“เส้นทางสายไหม” เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 138 ก่อนคริสตกาล เมื่อนักสำรวจชาวจีน “จางเฉียน” เดินทางพร้อมตราประทับของจักรพรรดิ เปิดเส้นทางการทูตสู่เอเชียกลางและตะวันตก วางหลักคิด “การแลกเปลี่ยนสิ่งที่จำเป็นต่อกัน” ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยกองคาราวานพ่อค้าเดินทางจากประเทศจีน นำสินค้าทั้งผ้าไหม, เครื่องเคลือบ, เครื่องเขิน ออกไปค้าขายยังต่างแดนทั้งทางบกและทางทะเล เป็นจุดสำคัญในการศึกษาด้านภาษา, ศาสนา, ศิลปะ และวัฒนธรรม เชื่อมโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน เนื่องจากตั้งอยู่ในเมืองประวัติศาสตร์ ที่เคยเป็นจุดเชื่อมต่อบนเส้นทางสายไหมทางทะเล พิพิธภัณฑ์ “POLY MGM” เพชรเม็ดงามของ “MGM มาเก๊า รีสอร์ท” จึงเปิดนิทรรศการ “Silk Roads Beyond Borders” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 12 ปีของโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) แสดงความเชื่อมโยงสำคัญระหว่างจีนและโลก ผ่านการจัดแสดงโบราณวัตถุหายากกว่า 200 ชิ้น ถ่ายทอดเรื่องราวความรุ่งเรืองแห่งการแลกเปลี่ยนทางอารยธรรมที่ดำเนินมายาวนานหลายพันปีบนเส้นทางสายไหม ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้สัมผัสถึงความงดงามตระการตาและทรงพลัง ภายในนิทรรศการได้รวบรวมสมบัติล้ำค่าและโบราณวัตถุที่สำคัญจากพิพิธภัณฑ์ต่างๆมาจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็น ขบวนรถม้าและนักรบขี่ม้าโลหะบรอนซ์ จากพิพิธภัณฑ์มณฑลกานซู่, ขวดแก้วสีน้ำเงินทรงแปดเหลี่ยมสมัยยุคราชวงศ์หย่งเจิ้ง จากพิพิธภัณฑ์พระราชวัง, ขวดเซรามิกสีขาว-น้ำเงิน จากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติดามัสกัส, พระพุทธรูปคันธาระ จากพิพิธภัณฑ์เส้นทางสายไหมฮิรายามะ อิคุโอะ, พิณหัวนกฟีนิกซ์ ที่ได้รับการบูรณะโดยตั้นตุน, ภาพจิตรกรรมฝาผนังจำลองตุนหวง ผลงานของทายาทมรดกวัฒนธรรมจีนสี่รุ่น ถือเป็นนิทรรศการแสดงบทเรียนจากอดีตเชื่อมโยงกับปัจจุบัน ทำให้โบราณวัตถุมีชีวิตผ่านแสง สี เสียง และสร้างประสบการณ์การชมแบบอิมเมอร์ซีฟ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเสมือนเข้าไปอยู่ในเรื่องราวนั้นจริงๆ นิทรรศการครั้งนี้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน 4 พื้นที่ธีมหลัก นำเสนออย่างเป็นระบบถึงประวัติศาสตร์ของการแลกเปลี่ยน, ความสำเร็จของการผสมผสานวัฒนธรรม และวิสัยทัศน์อนาคตของเส้นทางสายไหม “ฝ่าทรายและสายลม” (Through Sand and Wind) บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของบรรพชนผู้บุกเบิกเส้นทางสายไหมโบราณ บทบาทสำคัญของการค้าขาย และการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ช่วยรักษาความรุ่งเรืองของเส้นทางนี้มายาวนานหลายพันปี “สายใยทองคำ” (Gilded Threads) นำเสนอวัฒนธรรมเชิงวัตถุ ทั้งงานทอผ้าไหม, เครื่องเคลือบ, เครื่องเขิน, เครื่องโลหะ, เครื่องแก้ว และเครื่องลงยาสี ซึ่งส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน และมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมวิถีชีวิตประจำวันของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก “กิ่งทองแห่งเส้นทางสายไหม” (The Golden Bough) ถ่ายทอดการบูรณาการทั้งด้านจิตวิญญาณและความงามทางศิลปะของเส้นทางสายไหม ผ่านรูปภาพ, ประติมากรรม และดนตรี ผสานกับการสะท้อนเชิงปรัชญาที่ปรากฏในคัมภีร์และวรรณกรรมคลาสสิก “ถนนสู่อนาคต” (Road to the Future) ค้นหาคำตอบว่ามรดกด้านวัตถุและจิตวิญญาณของเส้นทางสายไหมได้หล่อหลอมและเกื้อหนุนศิลปะร่วมสมัยอย่างไร อีกทั้งเป็นพลังสำคัญในการสร้างอนาคตของโลก ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน, การค้าขายที่เชื่อมโยงถึงกัน และความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรมต่างๆนิทรรศการ “Silk Roads Beyond Borders” ผสานระหว่าง “ตะวันออกพบตะวันตก”, “อดีตกับปัจจุบัน”, “โลกเสมือนกับความเป็นจริง” และ “วัฒนธรรมกับเทคโนโลยี” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ “POLY MGM” ในการอนุรักษ์สมบัติทางวัฒนธรรมของชาติจีนที่มีอายุกว่า 5,000 ปี ใครไปเที่ยวมาเก๊า พลาดไม่ได้เลยกับแลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม