ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกชายสูงวัยชาวอเมริกันโอนเงินกว่า 2 ล้านบาทเข้าบัญชีม้าในไทย หลังทางการสหรัฐฯประสานชุดสืบสวนตามแกะรอยก่อนนำหมายศาลบุกรวบหนุ่มอินเดียตัวการใหญ่และสาวไทยรับจ้างเปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือตุ๋นเหยื่อโอนเงินไปฟอกซื้อทองคำส่งกลับไปขายอินเดีย สอบพบเปิดบริษัทเมื่อปี 67 ลวงผู้เสียหายมาแล้ว 26 ราย เงินหมุนเวียนกว่า 60 ล้านบาทรวบหนุ่มอินเดียตั้งบริษัทหลอกชาวอเมริกันโอนเงินเข้าบัญชีม้าในไทยไปฟอกซื้อทองคำกลับไปขายประเทศบ้านเกิด เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 14 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 พ.ต.ท.จิรวัฒน์ บุรีงาม รอง ผกก.4 บก.สอท.2 ร่วมแถลงปฏิบัติการ “ทลายแก๊งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกชาวอเมริกันโอนเงินกว่า 2 ล้านบาท เข้าบัญชีม้านิติบุคคลของไทย พบเส้นทางการเงินโยงชาวอินเดีย-ร้านทองในกรุงเทพฯ” มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 60 ล้านบาทพล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 14 ต.ค. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 พ.ต.อ.เกรียงไกร พุทไธสง ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนทางไซเบอร์ บก.ตอท. และ พ.ต.ท.จิรวัฒน์ บุรีงาม รอง ผกก.4 บก.สอท.2 ร่วมกับ พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. นำตำรวจไซเบอร์และชุดสืบสวน บก.สส.สตม. นำหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชันที่ ค 117/2568 ตรวจค้นบ้านเลขที่ 11/39หมู่บ้านอิ่มอัมพร 3 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ จับกุมนายกูร์ดีป ซิงห์ อายุ 29 ปี ชาวอินเดีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5870/2568 พร้อมของกลางเงินสด 2 แสนบาท สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม อีกจุดเข้าจับกุม น.ส.วันดี สู่ทรงดี อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5871/2568 ที่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 2 บ้านขามใต้ ต.บึงนคร อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ดคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2567 มีผู้เสียหายเป็นชายสูงวัยชาวอเมริกัน พักอาศัยอยู่ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับอีเมลจาก “haakensonyahxi@gmail.com แอบอ้างเป็นบริษัท PayPal แจ้งเรียกเก็บเงิน 451.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 15,000 บาทในการซื้อขายบิทคอยน์ กระทั่งวันที่ 10 มิ.ย.ผู้เสียหายติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ที่คนร้ายให้ไว้ และหลงเชื่อโอนเงินจากบัญชีธนาคาร BMO BankBroadway, Englewood, USA ไปยังบัญชีธนาคารนิติบุคคลในประเทศไทยจำนวน 54,350 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 2 ล้านบาทเศษ จากนั้นวันที่ 12 มิ.ย. คนร้ายโทรศัพท์หลอกให้โอนเพิ่มอีก 5,000 ดอลลาร์อ้างว่าหากไม่โอนจะมีปัญหาตามมา ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มเติมเข้าบัญชีเดิม รวมเป็นเงินทั้งหมด 59,350 ดอลลาร์ หรือราว 2,172,126.74 บาทรอง ผบช.สอท.กล่าวอีกว่า ต่อมาผู้เสียหายเริ่มสงสัยพฤติกรรมคนร้ายและตรวจสอบพบหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อเป็นเบอร์จากรัฐเท็กซัสและผู้พูดมีสำเนียงคล้ายคนเอเชียตะวันออก จึงแจ้งความตำรวจท้องที่ในสหรัฐอเมริกา จากนั้นกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา สำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigations) สหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ประสานมายังทางการไทย เพื่อสนับสนุนการสืบสวนคดีหลอกลวงให้ลงทุน หลังจากสำนักงาน HSI Denver และตำรวจท้องถิ่น Englewood Police Department ประเทศสหรัฐอเมริกาสืบสวนทราบว่ามีผู้เสียหายชาวอเมริกันถูกกลุ่มขบวนการมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยตำรวจชุดสืบสวน กก.4 บก.สอท.2 สืบสวนทราบว่าเงินของผู้เสียหายถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทย เจ้าของบัญชีเป็นนิติบุคคลชื่อ “หจก.ฟาร์มแอลเอ” ตั้งอยู่ย่านราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ มี น.ส.วันดี สู่ทรงดี 1 ในผู้ต้องหาเป็นกรรมการ ก่อนถูกโอนต่อไปบัญชีธนาคารของบุคคลต่างด้าว สัญชาติอินเดีย จากนั้นมีการถอนเงินสดไปซื้อทองคำที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านวังบูรพา กรุงเทพฯ จากการสืบสวนพบกลุ่มคนร้ายดำเนินการในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ หลอกชาวต่างชาติแล้วนำเงินมาฟอกเงินในไทย มีการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบบริษัทรองรับโอนเงินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงเหยื่อ แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการจริง บริษัทเปิดช่วงต้นปี 67 เริ่มหลอกเหยื่อโอนเงินตั้งแต่เดือน มิ.ย.67 จำนวน 26 ราย เฉลี่ยรายละ 60,000-150,000 ดอลลาร์ มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 60 ล้านบาทจากการสอบสวนทราบว่านายกูร์ดีป ซิงห์ เป็นตัวการใหญ่ เป็นคนบริหารการเงิน ถือบัญชีธนาคารของบริษัทและคอยถอนเงินออกจากบัญชี เพื่อนำไปซื้อทองคำ 99.99% ในไทย ก่อนให้ผู้ร่วมขบวนการหิ้วทองส่งกลับอินเดียนำไปขาย แต่จากการสอบสวนเจ้าตัวอ้างว่าทำธุรกิจค้าทองคำมีลูกค้าต่างประเทศโอนเงินมาซื้อทองคำ ก่อนถอนเงินไปซื้อทองคำส่งกลับไปให้ลูกค้าตามออเดอร์ ส่วน น.ส.วันดีรับว่ารับจ้างเปิดบัญชีม้ารูปแบบนิติบุคคลในนามหุ้นส่วนผู้จัดการนิติบุคคล ได้ค่าตอบแทน 1 หมื่นบาท ตำรวจดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งสองในความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, สมคบเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่