ระส่ำทั้งประเทศ “ปลัด สธ.” ยอมรับ “กองทุนบัตรทอง” ขาดทุนยับกว่า 18,000 ล้านบาท แต่ยันโรงพยาบาล สธ.ยังไม่เจ๊ง เสนอทางออกจับมือ สปสช.ของบฯผู้ป่วยในเพิ่ม พร้อมเปิดพรีเมียมคลินิก และเน้นหารายได้ส่วนอื่นมาโปะ “โสภณ ซารัมย์” จี้เอกซเรย์ปัญหา รพ.ขาดทุนให้เจอคำตอบ ย้ำห้ามซุกขยะไว้ใต้พรม ขณะที่ “สปสช.” ไม่หวั่นกรณี รพ.มงกุฎวัฒนะงดให้บริการผู้ป่วยบัตรทอง เตรียมเจ้าหน้าที่ดูแลการย้ายสิทธิ หากอยู่ไกลเตรียมรถรับส่งไว้ให้บริการผู้ป่วยบัตรทองทั่วประเทศใจแป้ว หวั่นนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคล่มสลาย หลังเกิดปัญหากองทุน บัตรทอง 30 บาท ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ติดค้างหนี้โรงพยาบาล ทั้งรัฐ และเอกชนทั่วประเทศ ส่งผลให้การบริหารจัดการการเงินของโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง มีโรงพยาบาลหลายแห่งออกมาเปิดเผยถึงปัญหา โดยเฉพาะ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ถึงกับประกาศกร้าวขอหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทอง ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. เป็นต้นไป จนกว่า สปสช.จะจ่ายหนี้ที่ค้างกว่า 100 ล้านบาท ที่โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ วันที่ 15 ต.ค. ได้มีการประชุมชี้แจงการบริหารกองทุน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2569 นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การเงินโรงพยาบาลสังกัด สธ.ว่า การเงินของ รพ.สธ.มีปัญหามากมายและมีมาตลอด บอกกันว่า รพ.จะเจ๊ง และจำเลยคือ สปสช. แต่เรา ต้องดูข้อเท็จจริง รายได้ของ รพ.มาจากสิทธิหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง มากที่สุด 56% สิทธิ สวัสดิการข้าราชการ 20% สิทธิกองทุนประกันสังคม 8% และอื่นๆ 16% เมื่อเปรียบเทียบรายได้-ค่าใช้จ่าย ปี 2567 ของ รพ.สังกัด สธ. พบว่า กองทุนบัตรทอง มีรายได้ 179,855 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 198,335ล้านบาท ทำให้มีค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ 110% ของรายได้ หรือติดลบสูงถึง 18,479 ล้านบาทปลัด สธ.กล่าวต่อว่า ส่วนกองทุนสวัสดิการ รักษาพยาบาลข้าราชการ มีรายได้ 55,164 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 43,654 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้ 79% มีเงินเหลือ 11,510 ล้านบาท, กองทุนประกันสังคม มีรายได้ 24,364 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 22,234 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้ 91% มีเงินเหลือ 2,130 ล้านบาท กองทุนและบริการอื่นๆ มีรายได้ 49,008 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 38,840 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้ 79% มีเงินเหลือ 152 ล้านบาท เมื่อถัวเฉลี่ยรวมทั้ง 3 กองทุน ทำให้ ภาพรวม รพ.สธ.ยังไม่ได้ขาดทุน แต่ขาดทุนจากการ ให้บริการกองทุนบัตรทอง ติดลบอยู่ 18,479 ล้านบาทนพ.สมฤกษ์กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาต้นทุนค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในของบัตรทอง เช่น ค่า AdjRW เป็นค่าตัวชี้วัดทางการแพทย์ที่ใช้คำนวณค่าบริการ ฐานที่ สปสช.จ่ายให้อยู่ที่ 8,350 บาท แต่ต้นทุนจริงสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ปี 2564 อยู่ที่ 16,448.6 บาท ต่อ AdjRW ปี 2565 อยู่ที่ 16,003.22 บาท ต่อ AdjRW ปี 2566 อยู่ที่ 15,919.79 บาท ต่อ AdjRW ทั้ง 3 ปี สปสช.จ่ายให้ รพ.อัตราเดียวกันคือ 8,350 บาท ต่อ AdjRW ข้อเสนอคือ สธ.จะหารือกับ สปสช.ของบประมาณผู้ป่วยในเพิ่ม จากเดิม AdjRW ที่ 8,350 บาท เป็น 13,000 บาท และปี 2570 จะขอที่ 10,000 บาท ต่อไปจะขอที่ 13,000 บาท เพื่อยกระดับศักยภาพ และแก้ปัญหาต่างๆของ รพ.ด้วย“สธ.ยังมีแผนหารายได้เพิ่มจากการขยายบริการ ห้องพิเศษและบริการโฉมใหม่ของกลุ่มข้าราชการผ่านพรีเมียมคลินิกในและนอกเวลาราชการ หาแหล่ง เงินนอกงบประมาณ รวมมูลค่ากว่า 86,000 ล้านบาท ต่อปี ได้แก่ ประกันชีวิตเอกชน 20,000 ล้านบาทต่อปี, กลไกประกันสุขภาพภาคสมัครใจจากสิทธิประโยชน์เดิม 16,000 ล้านบาท, ประกันนักท่องเที่ยว 40,000 ล้านบาท และประกันแรงงานและคนต่างด้าว 10,000 ล้านบาท” นพ.สมฤกษ์กล่าวนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ดูแล กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาบัตรทองที่ถูกจับตามองว่าไม่เพียงพอนั้น ตนได้หารือกับผู้บริหาร สปสช. ได้เอกซเรย์ให้เห็นถึงสาเหตุที่ รพ.ขาดทุนอย่างแท้จริง แม้รัฐบาลนี้จะมีเวลาสั้น แต่จะพยายามวางรากฐานและทำความจริงให้ปรากฏ จะไม่หมกปัญหาไว้ใต้พรมแน่นอนด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช.ยืนยันจ่ายเงินคืน รพ.แน่นอน เพราะราชการไม่มีวันที่จะไม่จ่าย ไม่บิดพลิ้ว แต่ต้องตรวจสอบ รายละเอียดก่อน ถ้าตรวจสอบครบถ้วนแล้วต้องจ่ายแน่นอน สำหรับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้มอบให้รองเลขาฯ สปสช.ลงไปดูแลแล้วขณะที่ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวถึงปัญหาของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่ประกาศ หยุดให้บริการผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทอง ในวันที่ 16 ต.ค. ว่า สปสช.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย บัตรทองที่ต้องการย้ายสิทธิ หากสิทธิใหม่อยู่ในสถาน บริการที่ไกล ได้เตรียมรถรับส่งไว้บริการแล้วทพ.อรรถพรกล่าวอีกว่า สปสช.ได้เตรียมโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 4 แห่งเข้ามาดูแล คือ รพ.ราชวิถี, รพ.ราชวิถี 2, รพ.พระนั่งเกล้า และ รพ.บางกรวย ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว และตั้งจุดบริการ สปสช.อยู่ในห้างบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ พร้อมบริการรถรับส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ประชาชน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการดูแลผู้ป่วยในระบบบัตรทองต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่