รถเครน 200 ตัน เร่งขนเสาไฟฟ้า สายไฟ ท่อประปา และเศษวัสดุ ออกจากหลุมยุบหมดแล้ว รฟม.ปรับแผนระดมขนทรายล้วนกลบหลุมยุบถนนสามเสน ประเมินต้องใช้ทรายทั้งหมด 7,000- 8,000 คิว หรือมากกว่า 1,000 เที่ยวรถ คาดใช้เวลา 5-6 วัน จะเพิ่มระดับขึ้นมาเท่าถนนเดิม ก่อนปรับผิวจราจรพร้อมเปิดใช้วันที่ 9 ต.ค. ตามกำหนดเดิม สาเหตุไม่ถมทรายสลับกับเทปูนเพื่อความสะดวกการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินในอนาคต ส่วนการจราจรรอบ รพ.วชิรพยาบาลยังวิกฤติ ต้องรับผู้ป่วยวันละ 4- 5 พันคน วอนผู้ป่วยและครอบครัวใช้รถสาธารณะกรณีถนนสามเสนช่วงหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลเกิดทรุดตัวเป็นหลุมขนาดยักษ์ สันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุมาจากความผิดพลาดทางวิศวกรรมการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ อยู่ระหว่างซ่อมแซมให้ถนนสามเสนกลับมาใช้งานได้ปกติ ส่วนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แถลงผลวิเคราะห์สาเหตุมาจากท่อประปาแตกน้ำชะดินไหลเข้าช่องว่างระหว่างอุโมงค์กับสถานีรถไฟฟ้า แก้ไขด้วยการใช้คอนกรีตเทอุดรอยรั่วในอุโมงค์สำเร็จ พร้อมเร่งซ่อมแซมเพื่อคืนพื้นผิว ถนนสามเสนได้ภายใน 2 สัปดาห์ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ก.ย. การดำเนินการเสริมพื้นดินที่ยุบลงไปบนถนนสามเสนยังเร่งดำเนินการต่อเนื่อง รถบรรทุกทรายหลายสิบคันทยอยเข้ามาเททรายลงบริเวณหลุม วิศวกรและเจ้าหน้าที่ควบคุมงานวางแผนการถมทรายเป็นชั้น ชั้นละประมาณ 1 เมตร เพื่อเพิ่มระดับจนใกล้เคียงผิวถนนเดิม วันนี้มีทรายเข้ามาประมาณ 1,300 ลูกบาศก์เมตร ใช้รถบรรทุกประมาณ 130 คัน มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ราว 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน กระบวนการถมทรายจะใช้เวลา 3-4 วันจึงจะได้ระดับเท่ากับผิวถนน พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนปรับพื้นและปูผิวทางใหม่เพื่อเปิดให้ประชาชนสัญจรตามปกติ ส่วนวัสดุสิ่งกีดขวางที่เคยตกค้างในหลุม เช่น เสาไฟฟ้า หม้อแปลง รวมถึงท่อประปาขนาดใหญ่ ถูกเคลื่อนย้ายออกหมดแล้วนายเทียนชัย วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการเขตดุสิต เผยว่า ขณะนี้การดำเนินการเป็นไปตามแผนที่วางไว้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับเหมาเร่งจัดเก็บวัสดุและสิ่งกีดขวางออกจากพื้นที่ต่อเนื่อง ก่อนเข้าสู่การถมทราย เดิมทีจะใช้ทรายผสมปูน แต่เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต หากมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินผ่านพื้นที่นี้ จึงปรับแผนใช้ทรายล้วนเพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคในการขุดเจาะหรือรื้อถอนงาน วันนี้คาดว่าสามารถถมทรายได้ราว 1-2 เมตร ก่อนประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าต้องปรับแผนเพิ่มเติมหรือไม่ แม้มีความไม่แน่นอนด้านระยะเวลาการถมหลุม แต่เบื้องต้นเขตดุสิตยืนยันการดำเนินงานยังอยู่ในกรอบกำหนด เปิดถนนในวันที่ 9 ต.ค.แน่นอนด้าน นพ.จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลต้องรองรับผู้ใช้บริการมากกว่า 4,000 คนต่อวัน คาดว่าวันที่ 1 ต.ค. จำนวนจะเพิ่มขึ้นถึง 5,000 คน เป็นวันที่โรงพยาบาลต้องบริหารจัดการอย่างเข้มข้นที่สุด ขอความร่วมมือจากประชาชนให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัวหากไม่จำเป็น การบริหารจัดการในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งประชาชน หน่วยงานราชการ ตำรวจจราจร และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับบริการ วางแผนการเดินทางให้เร็วขึ้นอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงต่อมาเวลา 14.45 น. ที่ รพ.วชิรพยาบาล นายกิตติ เอกวัลลภ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ใช้เครนขนาด 200 ตันเก็บเศษวัสดุต่างๆ ทั้งเสาไฟฟ้า สายไฟ วัสดุต่างๆ รวมทั้งตัดท่อประปาให้มีขนาดเล็กลงเพื่อเคลื่อนย้ายออกจากหลุมเรียบร้อยแล้ว ส่วนเมื่อเช้าปรับแผนจากเดิมที่ต้องถมทรายลงไปในหลุมเป็นชั้น ชั้นละไม่เกิน 1 เมตร แต่ปรากฏว่าตรวจพบโพรงดินอยู่ใกล้กับท่อประปาที่ขุดขึ้นมา ขนาดลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วนอีกจุดอยู่บริเวณขอบกำแพงที่เทคอนกรีตลงไปแล้วคาดว่าเกิดการหดตัวจนเกิดรอยแยก ทำให้การถมทรายต้องหยุดชะงักไป 7 - 8 ชั่วโมง เนื่องจากต้องเทคอนกรีตไปอุดโพรงและรอให้แข็งตัวก่อน หากช่วง เย็นนี้ฝนไม่ตกน่าจะสามารถถมทรายได้ตามขั้นตอน“ส่วนเหตุผลการปรับแผนจากการเททรายผสมคอนกรีตเป็นทรายล้วน เนื่องจากเป็นเหตุผลทางเทคนิค เพราะทรายล้วนจะมีความแน่นกว่าทรายผสมคอนกรีตและเจาะง่ายกว่า ดังนั้น หากในอนาคตมีการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคจะไม่เกิดปัญหา เบื้องต้นประเมินว่าต้องใช้ทรายทั้งหมด 7,000-8,000 คิว หรือมากกว่า 1,000 เที่ยวรถ โดยเตรียมทรายไว้วันละ 2,000 คิว คาดว่าจะใช้เวลา 5-6 วันจะได้ระดับตามที่ต้องการ จากนั้นจะทำพื้นผิวจราจร จะสามารถใช้ถนนสัญจรได้ 2 ช่องทางวันที่ 9 ต.ค.” ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม.กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่