นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับคำชื่นชมมากทีเดียวระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกที่เกาหลีใต้ แม้แต่ “ครูไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่มักตำหนิรัฐบาลบ่อยครั้งในเกือบจะทุกเรื่อง ยังให้คะแนนเต็มแก่คุณอนุทินในการเดินทางไปทำหน้าที่ผู้นำ จนประเทศไทยสามารถกลับไปขึ้นเวทีโลกได้อย่างสง่างามอีกครั้งในการพบปะกับผู้นำประเทศมหาอำนาจอย่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ตลอดจนถึงประเทศสมาชิกอื่นๆ คุณอนุทินของเราก็แสดงความเป็นผู้นำของรัฐบาลไทยได้อย่างสมาร์ทสมราคาที่คนไทยต้องจ่าย และรอคอยมานานถึงจะดูเหมือนพลาดท่าให้กับเหลี่ยมของประธานาธิบดีสหรัฐฯไปในคราวประชุมอาเซียนซัมมิตก็เถอะแต่ในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกครั้งนี้ คุณอนุทินได้ขอให้ประธานาธิบดีทรัมป์กลับไปทบทวนอัตราภาษีตอบโต้ทางการค้าที่จะจัดเก็บกับสินค้าส่งออกของประเทศไทยไปสหรัฐฯใหม่อีกครั้งจากอัตรา 19% นัยว่าเป้าหมายของนายกฯอนุทิน และ รมว.ต่างประเทศ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อยากจะขอให้ปรับลดลงเหลือ 15%ภายใต้ข้อตกลงที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขอแลกกับเขมร มาเลเซีย และไทย ในการเสนอชื่อ เขาเข้าสู่การชิงรางวัลโนเบลไพรซ์ สาขาสันติภาพในปีหน้า คือเขมรต้องยุติความขัดแย้งทางทหารทั้งปวงกับไทยเช่น ยุติการสู้รบทั้งปวง ถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ การจัดตั้งผู้สังเกตการณ์อาเซียนโดยมีมาเลเซียเป็นแกนนำ รวมถึงปล่อยตัวทหารเขมร 18 นายกลับบ้านไปทั้งนี้ ให้รวมถึงข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ภาษีการค้า และข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุหายากที่สำคัญกับประเทศไทยด้วยอย่างไรก็ตาม ขณะที่สองผู้นำเขมร และมาเลเซียต่างยกยอปอปั้นทรัมป์ ว่าเป็นผู้นำที่กล้าหาญ และมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ขนาดยอมฉีกกฎเกณฑ์ทางการทูตบางอย่างเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จลุล่วงหรืออย่างที่ ฮุน มาเนต กล่าวถึงทรัมป์ว่า สันติภาพคือความปรารถนาของประชาชนชาวเขมร และเพื่อเป็นการขอบคุณ เขาจึงสัญญาจะเสนอชื่อทรัมป์ตอบแทนในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยขณะที่นายกฯอนุทินแสดงความจัดเจนในความเป็นผู้นำประเทศเอกราชที่ไม่ได้อยู่ใต้ปีกของมหาอำนาจชาติใดด้วยการตอบรับสั้นๆเพียงว่า...นี่คือบทบาทใหม่ของความสัมพันธ์สองประเทศที่จะนำไปสู่การฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเห็นความเป็นตัวของตัวเองของนายกฯอนุทินเช่นนี้แล้ว มิสไฟน์ก็เห็นด้วยกับครูไหมที่ขอให้นายกฯอนุทินรับหน้าที่เป็นผู้นำในการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ การพนันออนไลน์ สแกมเมอร์ และการค้ามนุษย์ในเขมรโดยเฉพาะเมื่อหลายชาติอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และอังกฤษ ประกาศมาตรการจัดการกับปัญหานี้อย่างจริงจัง แต่ประเทศไทยเรายังมีความไม่ชัดเจนว่า จะเลือกให้ตัวเองเป็นอะไร...เป็นประเทศที่ถึงเวลาต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม โปร่งใส ตรวจสอบได้ เลิกเป็นไทยดำ ไทยเทา เรียกรับสินบน และศูนย์รับฟอกเงินเสียทีหรือยัง?!มิสไฟน์คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม