เรื่องที่ 15 ในหนังสือ เรื่องเล็กๆ ความหมายใหญ่ๆ (อินสไปร์ พิมพ์ พ.ศ.2553 สุริยเทพ ไชยมงคล เขียน) ชื่อเรื่องคำพูดส่วนเกิน เหตุเกิดในรถเมล์ กรุงปักกิ่งของจีน...วันนั้นผมนั่งรถเมล์ไปทำงาน คนโดยสารไม่มากถึงแน่น แต่มีวัยรุ่นตัวผอมๆคนหนึ่งต้องยืนข้างกระเป๋าเดินทาง เขาแสดงชัดว่ามาจากต่างเมือง กำลังดูแผนที่ในมืออย่างลังเลไม่นาน เขาก็เอ่ยปากถามกระเป๋ารถเมล์สาว “ผมจะไปพระราชวังฤดูร้อนต้องลงป้ายไหน?”กระเป๋าสาวผมสั้นกำลังนั่งตะไบเล็บ เงยหน้าบอก “คุณขึ้นรถผิดฝั่งแล้ว ต้องข้ามไปขึ้นอีกฝั่ง”เรื่องนี้ควรจบง่าย แต่ไม่ง่าย เมื่อหลุดคำพูดส่วนเกิน “ดูแผนที่แล้ว ยังไม่รู้เรื่องอีกเหรอ?”ชายหนุ่มสุขุมเยือกเย็น ยิ้มนิดๆ เก็บแผนที่ เตรียมจะลงป้ายหน้า แต่ชายชราที่อยู่ข้างๆบอกชายหนุ่มว่า“ไม่ต้องข้ามไปอีกฝั่งก็ได้ นั่งต่อไปอีก 4 ป้าย แล้วต่อสาย 904 ก็ถึงเหมือนกัน”หากชายชราพูดแค่นี้ก็คงไม่มีอะไรต่อ แต่บังเอิญแกทนหมั่นไส้กระเป๋ารถเมล์สาวไม่ไหว หลุดคำพูดส่วนเกินออกมา “วัยรุ่นสมัยนี้ แต่ละคนช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย”บังเอิญอีก วัยรุ่นสาวอีกคนยืนไม่ไกลได้ยินเข้าหู เธอต่อความยาว “คุณลุงคะ จะว่าวัยรุ่นทุกคนไม่มีมารยาทได้ยังไง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น คุณลุงพูดอย่างนี้พวกหนูก็เสียหายกันหมด”ถ้าวัยรุ่นสาวไม่ต่อประโยคส่วนเกิน “คุณลุงอายุมากแล้ว ท่าทางน่าจะใจดี แต่ที่ไหนได้ร้ายกาจไม่เบา”หญิงวัยกลางคนกลายเป็นคนที่ทนให้เด็กๆดูแคลนคนแก่ไม่ไหว “เธอเป็นเด็กผู้หญิง ทำไมพูดกับคนแก่อย่างนั้น มีมารยาทบ้างซี! เวลาเธอพูดกับพ่อแม่เธอพูดอย่างนี้หรือ?”แหลมใส่กันแค่นี้ก็อาจจบลงได้ ถ้าหญิงกลางคนไม่หล่นคำพูดส่วนเกิน “ดูสารรูปเธอ พ่อแม่คงไม่มีเวลาสั่งสอน แต่งตัวก็อย่างกับไก่”บทวิวาทบางคำวาจาน่าจะจบลงแล้ว เพราะรถเมล์กำลังจอดป้าย พอประตูรถเมล์เปิด กระเป๋าสาวที่อดกลั้นอยู่นาน...ก็พูดว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว คนที่จะลงก็รีบลงๆ เดี๋ยวจะเสียเวลาทำงาน...”แต่ไม่น่าเชื่อ เรื่องจบไม่ได้ เมื่อกระเป๋าสาวปล่อยคำพูดส่วนเกิน...“ถ้าจะทะเลาะกันก็ไปทะเลาะกันต่อนอกรถ ถ้าไม่ลงจะหยุดรถตรงนี้...ไม่เบื่อกันหรือไง?”คำ “ไม่เบื่อหรือไง” เบื่อสิ ไม่เพียงแต่เธอที่เบื่อ ผู้โดยสารที่แน่นในรถก็เบื่อ เบื่อจะแย่กันอยู่แล้ว คนหนึ่งต่อว่ากระเป๋ารถเมล์ อีกคนต่อว่าหนุ่มบ้านนอก บ้างก็ส่งสายตาไปหาสาววัยรุ่น อีกคนต่อว่าหญิงกลางคนบางเสียงต่อว่าดินฟ้าอากาศ บางคนบ่นไปถึงลูกตัวเอง ทั้งค้นรถตอนนั้น เสียงบ่นเสียงด่าดังเซ็งแซ่ชายหนุ่มบ้านนอกไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เขาคงอดทนมาจนไม่ไหว จึงหลุดเสียงตะโกน “ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วครับ ผมผิดเองไม่ดูแผนที่ให้ดี ทำให้หลายคนอารมณ์เสีย หยุดทะเลาะกันที ขอเถิดนะครับ”เสียงทะเลาะเงียบลง มีเสียงพึมพำเบาๆ จนเมื่อหนุ่มบ้านนอก หลุดประโยคส่วนเกิน“ถ้ารู้มาก่อน คนปักกิ่งไร้มารยาทไม่มีเหตุผลอย่างนี้ ผมไม่มาเสียเลยดีกว่า”ผมเองไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้น แต่อยากเป็นพลเมืองดี ขอร้องให้ทุกคนใจเย็นๆ แต่สถานการณ์กลับพลิกผัน เป็นระเบิดทันที มีการตีกันชุลมุนทั้งคัน ตอนผมหลุดคำพูดส่วนเกิน“ถือสาอะไรกับกระเป๋ารถเมล์ที่พูดจาไม่สุภาพ คิดว่าเขาเป็นคนโง่ก็จบเรื่อง”ประโยคนี้ล่ะครับ...กระเป๋ารถเมล์สาวเธอใช้ที่หนีบตั๋วตีหัวผมแตก เรื่องจึงจบที่ทุกคนต้องไปโรงพักอ่านเพลินๆนะครับ นี่เป็นเรื่องคำพูดส่วนเกินบนรถเมล์กรุงปักกิ่ง...ไม่ใช่เรื่องประโยคส่วนเกินของนายกฯอนุทินที่เผลออยากเล่นบทเก่ง รักเมืองไทย ชูชาติไทย...แขวะท่านประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาผมเอาใจช่วยนายกฯอนุทินนะครับ...ผมอยากให้ท่านพ้นเก้าอี้การเมือง เพราะรู้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็คล้ายๆผม เบื่อบรรยากาศโจรปล้นเมืองเต็มทีแล้ว.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม