ปรับโหมดร้อนกันแทบไม่ทัน สารพัดปมปัญหาถาโถมจากประเด็นความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา ชักลุกลาม ชนิดที่แม้ “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” เร่งเคลียร์หน้างาน จำยอมร่วมเวทีบังคับจากมหาอำนาจโลก ให้ไปร่วมลงนามในกรอบเส้นทางสู่สันติภาพกับเพื่อนบ้านแต่ก็ยังมีเรื่องต้องตามเก็บงาน โดยเฉพาะปมอาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ โจรต้มตุ๋น แก๊งฟอกเงินข้ามแดน ที่หลายประเทศในโลกเริ่มแอ็กชันเข้าไปกวาดล้าง เป็นไฟต์บังคับให้รีบจัดการไม่ให้ไทยถูกตีตรา อีกแหล่งซ่องสุมแก๊งโจรข้ามชาติในจังหวะเดียวกัน ปมร้อนเรื่องทุนเทาลามรัฐบาล ชนิดต้องรีบจำกัดจุดเสี่ยง รัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงต้องรีบลาออก “ตัดก่อนตาย ไขก๊อกก่อนวายวอด” ทั้งรัฐบาลจะมีที่ไม่หวั่นไหวแม้ถูกพาดพิง “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” รองนายกฯและรมว.เกษตรฯ เคลียร์จบทีละเปลาะ จากที่โหวกเหวกโวยวาย ขู่ฟ้องร้องคนกล่าวหาทั่วทิศ พร้อมชวนไปกินข้าวเย็นที่ จ.พะเยาตอนนี้ตั้งหลักรับแรงถล่มแบบ “นิ่ง” ผิดปกติ เหมือนมีของขลังพลังพิเศษแม้แต่วลีทิ่มแทง ก็เฉยๆกับคำว่า “โจรจับโจร” ที่รุ่นพี่ก๊วน “คนใจถึง” พลั้งปากพาดพิง กรณีจะนั่งเป็นประธานปราบปรามการค้ามนุษย์ ขบวนการมิจฉาชีพไซเบอร์ข้ามชาติผู้กองก็ยิ้มรับ ปั่นผลงานพิสูจน์แล้วที่เป็นตัวช่วยดับปมร้อนให้รัฐบาลกับเรื่องราวร้อนฉ่าในแวดวงกีฬา นักกีฬาแบดมินตันประกาศถอนตัวทีมชาติในกีฬาซีเกมส์ โยนระเบิดโวยสมาคมแบดฯ ทั้งการบริหารจัดการ วางคิวแข่งขัน ไปจนถึงหั่นเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาประเด็นต่อเนื่องสมาคมกีฬาอื่นๆ ทั้งมวยสากล ยิงปืนเป้าบิน เปตอง รวมทั้งสมาคมฟุตบอลฯ ที่ยังรอจัดการอีกคิวที่ “รองฯธรรมนัส” รองนายกฯที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่คุมงานโดย “รมต.อรรถกร ศิริลัทธยากร” ที่เด้งรับชงข้อมูลร้อนๆถึงที่ผู้กองเรียกประชุมทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง พร้อมมีกุนซือข้างกาย “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกฯ ช่วยสแกน ก่อนเคาะทันที ยื่นคำขาดให้อุ้มนักกีฬาแบดฯต้องอยู่ในทีมชาติชุดซีเกมส์แถมประกาศลับมีด จ่อล้างบางมาเฟียกีฬาทั้งวงการเคลียร์ปมร้อนหน้างาน ไม่ให้ลาม “รัฐบาลอนุทิน”และล่าสุดเกือบร้อนลามอีกเหมือนกัน ปมลากต่อจากปัญหาชายแดน ที่ “นายกฯอนุทิน” พลั้งปากให้สัมภาษณ์สื่อ ยกตัวอย่างเรื่องแก้ปัญหารุกล้ำพื้นที่เขตแดน ทั้งเขมรแม้แต่ไทยก็ต้องถอยจากพื้นที่ออกมาเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุนแรง จนต้องมีล่ามแปลไทยเป็นไทย โฆษกรัฐบาลช่วยเคลียร์ในน้ำขุ่นๆเรื่องราวยังมีต่อเนื่อง อีกคิวลับเชิงลักไก่ เมื่อผู้นำประเทศไทยไปร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องการขุดสำรวจแร่แรร์เอิร์ธในประเทศไทย ชนิดตีซี้คาวบอยมะกันยกให้เป็นเจ้าแรกมากอบโกยสะดวกโยธินเพราะงุบงิบรีบลงนามเงียบ ผู้คนก็เลยตั้งคำถาม มีเงื่อนไขอะไรแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใดของชาติ ดูผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนหรือไม่ ชักศึกเข้าบ้านหรือเปล่า ฯลฯโดยเฉพาะคิวนี้ถ้าพลาด เสี่ยงเจ๊งยาวทั้งเกมภูมิรัฐศาสตร์–ภูมิเศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่ไทยต้องระวัง “จุดยืน” ลู่ลมให้ดี เมื่ออยู่กลางคมเขาแหลม ศึกสหรัฐฯ-จีนกำลังฟัดกันเดือดเลือกข้างใดก็เจ๊งอีกข้าง ได้อย่าง–เสียอย่าง ต้องรอบคอบเช่นเดียวกับที่เคยปิด ก็เลยถูกเปิดออกมาในคิวเดียวกัน “นายกฯอนุทิน” ยังร่วมเจรจาหารือเงื่อนไขภาษีการค้ากับพญาอินทรี ต่อเนื่องจากรัฐบาลก่อนมีรายการลับ เงื่อนไขยินยอมมหาอำนาจ ทำประเทศไทยเสียเปรียบ ต้องควักกระเป๋าซื้อเครื่องบิน สั่งนำเข้าพลังงาน รวมทั้งผลกระทบกับกลุ่มต่างๆในประเทศ ทั้งเอสเอ็มอี ภาคเกษตร สินค้าไทยวันนี้แม้จะอยู่ในห้วงสถานการณ์พิเศษ เหมือนได้เสียงระฆังตีช่วย แต่ “อนุทิน” ชักมีข้อเคลือบแคลงในหลายคิว เมื่อทำอะไรไม่สื่อสารบอกกล่าวชาวบ้านจมูกผู้นำเริ่มยาวเป็น “พิหนูคิโอ” หนวดชักเฟิ้มเหนือริมฝีปากเริ่มฟังแต่ไม่ได้ยินเสียงทักท้วงของหลายๆฝ่ายสไตล์ชักคล้ายนายห้างยุคเฟื่องฟูอำนาจเข้าไปทุกที.ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม