กลายเป็นเรื่องที่ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลสหรัฐฯยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะหาทางยุติสงคราม “ยูเครน” แม้ว่าการเจรจาตรงกับรัสเซียดูเหมือนจะอยู่ในสภาพชะงักงันเพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการเปิดเผยออกมาว่า ทูตพิเศษของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จัดทำข้อเสนอสันติภาพในยูเครนเสร็จสิ้นเรียบร้อย โดยเป็นข้อเสนอ 28 ประการ ในการสร้างสันติภาพยูเครน มีรายละเอียดว่า 1.อำนาจอธิปไตยยูเครนเป็นสิ่งที่ได้รับการยืนยัน 2.ข้อตกลงฉบับเต็มและครอบคลุมว่าด้วยการไม่ใช้กำลังคุกคาม จะเป็นการตกลงระหว่างรัสเซีย ยูเครน และสหภาพยุโรป ความคลุมเครือตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จะได้รับการคลี่คลาย 3.เป็นที่คาดหวังว่ารัสเซียจะไม่รุกรานชาติเพื่อนบ้านและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) จะไม่ขยายอิทธิพลไปมากกว่านี้4.จะมีการจัดหารือระหว่างรัสเซียและองค์การนาโต ซึ่งมีสหรัฐฯเป็นตัวกลาง เพื่อหาทางออกในประเด็นความมั่นคงและสร้างเงื่อนไขในการลดความขัดแย้ง 5.ยูเครนจะได้รับหลักประกันทางความมั่นคงที่น่าเชื่อถือ 6.กองทัพยูเครนจะถูกลดขนาด และมีกำลังพลไม่เกิน 600,000 นาย7.ยูเครนจะต้องระบุในรัฐธรรมนูญว่าจะไม่เข้าร่วมองค์การนาโต และทางนาโตตกลงที่จะเขียนเป็นมาตราว่าจะไม่รับยูเครน เข้าเป็นสมาชิกในอนาคต 8.องค์การนาโตตกลงที่จะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน และ 9.ฝูงเครื่องบินรบของยุโรปจะถูกส่งเข้าไปประจำการในโปแลนด์สำหรับประการที่ 10.รัฐบาลสหรัฐฯจะได้รับการชดเชยจากการมอบหลักประกันความมั่นคงแก่ยูเครน หากยูเครนรุกรานรัสเซียหรือยิงจรวดโจมตีกรุงมอสโกหรือนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กของรัสเซียย่อมเสียหลักประกันดังกล่าวในทันที แต่หากรัสเซียรุกรานยูเครนแล้ว จะเผชิญกับการตอบสนองทางการทหาร มาตรการคว่ำบาตร ต่างๆจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ สิทธิพิเศษในการยอมรับดินแดนใหม่ของรัสเซียจะถูกยกเลิก11.ยูเครนยังคงมีสิทธิที่จะเข้าร่วมกับสหภาพยุโรป และจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงตลาดยุโรปในระยะสั้น ระหว่างที่ข้อตกลงนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา 12.ความช่วยเหลือจากทั่วโลกในการฟื้นฟูยูเครนจะรวมถึง 12.1.การจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาที่จะนำไปลงทุนในภาคธุรกิจที่มีการเติบโตสูง รวมถึงเทคโนโลยี ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบปัญญาประดิษฐ์ 12.2.สหรัฐฯจะร่วมมือกับยูเครนในโครงการก่อสร้าง พัฒนา ทำให้ทันสมัย โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน รวมถึงท่อส่งและโรงจัดเก็บพลังงาน ไปจนถึงการฟื้นฟูความเสียหายจากผลกระทบของสงคราม การขุดเจาะแร่ธาตุและทรัพยากรทางธรรมชาติ 12.3. ธนาคารโลกจะมีเงินทุนพิเศษมาช่วยเร่งกระบวนการเหล่านี้ 13.รัสเซียจะกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก มาตรการคว่ำบาตรต่างๆจะมีการทยอยยกเลิกตามความเหมาะสม สหรัฐฯจะทำข้อตกลงกับรัสเซียในเรื่องความร่วมมือระยะยาวด้านพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐาน ปัญญาประดิษฐ์ ดาต้าเซ็นเตอร์ และแร่หายาก “แรร์เอิร์ธ”ในภูมิภาคขั้วโลกเหนือ รวมถึงรัสเซียจะได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมกลุ่มการเมือง G8 อีกครั้ง14.สำหรับสินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกตะวันตกอายัดไว้ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะถูกนำมาใช้ลงทุนในแผนการฟื้นฟูยูเครนที่นำโดยสหรัฐฯ และสหรัฐฯจะเป็นผู้ได้รับ 50% ของกำไรทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ ขณะที่ยุโรปจะร่วมลงทุนเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนสินทรัพย์ของรัสเซียส่วนที่เหลือที่ถูกอายัดไว้ (ราว 150,000 ล้านดอลลาร์) จะถูกนำไปลงทุนในโครงการร่วมสหรัฐฯ–รัสเซียต่างๆที่จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี และเป็นแรงบันดาลใจไม่ให้หวนกลับไปสู่ความขัดแย้งอีก15.จะมีการจัดตั้งคณะทำงานความมั่นคงสหรัฐฯ-รัสเซียมาดูแลเรื่องการดำเนินตามข้อตกลง 16.รัสเซียจะออกกฎหมายไม่คุกคามยุโรปและยูเครน 17.สหรัฐฯ-รัสเซียจะต่ออายุ ข้อตกลงขีปนาวุธและนิวเคลียร์ 18.ยูเครนตกลงในการเป็นรัฐที่ไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ 19.โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย จะผลิตไฟฟ้าให้ยูเครน-รัสเซียในอัตรา 50-50 และ 20.รัสเซีย-ยูเครนจะต้องบรรจุหลักสูตรคลี่คลายความขัดแย้งความเกลียดชังในโรงเรียน ซึ่งรวมถึงการยอมรับด้านศาสนา เชื้อชาติ เช่นเดียวกับการต่อต้านและการห้ามเผยแพร่แนวคิดนาซีสำหรับเรื่องดินแดนนั้นระบุไว้ในข้อ 21.ว่าคาบสมุทรไครเมีย จังหวัดลูกานส์ และจังหวัดโดเนตสก์ จะได้รับการยอมรับว่าเป็นของรัสเซีย จังหวัดเคียร์ซอน และซาโปริชเชียจะถูกกำหนดอาณาเขตเป็นของรัสเซียตามแนวทางปะทะในสนามรบ กองทัพยูเครนจะต้องถอนทหารออกจากจังหวัดโดเนตสก์ (ส่วนที่ยังเหลืออยู่) และกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหารทั้งสองฝ่าย แต่ให้ถือว่าเป็นดินแดนของรัสเซีย ขณะที่รัสเซียต้องยอมคืนดินแดนส่วนอื่น(ในจังหวัดคาร์คิฟ ซูมี ดนีโปรเปตรอฟสก์) แก่ยูเครนขณะที่ข้อ 22.หากตกลงดินแดนกันเรียบร้อย ทางรัสเซียและยูเครนจะต้องไม่เปลี่ยนเงื่อนไขเหล่านี้ด้วยการใช้กำลัง มิฉะนั้นหลักประกันต่างๆจะถูกยกเลิก 23.รัสเซียจะไม่ขัดขวางยูเครนในการใช้แม่น้ำดนีเปอร์ หรือเส้นทางออกสู่ทะเลดำ 24.จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการด้านมนุษยธรรมมาดูแลเรื่องเชลย ผู้ถูกควบคุมตัว จัดตั้งโครงการรวมญาติ และบรรเทาความทุกข์ยากของพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งส่วนข้อเสนอลำดับท้ายๆนั้น กำหนดว่า 25.รัฐบาลยูเครนจะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 100 วัน หลังจากการลงนามข้อตกลง 26.ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้งจะได้รับนิรโทษกรรม 27.ข้อตกลงถือว่ามีผลผูกมัดทางกฎหมาย และกำกับดูแลโดย “สภาสันติภาพ” ที่มีนายโดนัลด์ ทรัมป์ นั่งเป็นประธาน และจะลงโทษผู้ละเมิดสัญญาด้วยมาตรการคว่ำบาตร และ 28.การหยุดยิงจะมีผลทันทีหลังจากหน่วยรบของทั้งสองฝ่ายถอนกำลังไปในจุดที่ตกลงกัน เพื่อเปิดทางให้การบังคับใช้ข้อตกลงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ.วีรพจน์ อินทรพันธ์คลิกอ่านคอลัมน์ “7 วันรอบโลก” เพิ่มเติม