“ปชน.” เต้นโต้ครหาล็อกเป้าถล่ม “ธรรมนัส-กล้าธรรม” ปล่อย “ภท.-อนุทิน” ลอยนวล “ไหม” แจงไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง กระทุ้งนายกฯให้เด้งสางปัญหาทุนเทา อ้างไม่ขยี้ฮั้วเลือก สว.-เขากระโดง เพราะคดีเดินหน้าตามที่สมควรจะเป็นแล้ว ฟุ้ง “มีเรา ไม่มีเทา” ดันเป้า สส. 250 ที่นั่งเพื่อคนไทยมีคุณภาพชีวิตดี เศรษฐกิจสดใส “โรม” ปัดปล่อยผี “เสี่ยหนู” ขึงพืด “ผู้กองฯ” ทำขึงขังซักฟอกรัฐบาลไม่ต้องรอลุ้นถึง ม.ค.69 พร้อมหารือกับ พท. ย้อนถาม พท.ยังมีเยื่อใย “ธรรมนัส” หรือไม่ “ไผ่” ท้าคนกล่าวหาโชว์หลักฐาน “ไอซ์” โผล่แซะขย่มคนสารพัดโกงอนาคต “นายกฯเท้ง” ฟันไม่ยั้ง พท.ลังเลยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ “วิสุทธิ์” รอคุยค่ายสีส้มร่วมถล่มด้วยหรือไม่ “อนุทิน” บุกบ้านโล่ฯเปิดตัวบ้านใหญ่ตรังเข้ารัง ภท. “โกหน่อ” ลั่นถึงเวลาตรังเปลี่ยนสี เลือกคนพูดแล้วทำจริง ไม่เอาแล้วพวกดีแต่ด่าคนอื่นพรรคประชาชน (ปชน.) ยังคงถูกจับจ้องบทบาทการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล สืบเนื่องจากได้ทำข้อตกลง (เอ็มโอเอ) สนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นนายกฯ โดยเฉพาะถูกมองล็อกเป้าโจมตีแต่เฉพาะพรรคกล้าธรรม (กธ.) ว่าเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทาและแก๊งสแกมเมอร์ แต่เพิกเฉยไม่ตรวจสอบคดีฮั้ว สว.และปัญหาที่ดินเขากระโดง“ไหม” อู้อี้ล็อกเป้าถล่ม กธ.ไม่แตะ ภท.เมื่อวันที่ 2 พ.ย. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่บางฝ่ายมีการวิเคราะห์การตรวจสอบของพรรค ปชน. พุ่งเป้าแต่พรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่พุ่งเป้าไปยังพรรค ภท.ว่า จริงๆแล้วพรรคกระทุ้งไปที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ตลอดในฐานะนายกฯ เป็นคนแรกต้องลุกมาสอบสวนเรื่องนี้ พรรคยังเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาทุนเทา ไม่มีใครเหมาะสมกว่านายอนุทินที่ไม่เกี่ยวโยงเชื่อมไป แต่พรรคยังตรวจสอบเข้มข้นตลอดเวลา ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชังเรายังคงตรวจสอบเข้มข้นทุกพรรค หากเรามีข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวพันการฟอกเงินหรือทุนเทาอ้างฮั้ว สว.เขากระโดงเดินหน้าแล้วเมื่อถามถึงคดีฮั้ว สว.และที่ดินเขากระโดงทำไมถึงเงียบ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่ได้เงียบ ทุกวาระที่มีการสอบสวนเรื่องนี้เราตรวจสอบเข้มข้นตลอดเวลา เขากระโดงเห็นว่าเดินหน้าไปตามที่เห็นควรจะเป็น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สั่งฟ้อง เพื่อขอคืนที่ดิน และพรรค ปชน.มีข้อคิดเห็นไปเรียบร้อยแล้วว่ามีที่ดินอยู่ 2 แปลง ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีฮั้ว สว.พรรคเป็นคนออกมาเปิดเผย แต่กระบวนการที่เป็น สส.ไม่สามารถเข้าไปสอบสวนได้เอง ยืนยันว่าเราทำหน้าที่ตามอำนาจที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่แล้วยินดี พท.เปลี่ยนหัว บลัฟเป้า สส.ส้ม 250น.ส.ศิริกัญญากล่าวถึงการปรับโครงสร้างและเลือกกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ของพรรค พท.ว่า เป็นนิมิตรหมายที่ดีหลังจากพรรคพท.เผชิญอุปสรรคทางการเมือง ตั้งแต่พ้นจากการเป็นรัฐบาลและนายกฯ 2 คนของพรรคถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง การปรับทัพพรรคเหมือนปี่กลองทางการเมืองสนามเลือกตั้ง หากยุบสภาตาม MOA การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงเดือน มี.ค.69 เป็นต้นไป ขอแสดงความยินดีกับพรรค พท.ที่ได้หัวหน้าคนใหม่ด้วย ส่วนการตั้งเป้า 200 สส.ของพรรคค พท. อาจจะตั้งต่ำกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เชื่อว่าอาจเป็นไปได้จริง การตั้งเป้า สส.ของแต่ละพรรคเพื่อให้บรรลุผลเป็นสิทธิของแต่ละพรรค เพื่อไปกำหนดยุทธศาสตร์ให้เดินไปสู่เป้าหมาย ส่วนผลการเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ในส่วนพรรค ปชน.ยังตั้งเป้าตามเดิม 250 คนขึ้นไปฟุ้ง “มีเรา ไม่มีเทา” ชีวิตดี ศก.สดใสเมื่อถามว่าพรรค ปชน.ชูใช้สโลแกน “มีเรา ไม่มีเทา” เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นแคมเปญเลือกตั้งระยะเริ่มต้นและอาจมีหลายข้อความ ขอย้ำว่าเราเอาจริงไม่เพียงแต่มีเรา ไม่มีเทา ยังมีอีกหลายเรื่องที่เอาจริงทุกเรื่อง เรื่องอื่นอาจไม่เซ็กซี่เท่า มีเราไม่มีเทา แต่ถ้ามีเราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีเศรษฐกิจที่สดใส มีอนาคตที่รองรับทุกคนและทุกช่วงวัย ผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะมีเรา ไม่มีเทา ประชาชนสนใจให้ความสำคัญกับการทุจริตคอร์รัปชันการฟอกเงินและทุนเทาไม่ว่าสัญชาติใดพรรค ปชน.เอาจริงมาตลอด และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหานี้ แต่จะทำได้ดี ทำได้จริงต่อเมื่อเราเป็นรัฐบาลพรรคเดียวที่สอดคล้องกับเป้าหมาย 250 เสียงที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ คัดเลือก สส.เขตเกือบครบทุกเขตแล้ว แบบบัญชีรายชื่อกำลังทำ ยังมีอีกหลายขั้นตอน ยืนยันเดินหน้าตามไทม์ไลน์ ที่พรรคได้วางกรอบเอาไว้“โรม” ทำขึงขังฟอกไม่ต้องลุ้นถึง ม.ค.69นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวถึงกรณีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พท. ระบุเตรียมเจรจากับพรรค ปชน.ถึงความร่วมมือยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า เรายินดีพูดคุยอยู่แล้ว ไม่เคยปิดกั้นพรรค พท. ทุกอย่างต้องวางแผน คุยกรอบใหญ่กันจะส่งใครมาเจรจาเราไม่ติด ถ้าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจเป็นช่วงที่เราจะเห็นความชัดเจนอยู่แล้วว่าการแก้รัฐธรรมนูญไปได้แค่ไหน แทบไม่ต้องรอถึง ม.ค.69 เลยด้วยซ้ำ รู้ได้ว่าความจริงใจของรัฐบาลเป็นอย่างไร อีกเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ความเกี่ยวพันของบุคคลเกี่ยวพันกับทุนสีเทาสแกมเมอร์ อยู่ในวิสัยต้องพิจารณาซักฟอกด้วย ภาพรวมต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ ทั้งเนื้อหาหรือยุทธศาสตร์ การพูดคุยเป็นทางการ ควรทำอย่างยิ่งถาม พท.เหลือเยื่อใย “ธรรมนัส” หรือไม่เมื่อถามว่า พรรค พท.จะกล้ายื่นซักฟอกจริงๆหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีบางคน เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรและบุคคลแวดล้อม ทำงานคาบเกี่ยวต่อเนื่องมาจากรัฐบาลพรรค พท. นายรังสิมันต์ตอบว่า ไม่อยากทำนาย เพราะรอบที่แล้วพรรค พท.โดนหนัก โดยเฉพาะนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. โดนแฉกลางสภาฯว่าขออยู่พรรคกล้าธรรมหรือไม่ ไม่ทราบความสัมพันธ์หรือความซับซ้อนอะไรต่างๆ ถามว่ายังเหลือเยื่อใยหรือไม่ตอบไม่ได้ ต้องถามพรรค พท. กลายเป็นว่าพรรค ปชน.มีบทบาทหลักวิจารณ์ ร.อ.ธรรมนัส ดูเหมือนว่ากลายเป็นว่าตอนนี้พรรคเราทำหน้าที่ตรวจสอบค่อนข้างลำพัง ส่วนอื่นๆของรัฐบาลพรรค ภท.ก็ตรวจสอบไม่ว่านายกฯ ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ยังไม่เห็นสัญญาณชัดเจน ที่มีคำกล่าวว่าฝ่ายค้ำ หรืออะไรแค่วาทกรรมดิสเครดิตพรรคปชน. แต่ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องจริงเลยปัดปล่อยผี “เสี่ยหนู” ขึงพืด “ผู้กอง” นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งธงจะเปิดอภิปรายหรือไม่ หรือถ้ามีจะซักฟอกแบบรายบุคคลหรือทั้งคณะ ยังไม่ได้ปิดกั้นแนวทาง ยินดีรับฟังพูดคุยทุกรูปแบบ เมื่อถามว่าเห็นบรรดานักวิเคราะห์แซว พรรค ปชน.จะซักฟอกแต่ ร.อ.ธรรมนัส เป็นหลัก ปล่อยผีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย นายรังสิมันต์ตอบว่า ไม่เป็นความจริงแน่นอน ที่เราเริ่มต้นที่ ร.อ.ธรรมนัส คือการตีเข้ากล่องหัวใจของปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ถ้าสมมติเราอยากจะปล่อยรัฐบาลนี้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ขนาดนี้ ตอนนี้เห็นความเชื่อมโยงมากมาย นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ถึงขนาดลาออก ข้อครหาแค่จะกดดันพรรค ปชน. สร้างภาพให้ดูเหมือนว่าเราไม่ทำงานจริงจัง ถ้าเอางานมาว่ากันพรรคไหนกันแน่ที่ทำงานไม่จริงจัง บางพรรคมีที่นั่งพอๆกับพรรค ปชน.เลย ยังงงอยู่ว่าทำไมพรรคเราถูกกล่าวหาหลายอย่าง ต้องเลิกถามพรรค ปชน.ว่าเมื่อไหร่จะเลิกเป็นฝ่ายค้ำ แต่ต้องถามพรรคอื่นว่าเมื่อไหร่จะเลิกค้ำเสียทีมากกว่า คนที่ค้ำไม่ใช่พรรคปชน.แน่ๆ“ไผ่” ท้าโชว์หลักฐาน “ไอซ์” โผล่แซะเมื่อเวลา 15.00 น. นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กว่า “คนบางคนเน้นพูด เน้นกล่าวหาหลักฐานอยู่ไหนไม่เคยมี เพ้อเจ้อ พอไม่มีอะไรจะพูดได้แค่เป็นฝ่ายตรวจสอบไม่ได้แบกนะ” และ “ผลงานไม่มี เน้นโต้วาที” โดยมี น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ไผ่ ลิกค์ ไผ่ ร้อน” ทำให้นายไผ่กล่าวตอบว่า “ไม่นะครับท่าน สส. ผมแค่อยากเห็นหลักฐานของท่านแค่นั้นครับ และการตรวจสอบของท่าน สส.ดีครับ แต่เสียกำลังใจคนช่วยเหลือ ที่ไม่ใช่หน่วยงานราชการนะครับ คุณท่าน”ขยี้คนสารพัดโกงขู่ “นายกฯเท้ง” ฟันไม่ยั้งต่อมา น.ส.รักชนกโพสต์เฟซบุ๊กต่อเนื่องว่า โกงเงินทหารผ่านศึก โกงโควตาหวยคนพิการ โกงเงินนักกีฬา โกงเงินเกษตรกร โกงเงินชลประทาน โกงชื่อสมาชิกพรรค หลอกคนผ่านสแกมเมอร์ทุกรูปแบบ ศูนย์รวมอยู่ที่เดียว แต่ใหญ่คับฟ้า นายกฯยังไม่กล้าแตะ แล้วฝ่ายค้านทำไร โห แหกกันจะโดนสั่งเก็บกันอยู่แล้วพี่จ๋า มีชาวเน็ตเข้ามาเเสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และ น.ส.รักชนกแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า แต่วันนึงในอนาคตอันใกล้ “นายกฯเท้ง” จะฟันไม่ยั้งและฟันไม่เลี้ยง จำไว้แค่ขอ โอกาสให้พวกเราสักครั้ง พร้อมแนบลิงก์ไลฟ์ก่อนหน้านี้ที่พูดถึงกระบวนการฟอกเงินของสแกมเมอร์กล่าวทิ้งท้ายว่าหมายถึงใคร เอางี้ ชื่อแรกหลับตานึกแล้วมันที่เด้งขึ้นมาในใจพี่ ชื่อนั้นแหละ แต่อย่าพูดดัง มันจะฟ้อง ประเทศนี้ยังไม่ปกป้องประชาชนจากการฟ้องปิดปากพท.ลังเลยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาลนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า รัฐบาลกำลังเผชิญปัญหาสแกมเมอร์ ทุนเทา-ดำข้ามชาติ ความมั่นคงชายแดน เป็นจุดเปราะบางรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ประชาชนจับตามอง อาจเป็นจุดตายรัฐบาล ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังหารืออย่างรอบคอบ มี 2 แนวทางหลักคือ กลุ่มที่เห็นควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยประชุมหน้า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ประเทศไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการบริหารงานที่ไร้เสถียรภาพ อีกกลุ่มเห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกไทม์ไลน์ในบันทึกข้อตกลงเอ็มโอเอระหว่างฝ่ายค้ำและรัฐบาลเสียงข้างน้อย ให้เป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่าแท้จริงแล้วดีลดังกล่าวมิได้นำพาประโยชน์ใดๆมาสู่ประเทศและประชาชน พรรค พท.พร้อมในทุกมิติ ไม่ว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นเมื่อใด เป็นพรรคแรกที่มีความพร้อมส่งผู้สมัครคุณภาพทั่วประเทศ พร้อมนำประเทศกลับคืนสู่เส้นทางแห่งโอกาส เชื่อมั่นเต็มหัวใจว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมาบริหารประเทศ ขับเคลื่อนประเทศไทยไปได้ไกลกว่าที่เคยเป็นมารอคุย ปชน.ร่วมลุยถล่มด้วยหรือไม่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า มีการพูดคุยว่าจะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงเปิดสมัยการประชุมสภาฯ หรือปิดสมัยประชุมนี้ รอฟังกรรมการยุทธศาสตร์พรรคคุยกันอีกครั้ง จะคุยกับพรรคปชน.หรือไม่ต้องให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. ไปเจรจาจะร่วมกับพรรค พท.หรือไม่ ไม่แน่ใจ ให้นายจุลพันธ์ลองพูดคุยว่ามีทิศทางเดียวกันหรือไม่ จะยื่นอภิปรายฯทั้ง ครม.หรือรายบุคคล กำลังดูอยู่ มี สส.หลายคนประกบดูแลติดตามการทำงานของ รมต.แต่ละคนใครบกพร่องเสียหาย ส่อทุจริต อดีตรัฐมนตรีที่เคยทำงานกระทรวงนั้นๆจะช่วยดู หาข้อมูลอยู่ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่อาจยุบสภาก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิสุทธิ์ตอบว่า ยุบสภาเมื่อใดเราพร้อมเลือกตั้ง ไม่มีปัญหา ส่วนกระแสข่าวพรรค พท.จะเปิดตัวผู้สมัคร สส.บ้านใหญ่อัศวเหม บางจังหวัดมีการเจรจากันจริง บางพื้นที่พรรค พท.ไม่มี สส.ในจังหวัดนั้นๆ หากร่วมมือกัน มีโอกาสชนะเลือกตั้งได้ เราต้องทำ เพราะเป้าหมายคือ 200 เขตในอนาคตทสท.ชี้ภัยทุนดำยึดการเมืองไทยวันเดียวกัน ไทยสร้างไทย (ทสท.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีสถานการณ์ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแทรกซึมของ “ทุนดำ” และขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ ปล้นเงินจากประชาชนไทยและทั่วโลก ผ่านการหลอกลวงออนไลน์และธุรกรรมผิดกฎหมาย มูลค่าความเสียหายปีละหลายแสนล้านบาท และกำลังพยายามฟอกเงินผ่านการเมืองไทย เพื่อยึดประเทศอย่างเป็นระบบก่ออาชญากรรมเหล่านี้ หัวเรื่อง “อย่าปล่อยทุนดำยึดประเทศไทย” เนื้อหาสรุปว่า ด้วยเงินเพียง 20,000 ล้านบาท จากกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์ เป็นทุนดำที่ปล้นคนไทยไปหลายแสนล้านบาท ร่วมกับนักการเมืองชั่วบางกลุ่ม ขบวนการเหล่านี้แทรกซึมเข้ามามีอิทธิพลทางการเมืองได้อย่างน่ากลัว ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา กัมพูชากลายเป็นศูนย์กลางสแกมเมอร์ ที่หลอกปล้นเงินจากผู้คนทั่วโลก หลอกแรงงานไทยและต่างชาติเข้าไปทำงานในเครือข่าย มีการซ้อมทรมานและเสียชีวิต เข้าข่ายการค้ามนุษย์ จนทั่วโลกเรียกกันว่า “สแกมโบเดีย”เป็นสวรรค์อาชญากร ศูนย์ฟอกเงินพรรค ทสท.ระบุว่า เงินมหาศาลที่ได้จากการปล้นนี้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ “ฟอกขาว” หรือการ #ฟอกเงิน (Money Laundering) ประเทศไทยกลับกลายเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรข้ามชาติ เนื่องจากระบบการตรวจสอบและกฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้ไทยกลายเป็น “สวรรค์ของอาชญากร” และเป็น “ศูนย์กลางการฟอกเงิน” ของขบวนการสแกมเมอร์ทั่วภูมิภาค เมื่ออาชญากรเหล่านี้เข้ามาทำธุรกิจฟอกเงินในประเทศไทย ย่อมต้องจ่ายสินบนให้กับผู้มีอำนาจบางราย โดยเฉพาะนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแลกกับการคุ้มครองหรือการหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย จึงก่อให้เกิดขบวนการทุนดำที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลครอบงำระบบการเมืองรทสช.จัดทัพ “ชัช เตาปูน” นั่งเลขาฯเมื่อเวลา 09.00 น. ที่สโมสรราชพฤกษ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค และตำแหน่งอื่นของพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ยังคงได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่นายชัชวาลล์ คงอุดม เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ รองหัวหน้าพรรรคมีนายวิทยา แก้วภราดัย นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายสามารถ มะลูลีม นายโกวิทย์ ธารณา นายชื่นชอบ คงอุดม และพ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา รองเลขาธิการพรรค มีนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร น.ต.ปุญณัฐส์ นำพา และว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ ขณะที่นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เป็นเหรัญญิกพรรค และนายสยาม บางกุลธรรม เป็นนายทะเบียนพรรค ทั้งนี้นายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อและอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป.เมื่อวันที่ 31 ต.ค. “อนุทิน” เปิดตัวบ้านใหญ่ตรังเข้ารัง ภท.เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บ้านโล่สถาพรพิพิธ เลขที่ 226 หมู่ 5 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและหัวหน้าพรรค ภท. พร้อมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯและ รมว.คมนาคมแกนนำภาคใต้พรรค ภท. เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง ในนามพรรค ภท.อย่างเป็นทางการ มีนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือ “โกหน่อ” อดีต สส.ตรัง บิดา น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.เขต 3 จ.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ นายบุ่นเล็ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง พี่ชายนายสมชาย ร่วมต้อนรับสมาชิกสภา อบจ.ตรัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและผู้สนับสนุนกว่า 700 คนเข้าร่วมคึกคัก มีการขึ้นป้ายคัตเอาต์ข้อความต้อนรับ ฯพณฯ อนุทินและคณะด้วยความยินดียิ่ง เมื่อนายอนุทินเดินทางมาถึงได้ทักทายนายสมชายและครอบครัว รวมถึงแกนนำพรรค ภท.ก่อนเข้าร่วมรับประทานอาหารเที่ยงภายในบ้านโปรยยาหอมสิ่งดีๆ จะไม่ขาดตอนจากนั้นจึงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง ในนามพรรค ภท.ครบทั้ง 4 เขต คือเขต 1 นายเอกพล ณ พัทลุง หรือ “นายกเอก” นายก อบต.บ้านควน เขต 2 นายทวี สุระบาล สส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรค ปชป.และเขต 4 นายพิชัย เจริญศิริสุนทร หรือ “สจ.ล้าน” สมาชิก อบจ.ตรัง อ.กันตัง เขต 1 มีศักดิ์เป็นหลานชายนายพิพัฒน์ โดยนายอนุทินกล่าวในงานตอนหนึ่งว่า ให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคใต้มาก และไม่เคยคิดว่าพรรค ภท.จะมีฐานเข้มแข็งในพื้นที่นี้ จนกระทั่งการเลือกตั้งปี 66 พรรค ภท.ส่ง สส.เข้ามาได้และตั้งเป้าหมายการเลือกตั้งปีหน้าจะเพิ่มโควตา สส.ภาคใต้ การเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เราได้บ้านโล่สถาพรพิพิธ บ้านสุระบาล และพี่น้องผู้สมัครใน จ.ตรังมาร่วมงานด้วย ขอสัญญาจะทำงานเพื่อพี่น้องชาวตรัง ชาวใต้และชาวไทยสุดความสามารถ สิ่งดีๆจะได้ไม่ขาดตอนกับชาวตรัง อย่างโครงการคนละครึ่ง เป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่คิด เมื่อดีต่อประชาชนก็เอามาใช้ต่อ จากนั้นนายอนุทินสวมเสื้อแจ็กเกตตราสัญลักษณ์พรรค ภท.ให้นายสมชายประกาศว่า ปกติคนมาสมัครต้องไปที่พรรค แต่ นี่หัวหน้าพรรคมาเอง ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทรกล่าวว่า โกหน่อเป็นสมาชิกใหม่ของพรรค ภท.สมบูรณ์แล้ว“โกหน่อ” ลั่นถึงเวลาตรังต้องเปลี่ยนสีขณะที่นายสมชายยกนิ้วโป้งทั้ง 2 ข้าง หันโชว์ข้อความด้านหลังเสื้อ “พูดแล้วทำ” พร้อมกล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญทางการเมืองของบ้านตน ถึงเวลาแล้วที่ จ.ตรังต้องเปลี่ยนสี ได้ตัดสินใจรักษาคำพูด ที่เคยพูดไว้ว่ามีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็ไม่มีนายสมชาย เมื่อนายสาทิตย์ได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรค ปชป. ตนรักษาคำพูดจากความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่น มันกระทบไปหมด กระทบถึงระดับชาติด้วย ต้องบอกว่าย้ายไปพรรค ภท.ทั้งน้ำตา เพราะอยู่พรรค ปชป.มากว่า 30 ปี แต่เมื่อพรรคเลือกนายสาทิตย์ ตนก็ต้องเดินออกมาด้วยน้ำตา จ.ตรังเราถึงเวลาเปลี่ยนสีแล้ว เลือกที่จะอยู่กับคนที่พูดแล้วทำจริงๆ ไม่เอาแล้วคนที่เอาแต่ด่าคนอื่น เรียกเสียงปรบมือและโห่ร้องจากแกนนำฐานเสียงในพื้นที่ที่มาร่วมงาน ทั้งนี้ นายอนุทินสวมเสื้อแจ็กเกตพรรค ภท.ให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.อีก 2 คนคือนายเอกพล ณ พัทลุง และนายพิชัย เจริญศิริสุนทร ขณะที่ 2 สส.ปัจจุบันนายทวี สุระบาลและ น.ส.สุณัฐชายังไม่ได้สวมเสื้อพรรค ภท.ให้ เนื่องจากยังเป็น สส.สังกัดพรรคเดิมอยู่ แต่เป็นที่ทราบกันแล้วในพื้นที่ จ.ตรังว่า เมื่อถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าทั้งสองจะลงสมัคร สส.ในนามพรรค ภท.คนอีสานไม่เห็นคนเหมาะนายกฯวันเดียวกัน นิด้าโพล เปิดเผยผลการสำรวจ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 2,000 ตัวอย่าง เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคอีสาน” ระหว่างวันที่ 27-30 ต.ค. เมื่อถามถึงผู้ที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ในวันนี้ พบว่า ร้อยละ 32.40 ระบุยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 19.70 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 18.55 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ร้อยละ 8.80 นายชัยเกษม นิติสิริ ร้อยละ 6.10 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่คนอีสานจะ สนับสนุนในวันนี้ ร้อยละ 26.05 ระบุพรรคประชาชน ร้อยละ 24.65 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 16.85 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 15.75 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 5.55 พรรคประชาธิปัตย์ปชช.ชอบใจโครงการคนละครึ่งพลัสด้านสวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นประชาชน ทั่วประเทศ จำนวน 2,126 คน เรื่อง “ดัชนีการ เมืองไทย ประจำเดือน ต.ค.68” เมื่อวันที่ 28-31 ต.ค. พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ต.ค.68 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือน ก.ย.68 ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงาน ของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 4.60 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส 3.58 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือ อนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 48.01 นักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือ รักชนก ศรีนอก ร้อยละ 37.85 ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ เปิดใช้จ่ายคนละครึ่งพลัส ร้อยละ 64.42 ผลงานฝ่ายค้าน ที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ร้อยละ 53.34นายกฯโว 2 เวทีดึงไทยคืนจอเรดาร์โลกก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 1 พ.ย.ที่อากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย แถลงสรุปภารกิจการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 32 ที่สาธารณรัฐเกาหลี โดยนายกฯนำนาย สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ร่วมแถลง สรุปผลการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่มาเลเซียและการประชุมเอเปก โดยนายกฯกล่าวว่า การประชุมทั้ง 2 วาระเราได้รับ ความร่วมมือเป็นอย่างดี จุดประสงค์ไปเปิดตลาด เอาของไปขาย ไม่ว่าสินค้าเกษตร การส่งเสริมการ ท่องเที่ยว การเพิ่มโควตาแรงงาน ชวนมาลงทุนด้าน เทคโนโลยีธุรกิจใหม่ๆ ทุกประเทศตอบรับเป็นอย่างดี ภารกิจครั้งนี้ถือว่านำไทยกลับมาสู่เวทีโลกอย่างชัดเจนอีกครั้ง รมว.ต่างประเทศใช้คำพูดกับตน ทำให้ รู้สึกดีใจบอกว่า นายกฯ ตอนนี้ประเทศไทยกลับเข้ามาสู่จอเรดาร์ของโลก ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีทุกการเจรจายืนบนผลประโยชน์ ปท.นายกฯกล่าวว่า ขอยืนยันการเจรจาของเรา ทุกเรื่อง เรายืนบนหลักการความถูกต้องและผลประโยชน์ ของประเทศเป็นสำคัญ ไม่ว่าเศรษฐกิจหรือความมั่นคง การประชุมอาเซียน ได้มีการลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา ที่ระบุเงื่อนไขที่ไทยต้องการอย่างชัดเจน มีการแถลงการณ์ร่วมกันว่าด้วยกรอบความตกลงทางการค้าต่างตอบแทนกับสหรัฐอเมริกา เพื่ออำนวยความสะดวกในการเจรจาภาษี และส่งเสริมการค้า การลงทุน 2 ประเทศ หรือมีการบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาความหลากหลายของระบบห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุสำคัญระดับโลก ที่เป็นประเด็นอยู่คือแรร์เอิร์ธและการส่งเสริมการลงทุนกับสหรัฐฯ ศึกษาการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสในการเปิดประตูบานใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจ ซึ่งทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่เคร่งครัดของไทย ไม่ใช่ให้สัมปทาน หรือเอาแร่ไป ขายให้เขาคนเดียว อย่างนี้เราสามารถทำกี่ประเทศก็ได้ เราไม่ต้องการเอาหินมาขายเป็นหิน เราต้องการเอาหินมาขายเป็นทอง ฉะนั้นเราต้องมีองค์ความรู้ มีเทคโนโลยี แปรรูปแร่ธาตุเหล่านี้ให้มีมูลค่าสูง ขอทำความเข้าใจชัดเจนกับประชาชนที่กังวลในเรื่องนี้ ไม่ใช่เอกซ์คลูซีฟ ไม่ได้ทำคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เราเปิด โอกาสทำกับทุกประเทศได้ ถ้าประเทศไหนสนใจฟุ้งผลงานบาลานซ์ “ทรัมป์–สี จิ้นผิง”นายกฯกล่าวว่า สุดท้ายเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ที่หลายท่านสงสัยว่าเราบาลานซ์ความสัมพันธ์กับชาติ มหาอำนาจอย่างไร ได้หารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความร่วมมือตามที่รายงานไป และมีโอกาสหารือทวิภาคีเต็มรูปแบบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทุกอย่าง เป็นไปได้ด้วยดี สิ่งเหล่านี้อยากให้ประชาชนมั่นใจว่า ประเทศไทยยังไม่ถึงจุดทางตัน เพียงแต่วันนี้เราอยู่เฉยๆ หวังว่าคนจะวิ่งเข้ามาไม่มี เราต้องวิ่งออกไป เพื่อไปบอกว่าเรามีดีอะไรบ้างและรักษาความสัมพันธ์ให้ดีกับทุกประเทศ ขอให้มั่นใจว่าประตูหลายบานที่เปิดไว้จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนชาวไทยและจะทำให้เศรษฐกิจของเราดีขึ้น รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่กมธ.ขมวดปมปัญหาร่างกติกาใหม่ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความคืบหน้าการ ประชุมของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา ที่มีนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธานว่า เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.พิจารณารูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่คณะทำงานสรุปประเด็นนำเสนอ อาทิ การให้ ประชาชนเลือกตั้งบุคคลที่สมควรได้รับการคัดเลือกเป็น ส.ส.ร. และ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ การกำหนดให้องค์กรใดทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ระหว่างกำหนดให้มีเฉพาะ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือให้มี ทั้ง ส.ส.ร. และ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ที่มา และอำนาจหน้าที่ของ ส.ส.ร.และ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญจ่อโยนรัฐสภาเฟ้นองค์กรจัดทำ รธน.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ส่วนใหญ่เห็นว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของปวงชนชาวไทยต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมต่อกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเลือกองค์กรทำหน้าที่ แต่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง การกำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมเลือกองค์กรที่ทำหน้าที่อาจทำให้เกิดปัญหาตีความ ทำให้กระบวนการจัดทำไม่ลุล่วง กมธ.ส่วนใหญ่เห็นว่าควร ให้รัฐสภาทำหน้าที่คัดเลือกองค์กรที่ทำหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจกำหนดแบ่งกลุ่มให้สมาชิกรัฐสภาตามสัดส่วนเพื่อดำเนินการคัดเลือกองค์กรที่ทำหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสียงแตกให้มี ส.ส.ร.ร่วมยกร่างผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนประเด็นการกำหนดให้องค์กรใดจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ประชุมเห็นเป็น 2 ฝ่าย คือ 1.เห็นควรให้มี กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญเพียงองค์กรเดียวจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และรัฐสภาทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อประกอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2.ควรให้มีทั้ง ส.ส.ร.และ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แบ่งหน้าที่ ให้ กมธ.ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ส่วน ส.ส.ร. มีหน้าที่รับฟังความคิดเห็นประชาชน และให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก่อนเสนอให้รัฐสภาพิจารณา โดย กมธ.กำหนดกรอบเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 พ.ย. หากไม่แล้วเสร็จจะขยายเวลาตามความเหมาะสมนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์ สว. โฆษก กมธ.พิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ รัฐสภา กล่าวว่า กมธ. จะนัดประชุมครั้งถัดไปวันที่ 5 พ.ย. มีประเด็นที่จะ พิจารณาตามที่นายณัฐวุฒิแจ้งคือ จะลงมติประเด็นที่เกี่ยวข้องกับองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญว่าจะให้มีส.ส.ร.มีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ จากนั้นจะพิจารณาเนื้อหา ที่ลงรายละเอียดมาตราต่างๆต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่