มาตามนัด พายุ “คัลแมกี” ถล่มเมืองดอกบัว ทำฝนตกหนัก อ่างเก็บน้ำล้นสปิลเวย์ เตือนชาวบ้านริมแม่น้ำระวังน้ำท่วม ที่สุโขทัย น้ำทุ่งทะเลหลวงและคลองแม่รำพันเอ่อท่วมบ้านและวัดสูงกว่า 1.5 เมตร ขณะที่จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาวิกฤติหนัก น้ำเหนือไหลบ่าไม่หยุด เขื่อนเจ้าพระยา จ่อระบายน้ำเกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที อ่างทองอ่วมพนังกั้นน้ำแตกไหลทะลักเข้าตลาดป่าโมกจมบาดาล ขณะที่ชาวเสนา เมืองกรุงเก่าสุดทน น้ำท่วมมานาน กว่า 4 เดือน รวมพลปิดถนนจี้เปิดประตูน้ำบรรเทาความเดือดร้อนน้ำท่วมหลายจังหวัดยังน่าห่วง หลังพายุ “คัลแมกี” ถล่มซ้ำ โดยที่ จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบเต็มๆ ล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย.เกิดฝนตกลงในหลายพื้นที่ รวมถึงเทศบาลนครอุบลราชธานี ส่งผลให้การจราจรบนถนนหลายสายเคลื่อนตัวได้ช้า เช่น ถนนชยางกูร และถนนแจ้งสนิท เนื่องจากผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานมาส่งที่โรงเรียน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานีได้เตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุคัลแมกีในช่วง 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มต่ำและชายฝั่งแม่น้ำมูลนายสุรพงษ์ สารปะ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยม วิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุคัลแมกีทำให้มีฝนตกใน จ.อุบลราชธานี ช่วงวันที่ 7 พ.ย.ถึงวันที่ 9 พ.ย. พายุจะส่งผลกระทบตามแนวเขาพนมดงรัก แม้จะไม่มีฝนหนักมากจะเป็นแบบฝนตกสะสม ทำให้เกิดน้ำป่าไหลลงมาตามริมน้ำ พายุคัลแมกีเกิดช่วงเดือน พ.ย. เกิดช่วงผิดเวลาจะไม่รุนแรงเหมือนพายุที่เกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ย.หรือ ต.ค.ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจอ่างเก็บน้ำห้วยบอน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่รับน้ำจากเทือกเขาพนมดงรัก ล่าสุดอิทธิพลของพายุคัลแมกีทำฝนตกหนัก ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นจนเอ่อล้นสปิลเวย์ แต่ยังไม่ส่งผลกระทบน้ำท่วมชุมชนหมู่บ้านหรือพื้นที่ใกล้เคียงจ.สุโขทัย ฝนที่ตกสะสมมาหลายวัน ทำให้อ่างเก็บน้ำแม่ท่าแพ อ.ศรีสัชนาลัย ไหลจากสปิลเวย์และอ่างเก็บน้ำแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง ไหลมาสมทบผ่าน อ.ทุ่งเสลี่ยม และ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ลงสู่ทุ่งทะเลหลวงเข้าท่วมถนนบายพาสสายสุโขทัย-ตาก กม.15-19+800 น้ำสูงเกือบครึ่งเมตร รถสัญจรลำบาก ส่วน ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย น้ำจากทุ่งทะเลหลวงและคลองแม่รำพันเอ่อท่วมบ้านหางคลอง หมู่ 5 ต.บ้านกล้วย หนักสุดบริเวณวัดกำแพงที่อยู่ติดกับคลองแม่รำพันถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตรด้านนายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผวจ.สุโขทัย ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม อ.เมืองสุโขทัย จากนั้นเปิดเผยว่า ได้ระดมสรรพกำลังแก้ไขปัญหาทั้งการเร่งสูบน้ำระบายลงคลองต่างๆ การเปิดประตูระบายน้ำตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัยขั้นสูงสุดจาก ปภ.ว่าระดับน้ำคลองแม่รำพันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น ขอให้ผู้อาศัยอยู่ริมน้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลตำบลบ้านกล้วย ต.ธานี และ ต.เมืองเก่า รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงยกของขึ้นที่สูงและเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปยังที่ปลอดภัยส่วนสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังน่าเป็นห่วง ล่าสุดนายพงศธร ศิริอ่อน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา รักษาราชการแทนรองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนน้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 10 ถึง ผวจ. 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรี อยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ เตรียมรับสถานการณ์น้ำ ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ อยู่ที่ 2,988 ลบ.ม./วินาที สมทบกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จ.อุทัยธานี มีน้ำไหลผ่าน 417 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำอยู่ที่ 2,700 ลบ.ม./วินาที เพี่อรองรับมวลน้ำจากพายุคัลแมกีจากการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,900- 3,000 ลบ.ม./วินาที จะทำให้ปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 3,300-3,400 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานจะปรับเพิ่มระบายน้ำมากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระ นครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย ที่ อ.ไชโย อ.ป่าโมก อ.โพธิ์ทอง อ.วิเศษชัยชาญ อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่ อ.อินทร์บุรี อ.พรหมบุรี อ.เมืองสิงห์บุรี และ อ.สรรพยา จ.ชัยนาทที่ จ.อุทัยธานี ผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่ 5 ตำบลของ อ.เมืองอุทัยธานี ประกอบด้วย ต.หาดทนง ต.เกาะเทโพ ต.ท่าซุง ต.สะแกกรัง และ ต.อุทัยใหม่ วัดเกาะสวรรค์ หมู่ 6 ต.เกาะเทโพ น้ำสูงประมาณ 30-50 ซม. ถนนสายหาดทนง-อุทัยธานี เส้นทางชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น วัดจันทรราม (วัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) และวัดอุโปสถาราม โบราณสถานสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ถูกแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านเกาะเทโพหลายครอบครัวต้องอพยพและย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปอาศัยบนอาคารเฉลิมพระเกียรติ์ ข้าง อบต.เกาะเทโพ ซึ่งเป็นพื้นที่สูงสุดของ ต.เกาะเทโพจ.อ่างทอง เกิดเหตุระทึก พนังกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาใต้เชิงสะพานป่าโมก ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก ถูกน้ำกัดเซาะพัง น้ำไหลทะลักเข้าตลาดป่าโมกสูงกว่า 1 เมตร บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต้องเร่งเก็บของกันโกลาหล ถนนสาย 309 (ป่าโมก-สุพรรณบุรี) ถูกน้ำท่วมสูง ตำรวจต้องปิดการจราจร ขณะที่ชาวบ้าน หมู่ 5 และหมู่ 6 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ถูกน้ำท่วมมานาน ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านต้องออกมากางเต็นท์นอนกันริมถนน ส่วน อ.ไชโย แม่น้ำเจ้าพระยาเซาะใต้เขื่อนกั้นน้ำในพื้นที่หมู่ 1 ต.หลักฟ้า น้ำไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงกว่า 1 เมตร เดือดร้อนกว่า 50 หลังคาเรือนส่วนที่ จ.สิงห์บุรี นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผวจ.สิงห์บุรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นคันกั้นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหมู่ 1 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี นายสมบัติเผยว่า แม่น้ำเจ้าพระยาล้นคันกั้นน้ำตั้งแต่ช่วงตีสามที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุได้ลงไปแก้ปัญหาตั้งแต่เมื่อคืน รุ่งเช้ามีปัญหาเครื่องสูบน้ำดับ ไม่นานน้ำทะลักจากใต้เขื่อนส่งผลให้น้ำไหลเข้าสู่ชุมชนหมู่ 1 ต.ทับยา อย่างรวดเร็ว เทศบาลตำบลทับยาได้ประกาศให้ประชาชนยกสิ่งของขึ้นที่สูงและแจ้งเตือนพื้นที่หมู่ 2 ถึงหมู่ 4 ต.ทับยา เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมขณะที่ชาวบ้าน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่อำเภอใกล้เคียงกว่า 300 คน ไปรวมกันปิดถนนบริเวณสี่แยกเสนา ต.บางนมโค อ.เสนา เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือน หลังกรมชลประทานยังคงระบายน้ำ 2,700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในหลายพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น บางพื้นที่สูง 3-4 เมตร ต่อมานายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายประพันธ์ ตรีบุบผา รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปเจรจากับ ผู้ชุมนุมและเชิญตัวแทนกรมชลประทานมาร่วมหารือ เพื่อหาแนวทางลดปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย ได้ข้อสรุปว่ากรมชลประทานจะเปิดประตูระบายน้ำคลองขนมจีน และประตูน้ำเจ้าเจ็ดเพิ่มขึ้น 80 ซม. เพื่อผันน้ำออกไปยังพื้นที่รับน้ำด้านนอก จากนั้นนายภราดรไปดูสถานการณ์น้ำที่ประตูระบายน้ำคลองขนมจีน อยู่ห่างจากจุดชุมนุมประมาณ 1 กม. และเปิดประตูน้ำต่อหน้าชาวบ้าน หลังเปิดประตูน้ำทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ อ.เสนา และ อ.ผักไห่ ลดลง ชาวบ้านต่างพอใจแยกย้ายกลับจ.ปทุมธานี ผลพวงจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม ทำให้น้ำเอ่อท่วมบริเวณลานด้านหน้าร้านอาหารบ้านเคียงน้ำ ต.บ้านปทุม อ.สามโคก ส่งผลให้รถแบ็กโฮขนาดใหญ่ 4 คันที่จอดอยู่จมน้ำเสียหาย นอกจากนี้น้ำยังไหลท่วมโรงเรียนวัดเมตารางค์ นายสุฤทธิ์ ประเสริฐสุข เจ้าของรถแบ็กโฮ กล่าวว่า นำรถแบ็กโฮ 4 คันไปช่วยอุดคันกั้นน้ำที่วัดเมตารางค์ ป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน หลังเสร็จงานนำรถมาจอดที่ลานจอดหน้าร้านอาหารเพราะคิดว่าน้ำคงท่วมไม่ถึง แต่หลังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นเอ่อล้นคันกั้นน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ย้ายรถแบ็กโฮหนีน้ำออกมาไม่ทันส่วนบริเวณชุมชนมัสยิดท่าอิฐ หมู่ 10 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อาศัยตามแนวริมแม่น้ำติดกับมัสยิดถูกน้ำท่วมนับร้อยหลังคาเรือน น้ำสูง 50-80 ซม. ชาวบ้านต้องยกข้าวของหนีน้ำ บางหลังต้องอพยพไปอยู่ชั้นสอง และต้องเดินลุยน้ำเข้าออกบ้านด้วยความลำบาก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนชุมชนมัสยิดท่าอิฐซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำให้ระวังน้ำเหนือไหลบ่าในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ก่อนหน้านี้น้ำเคยเอ่อท่วมมาแล้ว แต่ครั้งนี้ระดับท่วมสูงกว่าทุกวันที่ผ่านมาเวลา 18.00 น.วันที่ 7 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่องพายุ “คัลแมกี” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 16 ว่า เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 พ.ย. พายุดีเปรสชัน “คัลแมกี” (KALMAEGI) อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรงบริเวณจังหวัดศรีสะเกษแล้ว และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนเข้าสู่แนวร่องมรสุมที่พาดผ่าน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จากอิทธิพลดังกล่าวส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณด้านตะวันตกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง