สืบ บก.น.3 บุกรวบ 2 หมอเถื่อนแอบเปิดคลินิกในซอยรามคำแหง 166 รักษาคนนานนับ 10 ปี เผยก่อนหน้าเปิดอีกแห่งย่านคลองสามวา แต่ได้ข่าวว่าตำรวจและสาธารณสุขจะเข้าตรวจค้น เลยปิดคลินิกที่คลองสามวา และมาช่วยกันรักษาคนไข้ ด้วยกัน ด้าน 1 ใน 2 อ้างเป็นแพทย์จริง แต่เมื่อขอดูใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกลับมีเพียงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยให้ดู จากนั้นนำตัวทั้งคู่ดำเนินคดี เผยขณะตรวจค้นมีหญิงสาวยืนหน้าคลินิกด้วยอาการตกใจ สอบถามได้ความหมอเพิ่งฉีดยาให้ 1 เข็ม เพราะป่วยเป็นไข้ เจ้าหน้าที่เร่งให้ไป รพ.ใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัยสืบ บก.น.3 จับหมอเถื่อนรักษาคนไข้นับ 10 ปี เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 14 พ.ย. พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สส.บก.น.3 สั่งการ พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.บก.น.3 ร.ต.อ.นพพนธ์ แก้ววรรณา ร.ต.อ.ณฐภัทร์ จุ่งพิวัฒน์ รอง สว.กก.สส.บก.น.3 ส.ต.ต. ปัณรพัศศ์ ก้อมน้อย ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.3 นำกำลังจับกุมนายบุญวิวัฒน์ บุญเรืองลือ อายุ 50 ปี และนายณัฐวุฒิ บุญเรืองลือ อายุ 30 ปี เป็นอา-หลานกันได้ที่เคหะ รามคลินิกเวชกรรม หรือหมอพงษ์ คลินิกเวชกรรม เลขที่ 13 ซอยรามคำแหง 166 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.3 รับการร้องเรียนจาก พลเมืองดีว่าหมอพงษ์คลินิกเวชกรรม ลักลอบเปิด รักษาคนไข้ และออกใบรับรองแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ชุดจับกุมส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปรักษาอาการไข้ เจ็บคอ พร้อมขอใบรับรองแพทย์เพื่อขอลางาน มีชายที่อ้างตัวว่า เป็นแพทย์ชื่อหมอพงษ์ รักษา สอบถามอาการสายลับ ระบุว่าตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่ามีอาการท้องเสีย และ ออกใบรับรองแพทย์ เขียนชื่อ นพ.อำนวย ศรีวัฒนาวานิช พร้อมลงความเห็นแพทย์รับรองสมควรให้พักรักษา 1 วัน ประทับตรา เคหะรามคลินิกเวชกรรม คิดค่าบริการ 300 บาทจากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบนายณัฐวุฒิอยู่หน้าเคาน์เตอร์ เมื่อสอบถามหาแพทย์ ที่รักษา นายณัฐวุฒิพาขึ้นไปชั้น 2 ของคลินิก พบนายบุญวิวัฒน์ หรือหมอพงษ์ จึงให้ร่วมตรวจสอบ ในคลินิก พบของกลางเป็นยาชนิดต่างๆ เครื่องมือ ทางการแพทย์ น้ำเกลือ ชุดผ่าตัดเล็ก เสื้อกาวน์ เข็มฉีดยา ไหมเย็บแผลจำนวนมาก เงินสดที่ได้จากการรักษา 1,390 บาท พร้อมเวชระเบียนคนไข้ที่เคยมารักษา จากคลินิกกว่า 6,000 ฉบับจากการตรวจสอบพบว่าเคหะรามคลินิกเวชกรรม ใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.68 มีนายบุญวิวัฒน์ เป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ เปิดมาตั้งแต่ปี 59 ส่วนแพทย์ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลและรับผิดชอบ ในการดำเนินการสถานพยาบาลนั้น นายณัฐวุฒิรับว่า มีหน้าที่จดรายชื่อคนไข้ สอบถามอาการคนไข้ ฉีดยา จ่ายยาตามคำสั่งนายบุญวิวัฒน์ หรือหมอพงษ์ ส่วน นายบุญวิวัฒน์ หรือหมอพงษ์มีหน้าที่วินิจฉัยโรค สั่งจ่ายยา พร้อมออกใบรับรองแพทย์ให้คนไข้ขณะที่นายบุญวิวัฒน์ หรือหมอพงษ์กล่าวว่า ตนเป็นแพทย์จริง เปิดคลินิกรักษาคนไข้มา 10 ปีแล้ว แต่เมื่อขอดูใบอนุญาตวิชาชีพ แต่ไม่พบ พบเพียง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ก่อนหน้านี้ เคยว่าจ้าง นพ.อำนวย ศรีวัฒนาวานิช เป็นผู้ดำเนินการ เมื่อใบอนุญาตหมดลง นพ.อำนวยไม่ได้ต่อ ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น “หมอพงษ์คลินิกเวชกรรม” นายบุญวิวัฒน์เป็น ผู้รับผิดชอบ และเปิดคลินิกเวชกรรม “หมอวุฒิสหคลินิก เวชกรรม” ย่านคลองสามวา ให้นายณัฐวุฒิเป็นผู้ รับผิดชอบรักษาคนไข้ด้วยตนเอง ส่วนการเขียน ใบสั่งยาและเขียนใบรับรองแพทย์ จะใช้ชื่อ นพ.อำนวย (ขอสงวนนามสกุล) และ นพ.จักรกริศน์ (ขอสงวน นามสกุล) สลับกันไปมาระหว่างคลินิกทั้ง 2 แห่ง แต่เมื่อกลางเดือน ก.ย. 68 ทราบว่า กก.สส.บก.น.3 และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จะเข้ามาตรวจค้น ได้ปิดคลินิกย่านคลองสามวาไป เพราะเกรงจะถูกจับ และให้นายณัฐวุฒิมาช่วยงานที่นี่ ก่อนถูกจับกุมมีรายงานว่า ขณะตรวจค้นพบหญิงสาวรายหนึ่ง ยืนอยู่หน้าคลินิก มีอาการตกใจ เมื่อสอบถามได้ความว่า เพิ่งเข้ามารักษาที่คลินิกดังกล่าว เพราะป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย หมอฉีดยาให้ 1 เข็ม โดยมีนายณัฐวุฒิฉีดยาให้ และให้ยากลับไปทาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบบอกหญิง คนดังกล่าวให้รีบไปพบแพทย์ที่ รพ.ใกล้เคียงโดยเร็ว เนื่องจากไม่รู้ว่าได้รับการฉีดยาตัวไหนเข้าไปเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จับกุมทั้ง 2 คน ดำเนินคดีเป็นผู้ ดำเนินการสถานพยาบาลมิได้จัดให้มีผู้ดำเนินการเป็นผู้มีหน้าที่ควบคุม ดูแลและรับผิดชอบในการดำเนินการ สถานพยาบาล ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ก่อนนำตัวทั้ง 2 พร้อมของกลางส่ง สน.มีนบุรี ดำเนินคดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
