอยตัว” ไม่ได้ ไม่ “ตีเช็คเปล่า” เหมือนที่ ผู้นำฝ่ายค้านค่ายส้มกระตุกเพราะ “ยุทธศาสตร์” สงคราม ผู้นำต้องกำหนด ให้ “ยุทธวิธี-ยุทธการ” การศึกเดินตามนอกจากนี้ กับเรื่องข้อมูล “การข่าว” ที่ต้องเร่งขันนอตเข้มข้น ทั้งแผนทั้งเกมต่อไปของศัตรู ทั้งในสนามรบและเวทีต่างประเทศ ล่าสุดที่หลายหน่วยงานความมั่นคงเริ่มโฟกัส กระแสข่าว “มือที่สาม”บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องจากหลายประเทศ ประเภท “นักรบรับจ้าง-มืออาชีพรับจ๊อบเรื่องโดรน” เคยฝังตัวในไทย ต้องเช็กข่าวไล่บล็อก กระทั่งเคลียร์ล้างข้ามแดนไปจนกระทั่งมาตรการปิดท่อน้ำเลี้ยง อุดรูรั่วชายแดนทั้งรายย่อย ทุนใหญ่แอบแฝง คนหน่วยงานรัฐ ที่ยังปล่อยให้ลักลอบขนยุทธภัณฑ์ สินค้า ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ตข้ามแดน ฯลฯ ต้องรีบปิดช่องจัดการพ่อค้าหัวหมอ ข้าราชการขี้ฉ้อ ใช้วิกฤติหากินเหนืออื่นใด ที่ไม่ใช่ปัจจัยข้างเคียง แต่ถือเป็นอีกมิติแนวรบหลัก ส่งผลต่อภัยคุกคามประเทศคือขบวนทุนเทา แก๊งสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ผู้นำต้องล้างให้สิ้นซากตีตรงจุด บี้ให้สุด “กล่องดวงใจ” ผู้มีอำนาจเพื่อนบ้านอย่าได้เบามือคิวทุบ “จิ้งจอกเฒ่าเขมร” ให้วิปโยคที่สำคัญได้พิสูจน์ตัวเอง ไม่ได้ดีแต่พูด พูดแล้วทำ ที่สำคัญไม่ได้ “ขยิบตา” ใดๆในวาระล้าง “ไทยเทา” ที่หลายบิ๊กเนมไปมีเอี่ยวเกี่ยวข้อง.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม