สำนักพระราชวังเปิดขั้นตอนการขอเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ส่งหนังสือ ถึงเลขาธิการพระราชวังได้ 3 ช่องทาง ด้าน ครม.เตรียมโครงการเพื่อแสดงความอาลัยอย่างสมพระเกียรติทั่วประเทศ และทั่วโลก เริ่มจากพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร 7 วัน 30 ต.ค.นี้ พร้อมตั้ง 8 คกก. จัดงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ขณะที่ “บวรศักดิ์” ย้ำรัฐบาลไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรม ชี้ “ลอยกระทง-เคาต์ดาวน์-สงกรานต์” จัดได้ รวมถึงจุดพลุ แนะปรับ โทนให้เหมาะสม ขณะเดียวกันพสกนิกรจากทั่วทุก สารทิศหลั่งไหลไม่ขาดสาย เข้าถวายสักการะพระฉายา ลักษณ์ “พระพันปีหลวง” โดยครอบครัวชนเผ่าอิ้วเมี่ยน จากน่าน สุดซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ทรงส่งเสริมพัฒนางานผ้าปักพื้นเมืองชาวเขาสู่สายตา นานาชาติประชาชนไทยทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลถวายความอาลัยพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง และตามสถานที่ราชการสำคัญ รวมถึงทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระผู้เป็นดั่งดวงใจของแผ่นดินในหลวง–ราชินีบำเพ็ญพระราชกุศลฯเมื่อเวลา 19.23 น.วันที่ 28 ต.ค.พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรม มหาราชวัง ในโอกาสนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซ่น ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซ่น และ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วยครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ พระราชดำเนินไปยังที่ประดิษฐานพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมุขหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ด้านตะวันออก และด้านตะวันตก แล้วประทับพระราชอาสน์เมื่อพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าไตรพระราชาคณะ 1 รูปที่ถวายอดิเรก และพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 8 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าพระโกศ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ถวายภัตตาหารเพลก่อนหน้านี้เวลา 16.34 น.สมเด็จพระเจ้า น้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และในเวลา 11.00 น.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และทรงเป็นประธานในพิธีรับพระราชทานภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เป็นพระพิธีธรรมฯ จากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารและวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารเปิด 3 ช่องทางขอเป็นเจ้าภาพฯสำนักพระราชวัง (สนว.) เปิดเผยขั้นตอนการขอเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.2569 เป็นต้นไป ว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ผู้ประสงค์ขอเป็นเจ้าภาพพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไปนั้น ขอให้ผู้ที่มีความประสงค์จะขอเป็นเจ้าภาพ ทำหนังสือเรียนเลขาธิการพระราชวัง ตามแบบฟอร์มที่กำหนดและนำส่งสำนักพระราชวังได้ 3 ช่องทาง ดังต่อไปนี้1.ส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ด้วยตนเอง ที่แผนกสารบรรณ กองกลาง อาคารสำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง โทรศัพท์ 0-2224-3273, 0-2224-3333 และ 0-2623-5500 ต่อ 2121-21292.ส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้ เรียน เลขาธิการพระราชวัง สำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.102003.ส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) ที่ kongklang@royaloffice.th โดยสแกนหนังสือเป็นไฟล์ PDF ทั้งนี้ สำนักพระราชวังจะตอบรับด้วยการตอบกลับ (Reply) อีเมล โดยผู้ขอเป็นเจ้าภาพไม่ต้องส่งหนังสือต้นฉบับมาอีกครั้งในภายหลังสนว.ส่งหนังสือตอบรับใน 30 วันการนี้ เมื่อเจ้าภาพได้ส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ในการบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแล้ว สำนักพระราชวังจะมีหนังสือตอบรับ และแจ้งรายละเอียดให้ทราบภายใน 30 วัน ตั้งแต่ได้รับ หนังสือดังกล่าว โดยสามารถแจ้งขอรับเป็นเจ้าภาพได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหมายกำหนดการพระราชพิธีฯสำหรับหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญ พระราชกุศล สวดพระอภิธรรมถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งมีกำหนดให้จัดการบำเพ็ญพระราชกุศลครบจำนวนวันนับแต่การสวรรคต ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร 7 วัน : วันที่ 30-31 ตุลาคม 2568 พระราชพิธีทรงบำเพ็ญ พระราชกุศลปัณรสมวาร 15 วัน : วันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2568 พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 50 วัน : วันที่ 12-13 ธันวาคม 2568 และพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร 100 วัน : วันที่ 31 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ 2569“อนุทิน” แจงไม่ได้สั่งงดทำกิจกรรมสำหรับความคืบหน้าการจัดงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย มอบหมายให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายพิพัฒน์กล่าวเปิดประชุม ครม.ว่า นายกฯมีข้อสั่งการฝากให้ช่วยชี้แจง 3 เรื่อง คือทำความเข้าใจกับหน่วยงานในสังกัดและประชาชนว่า รัฐบาลไม่เคยมีมติหรือข้อสั่งการให้หน่วยงานราชการ รวมไปถึงภาคเอกชน งดการจัดกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ เพราะเข้าใจดีว่าภาคธุรกิจต้องวางแผนกิจกรรมล่วงหน้า มีต้นทุน กิจกรรมที่จัดขึ้นตามวัฒนธรรม และประเพณี ยังคงจัดได้ โดยขอความร่วมมือให้ใช้ดุลพินิจ ปรับรูปแบบให้เหมาะสม และสมพระเกียรติ และให้หน่วยงานต่างๆเตรียมการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้องเหมาะสม และให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับส่วนราชการเก็บรวบรวมข้อมูล การดำเนินงานต่างๆที่เกี่ยวกับการจัดงานพระราชพิธีทั้งหมด เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติต่อไปให้ราชบัณฑิตแนะการใช้ถ้อยคำนายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า นายกฯมอบหมายให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำออกพระนาม การใช้ถ้อยคำภาษาเรียกขาน หรือเรื่องต่างๆที่เหมาะสม และให้กระทรวงการต่างประเทศ ดูแลและจัดเตรียมการต้อนรับกรณีที่มีพระประมุข ประมุข และพระราชวงศ์ หรือผู้นำแห่งรัฐต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย เนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีดังกล่าว ให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดพิมพ์หนังสือพระราชดำรัส สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เพื่อแจกจ่ายให้กับ ครม.และประชาชนเตรียมพิธีแสดงความอาลัยทั่ว ปท.ต่อมา นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ร่วมแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังประชุม ครม.ถึงการจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ สมเด็จ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยนายโสภณกล่าวว่า รัฐบาลได้จัดเตรียมโครงการเพื่อแสดงความอาลัยให้สมพระเกียรติ จะเริ่มจากพระราชพิธีทรงบำเพ็ญ พระราชกุศลสัตตมวาร ครบ 7 วัน ในวันที่ 30 ต.ค. และจะดำเนินไปตามลำดับครบ 15 วัน หรือปัณรสมวาร 50 วัน หรือ ปัญญาสมวาร และครบ 100 วัน หรือสตมวาร รัฐบาลจะจัดพิธีทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในต่างประเทศ แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตั้ง 8 คณะดูแลพระราชพิธีถวายพระเพลิงด้านนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม. มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 8 คณะ ได้แก่ 1.คณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการ มีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 2.คณะกรรมการฝ่ายจัดขบวนพระบรมราชอิสริยยศและงานพระราชพิธี มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม เป็นประธาน 3.คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพาหนะมาศ มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 4.คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธี มีนางศุภมาส อิศรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานทุกขั้นตอนสมพระเกียรติสูงสุด นายบวรศักดิ์กล่าวว่า 5.คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจรในงานพระราชพิธี มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เป็นประธาน 6.คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกในงานพระราชพิธี มี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน 7.คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณในงานพระราชพิธี มีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 8.คณะกรรมการศูนย์ประสานการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน รัฐบาลขอยืนยันดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบ สมพระเกียรติ เป็นไปตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้การถวายพระเกียรติสูงสุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมบูรณ์ที่สุดเปิดสายด่วน 1111 ให้สอบถามนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการศูนย์ประสานการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานราชการ และผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 06-2201-7232 หรือสายด่วน 1111 ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทุกส่วนราชการ ร่วมพลังแห่งความภักดีส่งภาพการจัดกิจกรรม ไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรวบรวมส่งให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร เพื่อจัดทำหนังสือต่อไปย้ำไม่ได้ห้าม ปชช.จัดกิจกรรมนายบวรศักดิ์กล่าวตอนท้ายว่า เรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ ครม.ไม่ได้มีมติห้ามใดๆทั้งสิ้นไปตีความกันเอาเอง ครม.พูดชัดขอให้ประชาชนดำเนินกิจกรรมที่เหมาะสม โดยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรมอะไร ฉะนั้นที่พูดกันในโซเชียลอย่างนู้นอย่างนี้ไม่ถูก ขอความเข้าใจตรงนี้ด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปทำให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจของประชาชนต้องหยุดชะงัก ไม่ใช่เรื่องที่พึงประสงค์ทั้งสิ้น ส่วนการทำกิจกรรมทางการเมืองนั้น ส่วนตัวไม่อาจแนะนำพรรคการเมืองได้ คำตอบนี้ในนามส่วนตัว ต้องดูกาลเทศะบ้านเมือง ดูกาลเทศะ และเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไม่ต้องพูดอะไรมากคาดใช้ 9 เดือนสร้างพระเมรุฯด้าน น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมงานพระบรมศพในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมว่า กรมศิลปากรตรวจความพร้อมของราชรถและพระยานมาศ ส่วนการร่างจัดทำแบบพระเมรุมาศ จะใช้เวลาร่างแบบประมาณ 2 เดือน เมื่อร่างแบบเสร็จแล้ว จะนำให้องค์ที่ปรึกษา มีพระราชวินิจฉัย จากนั้นจะใช้เวลาก่อสร้างพระ เมรุมาศประมาณ 9 เดือน ส่วนการจัดงานประเพณี จัดทำได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าของพื้นที่ ส่วนที่มีดราม่าการงดจัดงานต่างๆนั้น ยืนยันว่าหากเป็นเรื่องของประเพณี เป็นเรื่องที่เราต้องส่งเสริม การจัดงานสามารถจัดได้แต่ขอให้ลดโทน ลดเสียงให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน สามารถจัดให้อยู่ในกรอบประเพณีอันดีงามได้ลอยกระทง-ปีใหม่-สงกรานต์ จัดได้ส่วนนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงานวันลอยกระทงปีนี้ว่า ได้มอบนโยบายไปชัดเจนแล้ว รวมถึงการจัดการแข่งขันซีเกมส์จัดได้แน่นอน การจัดงานรื่นเริงจะไม่ห้ามหรือไปกำหนด แต่ขอความร่วมมือให้ปรับ ยืนยันว่างานที่ตกลงกันไว้แล้วหรือลงทุนไว้แล้วส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จะพยายามให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ยืนยันว่างานเคาต์ดาวน์ปีใหม่และสงกรานต์ในปีหน้า ยังคงมี ยิ่งใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดอย่างไรให้เหมาะสม หากไปจำกัดทั้งหมด จะเดินเรื่องการท่องเที่ยวลำบาก ยืนยันพลุสามารถจุดได้ แต่ให้ลดแสงสีและระดับความพอเหมาะ ซึ่งประเมินเป็นกรณีไป งานไหนจำเป็นต้องมี ก็ต้องมี แต่ปรับให้เล็กลง ให้ไปเพิ่มเนื้องานในส่วนอื่น หากเปลี่ยนเป็นการจุดพลุเฉลิมพระเกียรติก็ยินดีบวงสรวงโขนศิลปาชีพฯวันเดียวกัน ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรม แห่งประเทศไทย พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองประธานกรรมการและเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการแสดงโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอนสัตยาพาลี โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เป็นผู้ประกอบพิธี พร้อมด้วยคณะกรรมการศิลปิน นักแสดงโขน รวมถึงผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนเข้าร่วมพิธีบวงสรวงเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มการแสดงระหว่างวันที่ 6 พ.ย.-8 ธ.ค.นี้ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยพร้อมสืบสานการแสดงโขนทั้งนี้ นางนฤมล ล้อมทอง กรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวว่า ภายหลังสำนักพระราชวังประกาศสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิดำเนินการจัดแสดงโขนส่งเสริมศิลปาชีพในปีนี้ต่อไป เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอันทรงคุณค่าของชาติ และจะเสด็จพระราช ดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงโขนรอบปฐมฤกษ์ ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวโขนมูลนิธิศิลปาชีพฯ ทุกคน ในการทุ่มเทการแสดงอย่างสุดความสามารถ จะเป็นโขนที่ดีที่สุดที่พวกเราทำถวายพระองค์ปรับบทแสดงความอาลัยจากหัวใจด้านนายศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้กำกับโขนมูลนิธิศิลปาชีพฯ กล่าวว่า มีการปรับบทถวายพระพรเป็นบทอาศิรวาทแสดงความอาลัยโดยอาจารย์ประเมษญ์ บุณยะชัย ศิลปินแห่งชาติ เป็นการแต่งขึ้นใหม่จากหัวใจทั้งหมด แต่ในส่วนของเรื่องราว ฉาก ความอลังการ แสง สี เสียง ยังคงความงดงามไว้เหมือนเดิม สำหรับนักแสดงทุกคนมีขวัญกำลังใจในการแสดงเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา ขณะนี้มีความพร้อมกว่าร้อยละ 90 เหลือเพียงการเก็บงานประกอบฉากและด้านเทคนิค ซึ่งการแสดงโขนครั้งนี้ถือเป็นการหลอมรวมดวงใจชาวโขนมูลนิธิฯและผู้เกี่ยวข้องเพื่อร่วมแสดงความอาลัยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทำให้การแสดงโขนของไทยได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากยูเนสโก เนื้อหาของเรื่อง เน้นความกตัญญู ความสามัคคี ซื่อสัตย์ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่มาชมแต่งกายไว้ทุกข์อย่างเหมาะสมตามจารีตประเพณีไทยผู้คนหลั่งไหลถวายความอาลัยส่วนที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.วันที่สอง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.ตลอดวันมีบุคคลสำคัญ สมาชิกราชสกุล ทูตานุทูต และผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ตลอดประชาชนทุกหมู่เหล่า และกลุ่มชนชาติพันธุ์จากจังหวัดต่างๆ แต่งกายไว้ทุกข์เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ ด้วยความอาลัยและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ราชสกุลกิติยากร เอกอัครราชทูตและอุปทูต จากประเทศบราซิล เมียนมา โคลอมเบีย สหภาพยุโรป นครวาติกัน ฮังการี ลักเซมเบิร์ก เคนยา โปรตุเกส โรมาเนีย สโลวะเกีย สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ คูเวต ไอร์แลนด์ มัลดีฟส์ อาเซอร์ไบจาน กาตาร์ บาห์เรน ซูรินาเม จอร์เจีย ซานมารีโน โกตดิวัวร์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นำคณะผู้บริหารพรรค และนายวาโย อัศวรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมคณะ ฯลฯชาวอิ้วเมี่ยนสุดซาบซึ้งน้ำพระทัยด้าน น.ส.บัวผัน ภักดีนันท์ อายุ 48 ปี กับ นายคงเดช แซ่จ๋าว อายุ 45 ปี สองสามีภรรยาชาวชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยน จากบ้านห้วยเฮือ อ.เมืองน่าน พร้อมครอบครัว ซึ่งเป็นสมาชิกศิลปาชีพกลุ่มปักผ้าพื้นเมือง เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ทรงส่งเสริมพัฒนางานผ้าปักพื้นเมืองชาวเขาสู่สายตานานาชาติ กล่าวว่า รู้สึกเศร้าใจอย่างมากที่สมเด็จพระพันปีหลวงสวรรคต เพราะพระองค์ท่านทรงเห็นคุณค่าและความเป็นคนของชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ ทำให้ครอบครัวเรารู้สึกภูมิใจในชาติพันธุ์ของเราอย่างมาก พระองค์ท่านเคยรับสั่งว่า “ชาวเผ่าอิ้วเมี่ยนก็เป็นคนเหมือนกัน จงอย่าไปรังแกพวกเขา” นอกจากนี้ ทรงผลักดันให้งานผ้าปักพื้นเมืองของชนเผ่าอิ้วเมี่ยนเป็นหนึ่งในสินค้าโครงการศิลปาชีพ สร้างรายได้ให้ชาวบ้านในบ้านห้วยเฮือหลายครอบครัวลุงจิตอาสาขับตุ๊กๆรับส่งคนฟรีนายธรรมรัชต์ เข็มทอง หรือลุงคำแพง อายุ 74 ปี จิตอาสาขับรถตุ๊กๆ ทะเบียน สข 1437 กรุงเทพมหานคร มาคอยรับ-ส่งประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม เป็นบริการฟรีจนกว่าพิธีจะแล้วเสร็จ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2559 ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ได้นํารถตุ๊กๆคันนี้ออกมาวิ่งรับส่งประชาชนฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี ในครั้งนี้ก็ตั้งใจนํารถตุ๊กๆคันเดิมออกมาวิ่งรับส่งประชาชนอีกครั้งโดยรอบท้องสนาม หลวง ตั้งแต่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ หรือหากท่านใดจะใช้บริการไปยังพื้นที่ใด สามารถบอกกล่าวได้ ยินดีที่จะไปส่งทุกที่โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย การบริการอาสาครั้งนี้มุ่งหวังที่จะถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพราะแผ่นดินไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นผู้ดูแลและคุ้มครองคนไทยปธ.สปป.ลาวน้อมส่งเสด็จขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายทองลุน สีสุลิด ประธานสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถวายความไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ในฐานะตัวแทนของประชาชน สปป.ลาว ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกท่าน รวมถึงประชาชนไทยต่อความสูญเสียใหญ่ครั้งนี้ นอกจากนี้ นายทองลุนได้โพสต์ข้อความยกย่องพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวงที่อุทิศพระองค์เพื่อพสกนิกรไทยตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ และได้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ตลอด 75 ปีที่ผ่านมา และขอน้อมส่งเสด็จพระพันปีหลวงสู่สวรรคาลัยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่