รวมความเป็น “ครั้งแรก” ของนางเอกสาวคนสวย “เดียร์น่า ฟลีโป” ที่โลดแล่นเป็นนางเอกหน้าหวานเจ้าบทบาทในละครมาเกือบ 10 ปี โดดมาแสดงภาพยนตร์ครั้งแรก ฮือฮาตั้งแต่เปิดตัวกับความระทึกขวัญครั้งใหม่ของภาพยนตร์เรื่อง “ตาโขน The Cursed Mask” กับการจับมือร่วมสร้างอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างบริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ iQIYI (อ้ายฉีอี้) แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ชั้นนำระดับโลก นำแสดงโดย มอสหลง–ภาณุวัฒน์ โสประดิษฐ, เดียร์น่า ฟลีโป, เจแปน–พลอยปภัส ฝนแก้วศิวพร, ต้องเต–ธิติ ศรีนวล, แฟรงค์–ธนัตถ์ศรันย์ ซำทองไหล, แม่นกน้อย (นกน้อย อุไรพร), เดี่ยว–ชูพงษ์ ช่างปรุง กำกับภาพยนตร์โดย มิ–ภูวดล เนาว์โสภา เรื่องราวเมื่อการตายอันลึกลับ ถูกโยงเข้ากับประเพณีผีตาโขน กลายเป็นคำสาป “บ้านต้องห้าม” สร้างทับที่หอผี บทพิสูจน์ความเชื่อที่สืบทอด บททดสอบที่จะต้องได้เห็นกับ “ตา” ก่อนศรัทธาจะสูญสิ้น! ใน “ตาโขน” 20 พ.ย.นี้ ในโรงภาพยนตร์ เปิดประสบการณ์การแสดงภาพยนตร์ครั้งแรก “เดียร์น่า” เล่าว่า “อยู่ในวงการมา 10 ปี มีหนังติดต่อเข้ามาบ้างแต่ว่าก็ไม่ได้ลงเอยกัน พอเรื่องนี้ที่ทางสตาร์ ฮันเตอร์ ติดต่อมาแล้วก็รับเลยค่ะ เป็นเรื่องราวภาคอีสานแล้วเราเองก็เป็นคนอีสานและเกี่ยวกับประเพณีตาโขนของ จ.เลย ยิ่งน่าสนใจเพราะเป็นสิ่งที่เราได้ยินมาตั้งแต่เป็นเด็ก รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆอย่างน้องมอสหลง ก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่น่ารักเป็นคนซื่อๆใสๆ และเป็นคน อ.ด่านซ้าย จ.เลย ด้วย ส่วนพี่ต้องเตเป็นคนเก่งเราก็อยากร่วมงานด้วย ทุกอย่างใหม่หมดเลย เวลาอยู่ในกองทุกคนก็มีความเป็นธรรมชาติสูง ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัดกันหมด เอาจริงๆนะมวลความเป็นเด็กต่างจังหวัดเนี่ยจะมีความสนิทใจกันได้ง่ายมากๆ ไม่มีกำแพงต่อกันเป็นกองที่สนุกมากๆ” การแสดง เกี่ยวกับผี “ครั้งแรก” ?“เดียร์ ไม่เคยเล่นอะไรที่เกี่ยวกับผีเลยในวงการบันเทิง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้เข้าใกล้ความเป็นสิ่งลี้ลับขนาดนี้ แล้วก็นักข่าวก็ไม่เคยเป็น รับบทนัทค่ะ เป็นนักข่าวไฟแรงจากกรุงเทพฯ ที่โดนทัณฑ์บนเลยถูกส่งตัวมาทำข่าวท้องถิ่นเกี่ยวกับงานประเพณีผีตาโขน แต่กลับมาสนใจคดีการตายในอดีตที่เกี่ยวข้องกับบ้านต้องคำสาป ต้องฝึกความช่างสังเกต หาเหตุผล แล้วตัวละครนัทเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีสางจะเชื่อในสิ่งที่เห็นด้วยตาแต่ดันต้องไปอยู่ในจุดที่รายล้อมไปด้วยความเชื่อต่างๆที่มองไม่เห็น ต้องแสดงออกมาทางสายตา ความรู้สึก” ถ้าถามความยากท้าทาย? “การถ่ายทำมันก็แปลกใหม่สำหรับเรา เราเคยเล่นละครมีกล้องรับหลายกล้อง แต่การถ่ายหนังเป็นกล้องเดียว ต้องเล่นหลายรอบด้วย คอนตินิวอารมณ์ทุกอย่าง ต้องเล่นละเอียดมาก ทำการบ้านเยอะมาก เพราะทุกอย่างคือจับที่หน้าเราต้องสื่อถึงบุคลิกของตัวละครได้ ต้องขอบคุณทางพี่มิ ผู้กำกับ ไกด์เรา ได้เยอะมากๆ...เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็คือครั้งแรกกับหลายๆอย่างจริงๆ มันก็เป็นการเปิดโลกเราอีกแบบนึง แล้วก็เป็นหนังเรื่องแรกของค่ายด้วย แรกไปพร้อมกันหมดเลย ทางค่ายก็บอกว่าอยากให้มาสร้างไปด้วยกัน มาทำไปด้วยกันนะ ทางเค้าก็ตั้งใจเกินร้อย ทุกคนคือไฟแรงมากๆ เราก็รู้สึกอยากทำงานกับทีมที่เค้ามีความตั้งใจสูงขนาดนี้” บทบาทสายลุยไม่ห่วงสวย แทบไม่แต่งหน้า? “ก็คือแต่งหน้าน้อยมากๆ น้อยที่สุดแล้วตั้งแต่ทำงานในวงการมา เมกอัปตาไม่มีอะไรเลยค่ะ แต่เราไม่ติดเลย ยินดีเพราะว่าทุกอย่างก็คือเป็นคาแรกเตอร์ของเรา เรื่องนี้คือเรียลมาก” เรื่องนี้จะพาคนดูไปเจออะไรบ้าง? “อยากให้คนได้เห็นว่าผีตาโขนเนี่ยบางคนได้ยินแต่ชื่อแต่ไม่รู้ว่าความเป็นมาเป็นยังไง มีเรื่องราวของผีบรรพบุรุษยังเป็นห่วงลูกหลานและมีเรื่องราวของการหาผลประโยชน์ของคนกันเองนี่แหละ เรามัวแต่ไปกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นแต่เราไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรานี่แหละน่ากลัวกว่า มีความสั่นประสาท ลุ้นระทึกชวนพาทุกคนค่อยๆรู้ความจริง ค่อยๆเห็นในสิ่งที่คาดไม่ถึง” พอออกมาเป็นฟรีแลนซ์ ปีนี้เรียกว่าได้เห็นเดียร์น่าในมุมใหม่ๆเยอะมากๆ? “เยอะมากจริงๆค่ะ รู้สึกว่าชีวิตเรามีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะเลย อย่างโซเชียลตอนนี้ก็เล่น TikTok มากขึ้นหรือว่ามีละครในรูปแบบใหม่ๆมีละครแนวอีสาน อย่างเรื่อง “ผาแดงนางไอ่” ทางช่องวันที่ประสบความสำเร็จมาก ไปไหนก็มีแต่คนถามถึงละคร เราได้ฐานแฟนคลับใหม่ๆที่เป็นอีกกลุ่มนึงแล้วเค้าก็มีความน่ารักมีความจริงใจ มีความสุขค่ะ พอเราโตขึ้นด้วย ความกดดันทุกอย่างก็น้อยลง มันมีอิสระในการรับงานมากขึ้น ซึ่งมันดีมากเลย ตอนออกมาอิสระแรกๆมันจะรู้สึกโหวงเหวงเหมือนกัน แต่พอเริ่มมีโอกาสต่างๆเข้ามามันก็เริ่มอุ่นใจแล้วก็รู้สึกว่าเราก็ไปต่อได้นะ มีความมั่นใจที่จะทำงานตรงนี้ต่อ ดีใจที่ทุกคนยังเห็นในความสามารถแล้วก็ให้โอกาส อันนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่มีโอกาสเราก็ยากที่จะต่อยอด ทุกการทำงานใหม่ๆเราได้อะไรกลับมาค่อนข้างเยอะ เพราะเราได้เจอคนใหม่ๆ เจอสิ่งที่เราไม่เคยเห็นไม่เคยรู้ ได้เปิดโลกของเรา ถือว่าเป็นการเดินทางที่ดีค่ะ”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม