หัวใจของเศรษฐกิจญี่ปุ่นคือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี (ร้อยละ 99 ของธุรกิจทั้งหมด) สร้างการจ้างงานมากกว่าร้อยละ 70 ของแรงงานในประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นก็กำลังเผชิญวิกฤติการสืบทอดธุรกิจที่รุนแรงที่สุดเทโคคุ ดาต้าแบงก์ บริษัทญี่ปุ่นที่ก่อตั้งในปี 1900 เป็นศูนย์ข้อมูลธุรกิจและเครดิตรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น รายงานว่า ค.ศ.2024 มากกว่าครึ่งของบริษัทญี่ปุ่นหรือร้อยละ 52.1 ยังไม่มีผู้สืบทอดที่แน่นอน แม้ว่าตัวเลขนี้จะลดลงจากระดับสูงสุด ร้อยละ 66.5 ใน ค.ศ.2017 แต่ก็ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังลึกในระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นปัญหาการไม่มีผู้สืบทอดกิจการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น จัดตั้งศูนย์สนับสนุนการสืบทอดกิจการเมื่อ ค.ศ.2018 วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป 7 ปี ญี่ปุ่นมีศูนย์ฯกระจายอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 100ศูนย์ ให้คำปรึกษาแก่เจ้าของกิจการเกี่ยวกับการสืบทอดทั้งในรูปแบบภายในครอบครัว และการขายกิจการให้บุคคลภายนอก และยังทำหน้าที่จับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ เพื่อให้กิจการดำเนินต่อได้อย่างราบรื่นนอกจากนั้น ค.ศ.2018 รัฐบาลญี่ปุ่นยังออกกฎหมายพิเศษ Business Succession Tax Relief หรือมาตรการบรรเทาภาษีเพื่อการสืบทอดธุรกิจ ช่วยให้ทายาทที่รับช่วงกิจการสามารถเลื่อนภาษีมรดกออกไปได้ตราบเท่าที่ดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง และยังลดภาระภาษีสูงสุดจากร้อยละ 55 เหลือเพียงร้อยละ 0-8 ในบางกรณีในกรณีที่ลูกหลานไม่อยากรับช่วงต่อ รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนผู้สืบทอดภายนอก มีการจัดอบรมในโครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อฝึกผู้บริหารมืออาชีพมารับช่วงกิจการที่ขาดทายาททางการญี่ปุ่นจัดตั้งเครือข่ายแพลตฟอร์มควบรวมและซื้อกิจการในระดับภูมิภาค (Regional M&A Platforms) ร่วมกับธนาคารท้องถิ่น เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการโอนกิจการ รวมทั้งสนับสนุนการจับคู่ระหว่างบริษัทในจังหวัดเดียวกันเพื่อลดการสูญเสียกิจการออกนอกพื้นที่แต่ก่อนง่อนชะไร ญี่ปุ่นเด่นเรื่องความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัว และรูปแบบการสืบทอดธุรกิจ ผู้อ่านท่านคงเคยได้ยินชื่อบริษัท คงโก กุมิ จำกัด เป็นธุรกิจครอบครัวที่สืบทอดยาวนานที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ.578 หรือเมื่อ 1,447 ปีที่แล้ว มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครโอซากาธุรกิจหลักของคงโก กุมิ คือ การก่อสร้างวัดพุทธและอาคารศักดิ์สิทธิ์ ต่อมา ค.ศ.2006 บริษัทประสบปัญหาทางการเงินจึงถูกซื้อโดยทาคามัทสุ คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป แต่คงโก กุมิ ก็ยังคงดำเนินกิจการภายใต้ชื่อเดิม และยังคงเชี่ยวชาญด้านการบูรณะวัดไม้แบบโบราณด้วยแนวคิดแบบญี่ปุ่นที่ว่าธุรกิจคือมรดกทางจิตวิญญาณของบรรพบุรุษมากกว่าทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว ทำให้กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมและสภาเอสเอ็มอีของญี่ปุ่นเร่งรณรงค์ให้เจ้าของธุรกิจเริ่มวางแผนสืบทอดตั้งแต่อายุ 60 ปี และออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวยังคงดำรงอยู่ ไม่ล้มหายตายจากไปตามกาลเวลาผู้อ่านท่านผู้เจริญ มากกว่าครึ่งของบริษัทญี่ปุ่น (ร้อยละ 52.1) ยังไม่มีผู้สืบทอดที่แน่นอน อายุเฉลี่ยผู้บริหารอยู่ที่ 60.7 ปี และมากกว่าร้อยละ 30 มีอายุเกิน 70 ปี แถมภาษีมรดกที่จะส่งต่อทายาทมีอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 55 ทำให้การส่งต่อกิจการภายในครอบครัวเป็นเรื่องยาก ลูกหลานมักเลือกทำงานในเมืองใหญ่หรือในสายอาชีพอื่นแทนการสืบทอดกิจการครอบครัวในท้องถิ่น และเจ้าของกิจการจำนวนมากไม่ได้วางแผนการสืบทอดไว้ตั้งแต่เนิ่นๆผลที่ตามมาคือบริษัทจำนวนมากต้องปิดกิจการทั้งที่ยังมีกำไร เรื่องนี้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและระบบห่วงโซ่อุปทานระดับประเทศ จำนวนไม่น้อยถูกซื้อกิจการโดยนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯและยุโรปค.ศ.2023 มีดีลการควบรวมและซื้อกิจการเกิดขึ้นกว่า 4,000 รายการ ซึ่งกว่าร้อยละ 65 เป็นกรณีที่สืบทอดกิจการไม่ได้ โครงสร้างความเป็นเจ้าของธุรกิจเริ่มเปลี่ยนจากครอบครัวญี่ปุ่นถือหุ้น เป็นทุนต่างชาติถือหุ้นมากขึ้นแม้จะช่วยต่ออายุธุรกิจ แต่ญี่ปุ่นกำลังสูญเสียทุนทางวัฒนธรรมทางธุรกิจที่สั่งสมมายาวนานหรือไม่ นี่คือความกังวลในสังคมญี่ปุ่นที่ยังแก้ไม่ตก.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม