เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. แถลงข่าวความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าในปีนี้สถานการณ์ฝนในกรุงเทพฯ มีปริมาณมากกว่าค่าเฉลี่ย 9.4% แต่เนื่องจากตั้งแต่ปี 2565 มีการปรับปรุงในหลายพื้นที่จึงไม่มีน้ำท่วมหนัก ขณะที่สถานการณ์น้ำเหนือเมื่อเทียบปริมาณน้ำในเขื่อนหลักจะพบว่าปี 2568 มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 92% ส่วนในปี 2554 มีปริมาณน้ำ 100% เนื่องจากมีการปล่อยน้ำล่วงหน้าหลายเดือน และมีปริมาณสูงทำให้น้ำเข้าไปอยู่ในทุ่งต่างๆ ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง แต่ในปัจจุบัน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ค่อยๆโรยน้ำมา สถานการณ์จึงไม่ใกล้เคียงกับปี 2554นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์น้ำหนุน กรุงเทพฯมีเขื่อนกันแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ความสูงสูงสุด +3.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันที่ 5 ต.ค. อยู่ในระดับ 2.02 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งห่างอยู่ 1.48 เมตร โดยคาดการณ์ว่าช่วงเวลาน้ำหนุนสูงสุดที่จะวิกฤติคือวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ แต่จะไม่มีผลกระทบต่อเขื่อนป้องกันตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่ผ่านมาจุดเสี่ยงน้ำท่วมตามบริเวณแนวป้องกัน ปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขจุดฟันหลอแล้วเสร็จ 22 จุด จากจำนวน 32 จุด พร้อมทั้งเตรียมกระสอบทรายป้องกัน 1,130,000 ใบ ใช้ไปแล้ว 198,700 ใบ ส่วนที่เหลือจะลงกระจายตามแนวต่างๆ แต่ยังมีปัญหาในชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยามี 11 ชุมชน 320 หลังคาเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 6 เขต ได้แก่ ดุสิต พระนคร บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และคลองสาน ซึ่งได้เข้าไปดูแลแล้ว“นอกจากนี้มีการติดตั้งผังบริหารจัดการน้ำ ศูนย์ควบคุมและสั่งการ ที่ทันสมัยทำให้รับมือได้ค่อนข้างดี ยืนยันว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้น่าเป็นห่วง ไม่มีสภาวะวิกฤติที่ใกล้เคียงกับปี 2554 จากการคาดการณ์พายุคงไม่ได้เข้ามากกว่านี้แล้ว” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม