พ่อใจสลายเข้าร้องเรียน “กองปราบฯ” ส่งลูกไปเรียน “อุเทนถวาย” แต่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายถึงขั้นปอดฉีกขาด หัวใจหยุดเต้นในมหาวิทยาลัย หมอช่วยปั๊มหัวใจกลับมาได้ รุ่นพี่ปี 2 มารับว่าเป็นคนทำร้ายเพียงคนเดียว อ้างว่าบันดาลโทสะ พ่อเด็กไม่เชื่อ เพราะได้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุลูกชายถูกรุมทำร้ายถึง 2 ครั้ง หลังหมดสติยังถูกลากตัวไปเอาน้ำราดแต่ยังไม่ฟื้น กลุ่มรุ่นพี่ยอมพาส่งโรงพยาบาล ตำรวจ สน.ปทุมวัน อ้างต้องรอสอบเหยื่อที่ยังไม่ได้สติก่อนเรียกผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อหาพ่อร้องกองปราบฯลูกชายถูกรุ่นพี่ทำร้ายสาหัสรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ต.ค. นายธมนันท์ แตงทิม หรือจ่าคิงส์ สะพานใหม่ และนายมานพ สีเหลือง ทีมงาน พานายคม พ่วงเฟื่อง อายุ 53 ปี บิดานายณัฏฐฤต หรือพีท พ่วงเฟื่อง อายุ 23 ปี นักศึกษาปี 1 สาขาการจัดการการก่อสร้าง ช่างก่อสร้าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เข้าร้องขอความเป็นธรรม ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) มี พ.ต.ต.นที วุฒิภาธรณ์ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.รับเรื่อง หลังลูกชายถูกรุ่นพี่ทำร้ายบาดเจ็บสาหัสไม่รู้ตัวอยู่ในห้องไอซียูนายคม พ่วงเฟื่อง พ่อเหยื่อถูกทำร้ายเผยว่า ลูกชายได้รับบาดเจ็บขณะทำกิจกรรมทำซุ้ม งานกิจกรรมซ้อมรับปริญญาของมหาวิทยาลัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ต่อมาช่วงเย็นรุ่นพี่โทร.มาแจ้งว่า พีทสลบกำลังพาส่งโรงพยาบาล ต่อมาโรงพยาบาลโทร.มาแจ้งว่า น้องโดนทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส หัวใจหยุดเต้น หมอปั๊มหัวใจขึ้นมาได้ ขอให้เข้ามาที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอแจ้งว่า พีทอาการค่อนข้างสาหัส หมดสติ หัวใจหยุดเต้น ทีมแพทย์ปั๊มหัวใจกลับมา นอกจากนี้ยังพบว่าลูกชายบอบช้ำที่อกและแขน ปอดรั่วยังไม่รู้สึกตัว ต้องดูอาการทางสมองอีกที วันนั้นเห็นมีรุ่นพี่ปี 2 อยู่ด้วยประมาณ 5 คน หลังจากสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น รุ่นพี่ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายน้องยอมรับเพียงคนเดียว จากคำตอบที่ได้ ทำให้รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“ถัดมาวันที่ 8 ต.ค. มหาวิทยาลัยติดต่อมาขอให้เข้าไปพบพูดคุยเรื่องมาตรการหาคนกระทำความผิด มหาวิทยาลัยเปิดกล้องวงจรปิดดูเห็นเพียงตอนรุ่นพี่นำตัวน้องส่งโรงพยาบาล จุดเกิดเหตุกลับไม่มีกล้องวงจรปิด อาจารย์บอกข้อมูลว่า น้องถูกกระทำ 2 ครั้ง ครั้งแรกช่วงเช้าที่ห้องเรียนและครั้งที่สองช่วงบ่าย รุ่นพี่บางคนไม่พอใจเรียกมาซ่อม สาเหตุเพราะไม่ตอบไลน์และติดต่อไม่ได้ ทำร้ายน้องพีทจนสลบและเลือดออกปากกับจมูกก่อนลากตัวน้องไปห้องน้ำจับหัวกดน้ำเพื่อให้น้องฟื้นแต่น้องไม่ฟื้นแตกตื่นตกใจรีบพาน้องส่งโรงพยาบาล แม่บ้านยังไปเห็นคราบเลือดในห้องน้ำจำนวนมาก” พ่อเหยื่อโหดกล่าวนายคมกล่าวด้วยว่า ต่อมามหาวิทยาลัยติดตามผู้กระทำความผิดมาได้ 1 คน พาไปชี้จุดเกิดเหตุว่าเกิดจุดไหนในมหาวิทยาลัย จากนั้นพาตัวไปแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ลูกชายบาดเจ็บที่หน้าอก ศีรษะ และตามร่างกาย เอกซเรย์อย่างละเอียดพบปอดฉีกขาดยังไม่รู้สึกตัว ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ที่ออกมาร้องเรียนวันนี้เนื่องจากอยากให้ตำรวจ สน.ปทุมวัน สอบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมาให้ได้ เนื่องจากไม่เชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีรุ่นพี่หลายคนร่วมกันทำร้ายร่างกายน้องด้านนายมานพ สีเหลือง กล่าวว่า กรณีนี้น่าจะไม่เข้าข่ายเรื่องของความผิดตามมาตรา 295 ทำร้ายร่างกายเล็กๆน้อยๆ แต่มองว่าน่าจะเข้าข่ายมาตรา 297 เพราะผู้เสียหายมีอาการปอดฉีก หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน นอนเป็นผักอยู่ในโรงพยาบาล แต่คนที่เล่าให้พ่อฟังกลับบอกว่า เป็นการบันดาลโทสะ ในการกระทำ จริงๆแล้วมันไม่ใช่เพราะผู้เสียหายไม่ได้ไปข่มเหงคนที่กระทำผิดเลย ผู้เสียหายเป็นเพียงแค่คนที่รับเรื่องมา สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ได้ข่มเหงแต่กลับถูกทำร้ายและต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลส่วนจ่าคิงส์เผยว่า ครอบครัวอยู่ในอาการเศร้าใจอย่างหนัก มาร้องขอความเป็นธรรมกับตนเอง เพราะพ่อแม่และญาติพี่น้องต่างนอนไม่หลับ เนื่องจากน้องยังนอนโคม่าอยู่ในโรงพยาบาล ไม่ฟื้นตัว มีเลือดออกทางปากและหู ตนอยากให้ยุติลงเพราะผู้ปกครองพาลูกมาเรียนเพื่อให้ได้รับความรู้และความปลอดภัย ไม่ใช่มาเสี่ยงอันตราย พร้อมกันนี้อยากฝากถึงท่านผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ให้ช่วยเร่งตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหลังรับการร้องเรียน พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ประสานข้อมูลไปยัง สน.ปทุมวัน ท้องที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน รวบรวมหลักฐานรวมทั้งสอบปากคำพยานแล้วเหลือเพียงสอบปากคำผู้เสียหาย เนื่องจากยังไม่รู้สึกตัว และยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่