เซลส์สาวขายประกันชีวิต ซดเหล้าเมาปลิ้นควบเก๋งบีเอ็มฯซิ่งย้อนศรบนถนนราชพฤกษ์กลางดึก เกาะเลนขวามายาวๆร่วม 5 กม. ผู้ใช้เส้นทางเบรกกันหัวทิ่ม ทำรถยนต์หรูทั้งเบนซ์-ปอร์เช่ ชนท้าย 5 คันรวด ไม่ยอมจอดลงมาดู ซิ่งต่อไปถึงสะพานข้ามคลองบางบัวทอง ก่อนประสานงารถกระบะคอกบรรทุกมะพร้าวพังยับทั้ง 2 ฝ่าย ตำรวจล็อกตัวเป่าแอลกอฮอล์ที่โรงพัก พุ่งปรี๊ด 205 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา เจ้าตัวร่ำไห้ขอโทษสังคมสาวเมาปลิ้นควบเก๋งบีเอ็มฯย้อนศรชนรถกระบะ บรรทุกมะพร้าว และเป็นต้นเหตุทำให้รถยนต์ชนกัน ระนาวครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่า ร.ต.อ.ณัฐพล ดวงสุริยา รอง สว. (สอบสวน) สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี รับแจ้งเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 29 ก.ย. มีผู้ขับรถยนต์ย้อนศร และพุ่งชนประสานงากับคู่กรณีบนสะพานข้ามคลองบางบัวทอง ถนนราชพฤกษ์ ฝั่งขาออก ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไปสอบสวนพบรถคันก่อเหตุเป็นรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู 320 ดี สีขาว ทะเบียน 1 ขบ 856 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในเลนทางด่วนช่องทางขวาสุด สภาพด้านหน้า พังยับ ใกล้กันพบรถคู่กรณีเป็นรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน 2 ฒง 133 กรุงเทพมหานคร ต่อคอกเหล็ก บรรทุกมะพร้าวมาเต็มคัน หน้ารถพังยับเช่นกันขณะเดียวกันได้รับแจ้งมีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุจากเหตุการณ์นี้อีกหลายคัน อาทิ รถเก๋งปอร์เช่ 2 คัน รถเบนซ์ 1 คัน และรถยนต์อื่นอีก 3 คัน บริเวณริมถนนจุดเกิดเหตุ พบ น.ส.ปภัสรินทร์ เจริญดุสิตภัสร์ อายุ 37 ปี อาชีพเซลส์ขายประกันชีวิต เป็นคนขับ รถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูคันดังกล่าว อยู่ในอาการมึนเมา พูดจาวกวนฟังไม่รู้เรื่อง บอกขับรถมาขำๆ ตำรวจนำตัว ไปโรงพักเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ผลเป่าเมาวัดค่าได้ 205 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ระหว่างนั้น เจ้าตัวอ้างมีอาการเจ็บหน้าอก เจ้าหน้าที่นำส่งรักษาที่ รพ.เกษมราษฎร์อินเตอร์สอบสวนทราบว่า น.ส.ปภัสรินทร์เริ่มต้นขับย้อนศรมาจากทางเบี่ยงออกทางคู่ขนาน บริเวณหน้า โรงแรมแกรนด์ราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปทางถนนรัตนาธิเบศร์ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบนสะพานข้ามคลอง บางบัวทอง รวมระยะทางร่วม 5 กิโลเมตร ระหว่างที่ขับรถย้อนศร รถยนต์คันอื่นๆที่ขับมาในช่องทาง จราจรตามปกติ ต้องเบรกกะทันหัน ทำให้รถที่แล่นตามหลังมาเบรกไม่ทัน เฉี่ยวชนท้ายกันรวม 5 คัน แต่ น.ส.ปภัสรินทร์ไม่สนใจจอดรถลงมาดูความเสียหาย กลับหักพวงมาลัยรถหลบออกจากจุดเกิดเหตุ และยังขับย้อนศรต่อไปอีก ท่ามกลางรถยนต์ที่ขับสวนทางมาเต็มถนนอย่างน่าหวาดเสียว กระทั่งไปชน ประสานงากับรถกระบะและรถเก๋งอีกคัน ในเหตุการณ์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ตำรวจเตรียมรวบรวมพยานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปต่อมา ในช่วงเช้า พ.ต.ท.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า คดีนี้ ได้บันทึกเหตุการณ์ไว้เบื้องต้น รอนัดสอบปากคำผู้ขับขี่ รถยนต์คันเกิดเหตุ เนื่องจากเมื่อคืนได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์รักษา ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนผู้ขับขี่รถคันอื่นที่ได้รับความเสียหาย จะทยอยเรียกสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง รถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุพบว่าทำประกันภัยครบทุกคัน ประกันรถจะประสานเรื่องค่าเสียหายกันเอง ขณะนี้ได้พิจารณา แจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.ปภัสรินทร์ คนขับรถคันก่อเหตุ รวม 3 ข้อหา “ขับรถในขณะมึนเมาสุรา, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและบาดเจ็บ และขับรถโดยประมาทหวาดเสียว” ผู้ขับขี่ให้การรับสารภาพ ส่วนเรื่องรถคันเกิดเหตุจะถูกริบเป็น ของหลวงหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาต่อมา นายอธิวัฒน์ สินธุพิบูลนนท์ ทนายความส่วนตัว พา น.ส.ปภัสรินทร์ คนขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู เดินทางมาที่ สภ.ราชพฤกษ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา น.ส.ปภัสรินทร์ยังมีอาการเจ็บหน้าอก แขนซ้ายช้ำ ขาซ้ายเดินกะเผลก ศีรษะบวมช้ำจากแรงกระแทกอยู่ ในสภาพร้องไห้ตลอดเวลาระหว่างให้ปากคำ และยอมรับผิดทั้งหมด พร้อมกล่าวขอโทษผู้เสียหายทุกคน รวมทั้งขอโทษสังคมที่ขาดความสำนึก ยืนยันจะรับผิดชอบทุกสิ่งที่ทำลงไป พนักงานสอบสวนได้แจ้ง ข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็น เงินสดขอประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนปฏิเสธการ ให้ประกัน นำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ ก่อนพา ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ทนายนำเงิน 8 หมื่นบาท ยื่นขอประกันตัว ศาล อนุญาตให้ประกันนายอธิวัฒน์ ทนายความผู้ต้องหา กล่าวว่า ตอนนี้สภาพจิตใจลูกความย่ำแย่มาก รวมทั้งยังได้รับ บาดเจ็บจากแรงกระแทกที่ศีรษะ หน้าอก และขาขวา ลูกความของตนยินดีรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งหมด ได้ประสานให้ประกันของรถบีเอ็มฯเข้าไปรับผิดชอบกับผู้เสียหายคันอื่นๆก่อน จากนั้นฝ่ายประกัน รถบีเอ็มฯจะมาเรียกเก็บค่าชดเชยความเสียหายกับลูกความของตนแทนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่