หลังจาก 33 ปีแห่งการต้องแอบลักลอบสักตามร่างกายให้ผู้คน ในที่สุด ทางการเกาหลีใต้ก็ผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้ช่างสักที่ไม่ใช่บุคลากรด้านการแพทย์สามารถประกอบอาชีพให้บริการสักได้อย่างถูกกฎหมายเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยกฎหมายใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในปี 2570 และระบุให้ช่างสักร่างกายต้องขอใบอนุญาตจากทางการ จึงจะสามารถประกอบอาชีพได้ ย้อนกลับไปในปี 2535 ศาลฎีกาของเกาหลีใต้มีคำพิพากษาให้เฉพาะแพทย์ที่มีใบอนุญาตสักเท่านั้นที่สามารถให้บริการสักบนร่างกายได้ แต่เอาเข้าจริง ก็มีแพทย์เพียงไม่กี่คนที่ยินยอมให้บริการนี้ เพราะสังคมเกาหลีใต้มีทัศนคติด้านลบต่อการสักบนร่างกายว่า มีแต่พวกแก๊งอาชญากรรมเท่านั้นที่นิยมเรื่องแบบนี้ ทำให้สถานที่บางแห่ง เช่น สระว่ายน้ำสาธารณะและห้องยิมออก กำลังกาย ห้ามคนที่สักตามร่างกายเข้าใช้บริการเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนผู้ให้บริการสักบนร่างกายมองว่า เรื่องการสักเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงแบบคดีอาชญากรรม โดยผู้ให้บริการสักหญิงรายหนึ่งบอกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนมากมายถึงต่อต้านการสัก เพราะจริงๆแล้ว มันเป็นการแสดงผลงานศิลปะผ่านเรือนร่างของมนุษย์ ซึ่งหลายคนควรชื่นชมกับสิ่งนี้มากกว่า และด้วยความที่กฎหมายห้ามคนที่ไม่ใช่แพทย์ทำการสักบนร่างกาย จึงต้องมีการแอบลักลอบทำกันในห้องที่มิดชิดและรับลูกค้าเฉพาะที่มีการแนะนำแบบปากต่อปากเท่านั้น เพราะกลัวว่าจะมีตำรวจแฝงตัวมาจับกุม อย่างไรก็ตาม ในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ชาวเกาหลีใต้รุ่นใหม่เริ่มยอมรับการสักบนร่างกายมากขึ้น จากการประเมินตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการในวงการสัก พบว่า มีชาวเกาหลีใต้ถึง 16 ล้านคนที่มีรอยสักบนร่างกาย สำหรับช่างสักหลายคน การที่รัฐบาลออกกฎหมายอนุญาตให้ช่างสักที่ไม่ใช่แพทย์สามารถทำอาชีพนี้ได้ เปรียบเสมือนการปลดแอกให้กับพวกเขา หลายคนรู้สึกโล่งอกเหมือนกับการได้เริ่มชีวิตใหม่เลยทีเดียว.ผู้เล็กน้อยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม