วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2568 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ตรงกับวันขึ้น 15 คํ่า เดือน 8...เป็นวัน “ไหว้พระจันทร์” ของชนชาวจีนมาแต่โบราณกาล บ้างก็ว่ากว่า 3,000 ปี บ้างก็ว่า 1,000 ปี โดยประมาณนับจากยุคราชวงศ์ซ่งพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนในประเทศไทย ยอมรับในประเพณีปฏิบัติเรื่องนี้ จึงเป็นผลให้กิจกรรม “ไหว้พระจันทร์” ตามมาแพร่หลายในประเทศไทยเราด้วยแวะไปตามชุมชนจีนต่างๆจะพบว่ามีการตั้งโต๊ะไหว้พระจันทร์ไว้ตามหน้าบ้าน พร้อมกับจุดธูปไหว้ตั้งแต่ยํ่าคํ่าไปจนถึงก่อนเที่ยงคืน ...โดยมี ขนมไหว้พระจันทร์ เป็นเครื่องเซ่นไหว้หลักในกรุงเทพมหานครของเรามีชุมชนที่ เยาวราช ชุมชนหนึ่ง รู้จักกันในนามของ “ชุมชนเลื่อนฤทธิ์” อยู่ที่ถนนเยาวราช (แยกวัดตึก) สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟฟ้าใต้ดินขึ้นที่สถานี สามยอด (ทางออก 1)ที่นี่จัดงานไหว้พระจันทร์มีการโชว์ศิลปวัฒนธรรมต่างๆมาหลายปีแล้ว...ปีนี้ก็จัดตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม เป็นต้นมา รวมทั้งเย็นนี้ (จันทร์ที่ 6 ตุลาคม) จะเริ่มงานตั้งแต่ 16.30-21.00 น. ใครว่างจะแวะไปสังเกตการณ์ก็เชิญนะครับผมเองไม่ได้ไหว้พระจันทร์กับเขาหรอก แต่เขียนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกปีก็เพราะเอาใจช่วย “ธุรกิจขนมไหว้พระจันทร์” ที่เติบโตอย่างรวดเร็วนั่นเองเคยมีการประเมินว่าน่าจะถึง 1,000 ล้านบาท หรือ 1,200 ล้านบาทเข้าไปแล้วในปัจจุบัน จากการเริ่มจุดพลุของ S&P ร้านขนมและอาหารชื่อดัง เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วปีนี้ก็ดูคึกคักมีขนมไหว้พระจันทร์ออกจำหน่ายมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งจากโรงแรมใหญ่ และภัตตาคารจีนเจ้าเก่าต่างๆ...แต่ยอดขายยอดจำหน่ายจะเป็นอย่างไรบ้างยังอ่านไม่เจอรายงานใดๆ เท่าที่ผมเดินสำรวจอย่างผิวเผินในซุปเปอร์มาร์เกต 2-3 แห่ง รู้สึกว่าขายไม่ดีเท่าไรนัก...และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของการจำหน่ายแล้ว เพราะทุกร้านค้าตามห้างใหญ่ๆมักประกาศว่า จะขายถึง วันไหว้พระจันทร์ เท่านั้น จากนั้นก็เก็บของเลยใครที่ยังไม่มีปัญหาโรคเบาหวานคุกคาม และยังพอรับประทานของหวานได้อยู่บ้าง อย่าลืมแวะอุดหนุนด้วยนะครับ...ถึงแม้ขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้จะขายไม่ค่อยดี แต่อย่างไรเสียวันไหว้พระจันทร์ก็ถือเป็นวัน “ฤกษ์ดี” เสมอ เพราะเป็น “วันเพ็ญ” ของปฏิทินจีน ซึ่งก็อยู่ติดกับ “วันเพ็ญ” เดือน 11 หรือวันออกพรรษาของปฏิทินไทย ก่อนเพียงวันเดียวเท่านั้นสำหรับปีนี้ถือเป็นมงคลฤกษ์สำหรับช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี อันจะเป็นช่วง “พีก” ของการท่องเที่ยวไทยพอดิบพอดีททท.รายงานว่า ข้อมูลถึงวันที่ 30 กันยายน มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาไทยแล้ว 23 ล้าน 9 แสนคนเศษๆ ลดลงจากปีที่แล้ว 7.52 เปอร์เซ็นต์แต่ก็มีนิมิตหมายที่ดีว่าระหว่างช่วง 22 ถึง 30 กันยายน ยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะจากตลาดระยะไกลเพิ่มถึง 13.3 เปอร์เซ็นต์...แสดงว่าช่วงไฮซีซันปีนี้จะเพิ่มขึ้นแน่ๆนักท่องเที่ยวจีนที่หดลงไปอย่างน่าใจหายก็ดูเพิ่มขึ้นอย่างหนาตาในช่วง “โกลเด้นวีก” หยุดยาววันชาติจีนที่เริ่มมาจาก 1 ตุลาคม ก่อนเทศกาลไหว้พระจันทร์ และออกพรรษาเล็กน้อยททท.เพิ่งกลับจากไปทำแคมเปญที่ประเทศจีน เชื่อว่าน่าจะเก็บเกี่ยวได้ไม่น้อยกว่า 200,000 คน หรืออาจจะถึง 300,000 คน ก็ได้สำหรับโกลเด้นวีกปีนี้แหล่งข่าวผมจากสุวรรณภูมิก็ยืนยันว่า ช่วง 5-6 วันที่แล้วนักท่องเที่ยวเข้ามาหนาตามาก รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่หายๆไป ก็เริ่มกลับมาแล้วส่วนหนึ่งท่องเที่ยวไทยเรายังมีอนาคต และยังเป็นความหวังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอยู่ครับ...ขอให้เดินหน้าเต็มที่ต่อไปนะครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม