แก๊งสแกมเมอร์นานาชาติแตกรัง ชาย-หญิง 28 ชาติ เกือบ 1,600 คน หนีหัวซุกหัวซุนเข้าไทย ล้นทะลักแน่น อ.แม่สอด จ.ตาก หลังทหารเมียนมาจับมือกองกำลังกะเหรี่ยง ทิ้งระเบิดทำลายอาคารใน “เคเค ปาร์ค” ฝั่งเมียวดี วันเดียวถล่ม 4 รอบ เศษปูนกระเด็นข้ามแม่น้ำเมย ตกใส่หลังคาบ้านคนไทยทะลุเป็นรูโบ๋ ด้าน “แก๊งจีนดำ” ไหลเข้าเมืองเชียงราย แอบเช่าบ้านตั้งซิมบ็อกซ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ คาดใช้โทร.หลอกลวงเพื่อนร่วมชาติในเมืองจีน ขณะที่ตำรวจไซเบอร์ร่วมกับ กสทช. เปิดปฏิบัติการล้มเสาสัญญาณอินเตอร์เน็ตชายแดนไทย-มาเลเซีย ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการทำลายเมืองเคเค ปาร์ค แหล่งสแกมเมอร์ออนไลน์ชื่อดังระดับโลก เป็นพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษของกลุ่มทุนจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่บ้านเอ่งจีเมี่ยง อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง หมู่ 9 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก ทหารเมียนมา และกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟ ร่วมกันระเบิดทำลายอาคารสำนักงานอย่างต่อเนื่องมาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะวันที่ 31 ต.ค. ได้ทิ้งระเบิดถล่มอาคารมากถึง 4 รอบ ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางคืน เสียงระเบิดดังก้องมากถึงฝั่งไทย และมีเศษปูนจากแรงระเบิด กระเด็นลอยข้ามแม่น้ำเมยมาตกลงใส่หลังคาบ้านของ น.ส.รุ่งทิวา ปัญญา เลขที่ 116 หมู่ 9 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่อยู่ห่างจากจุดทิ้งระเบิดเข้ามาในฝั่งไทยกว่า 500 เมตร ทำให้หลังคากระเบื้องทะลุเป็นรูโบ๋ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตสำหรับยอดบุคคลต่างด้าวล่าสุด ต่างชาติและชาวไทย ที่หนีตายการกวาดล้างข้ามมาจากเมืองเคเค ปาร์ค จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ประจำวันที่ 1 พ.ย.2568 มีชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวน 1,594 ราย แยกเป็นชาย 1,329 ราย หญิง 265 ราย จากทั้งหมด 28 สัญชาติ สัญชาติที่มากที่สุดคือ อินเดีย 465 คน ฟิลิปปินส์ 220 คน จีน 185 คน เวียดนาม 151 คน และเอธิโอเปีย 130 คน ส่วนการคัดกรองและดำเนินคดี ขณะนี้มีชาวต่างชาติถูกควบคุมตัวอยู่บริเวณด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี และที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 860 คน ที่ สภ.แม่สอด 712 คน ถูกเปรียบเทียบปรับ 439 คน แต่ไม่ชำระค่าปรับ 241 คน ส่งเข้าเรือนจำแม่สอด เทียบค่าปรับเป็นคนไทย 32 คน เข้าสู่กระบวนการคัดแยกการค้ามนุษย์ (NRM) 18 คน เข้าสถานคุ้มครองฯที่ จ.พิษณุโลก 1 คน และ จ.เชียงราย 4 คนจ.เชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 31 ต.ค. พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สส.ภ.จ.เชียงราย พร้อมชุดสืบสวน ควบคุมตัวนายเหยิน เฟิง, นายหวง เจียนเจียน, นายหลัว ฉวนชิง และนายหวง หยวนผิง ทั้ง 4 คนสัญชาติจีน พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ ซิมบ็อกซ์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่าในชุมชนดอยเขาควาย หมู่ 23 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย พบคนจีนกลุ่มนี้มาเช่าพักอาศัยมีพฤติการณ์น่าสงสัย เนื่องจากใช้ไฟฟ้ามากผิดปกติ ในห้องโถงของบ้านพบคอมพิวเตอร์เปิดทำงานอยู่ พร้อมต่อพ่วงสายแลนไปยังซิมบ็อกซ์ อุปกรณ์ทวนสัญญาณอินเตอร์เน็ต ใช้แบ่งเช่าช่องสัญญาณในธุรกิจผิดกฎหมาย ประสานเจ้าหน้าที่ กสทช.มาตรวจสอบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีไว้ทำอะไร เกี่ยวพันอาชญากรรมไซเบอร์หรือไม่วันเดียวกัน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 นำกำลังตำรวจ บช.สอท. ชุดสืบสวน ภ.9 ตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ ตำรวจ นปพ.ภ.9 ร่วมกับนายชนาวีร์ เจริญศิริ ผอ.ส่วนกำกับกิจการวิทยุคมนาคม นายสุทิน ทองมาก ผอ.กสทช. เขต 41 เจ้าหน้าที่ กสทช. ภาค 4 เปิดปฏิบัติการล้มเสาสัญญาณอินเตอร์เน็ตชายแดนไทย-มาเลเซีย ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดน ไม่ให้ใช้อุปกรณ์ซิมบ็อกซ์โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย และลดระดับความแรงสัญญาณรับ-ส่ง รวมทั้งลดระดับความสูงการติดตั้งแผงส่งสัญญาณ (sector) ปิดโอกาสในการใช้อุปกรณ์สื่อสารจากประเทศเพื่อนบ้านจากการตรวจสอบในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา มีเสาสถานีสัญญาณโทรศัพท์ 4 แห่ง เสาต้นที่ 1 ตั้งอยู่บนอาคาร MK Guest House บ้านปาดังเบซาร์ ซอยกำแพง ถนนอนามัย ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พบสายอากาศบางส่วนหันทิศทางและมีความแรงของสัญญาณข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ กสทช.ได้แจ้งเตือนให้ผู้เช่าสัญญาณ รื้อถอนสายอากาศที่หันไปทางฝั่งมาเลเซีย ส่วนอีก 3 ต้น พบสายอากาศบางส่วนหันไปทางประเทศมาเลเซียเช่นกัน และติดตั้งสายอากาศมีความสูงเกิน 10 เมตร เจ้าหน้าที่ กสทช.แจ้งให้ปรับระดับความสูงสายอากาศไม่เกิน 10 เมตร และปรับทิศทางสายอากาศหันเข้ามายังฝั่งไทย เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 พ.ย. พร้อมแจ้งเตือนผู้ประกอบการและเจ้าของสถานที่เป้าหมาย 10 แห่ง ที่อาจใช้เป็นจุดติดตั้งอุปกรณ์ซิมบ็อกซ์ เพื่อใช้ในการกระทำผิด เฝ้าระวังกลุ่มคนร้ายที่อาจนำซิมบ็อกซ์มาติดตั้งเพื่อหลอกลวงพี่น้องประชาชนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่