เจอเด็กสมาธิแกร่ง คนแก่สมาธิสั้นเลยแกว่งเสียมวยตามๆกันในจังหวะที่ก๊วนเพื่อไทยและกองเชียร์ทีม “เถ้าแก่ใหญ่” ยังสาละวนสลัดไม่พ้นอาการทำใจไม่ได้กับการหลุดวงโคจรอำนาจ ฟาดหัวฟาดหางใส่ค่ายส้มที่แย่ง “อมยิ้ม”ไปให้เด็กเกรียนเซราะกราว เข้าปาก “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล แห่งค่ายภูมิใจไทยพาลยัดข้อหา “อุดมการณ์เพี้ยน” ผลักทีมส้มไปเจือปนกับแก๊งน้ำเงินสะท้อนความตื้นเขินการเมืองโบราณที่หมกมุ่นอยู่กับผลประโยชน์เกมอำนาจ และนั่นก็สวนทางกันกับปรากฏการณ์ฝุ่นควัน จากเกมพลิกขั้วรัฐบาลเริ่มจางลง จึงค่อยๆเห็นภาพชัดความอัจฉริยะของเด็กรุ่นใหม่ผลสำเร็จของ “เอ็มโอเอ” กระบวนท่าของก๊วนเด็กส้มเล่นท่ายาก ผลักดันรัฐบาลสูตรพิสดาร มันอยู่ที่ทุบทำลายขบวนการ “ดีลลังกาวี” แบบไม่เหลือชิ้นดี กระเจิงหมดทั้ง “นายใหญ่–นายหญิง–“บิ๊ก ด.” ผู้มากบารมี–บิ๊กสปอนเซอร์” ไม่เว้นแก๊งโหนลุงคนดี ค่ายรวมไทยสร้างชาติ มรดกชิ้นสุดท้ายของ “ลุงตู่” ถึงจุดระเนระนาด พร้อมๆกับค่ายพลังประชารัฐของ “ลุงบ้านป่าฯ”สลาย “รัฐพันลึก” ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนของขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยมใช้เวลาแค่ 2 ปี ในการโละสูตรผสมไฮบริด ตัดจบดีล “ทักษิณ ชินวัตร” ที่หักฝ่ายเสรีนิยมไปผสมพันธุ์ข้ามขั้วกับเครือข่ายทหารเฒ่า เปลี่ยนโปรโมชันอำนาจการเมืองมาอยู่ในมือของ “นายกฯหนู” ที่ถือตั๋ว “วีวีไอพี” ได้สิทธิสั่งเส้น “กวยจั๊บพิเศษ” ภายใต้การอุปถัมภ์ของ “นายพล ส.”สไตล์เกรียน “2 น.” ที่รายล้อมไปด้วย “มาเฟียบ้านใหญ่”เดินหมากอำนาจแบบบู๊ดุดัน แต่ไม่ได้สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนอันตราย ง่ายกับทีมส้มในการเดินเกมตามวิถีในเลนซ้ายของฝ่ายเสรีนิยมณ จุดที่ค่ายส้มได้ยกระดับมาตรฐานการเมืองใหม่ไปอีกชั้น ตามปรากฏการณ์ที่ “กุมารเท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำค่ายส้ม ประกาศผ่านการให้สัมภาษณ์นิตยสาร “TIME” สื่อระดับโลก ให้รับรู้กันไปในระดับอินเตอร์พร้อมแล้วกับการบริหารประเทศไทย วางแคนดิเดตนายกฯเต็มบัญชี 3 คน จัด ครม. วางคนเป็นรัฐมนตรีครบหมดทุกกระทรวง พร้อมเปิดโชว์แลกคะแนนนิยมทันทีที่เข้าโหมดเลือกตั้งใหญ่พร้อมๆไปกับการเปิดโหมดให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้โหวตเบื้องต้น คัดสรรคนที่จะลงสมัคร สส.ยี่ห้อพรรคส้ม ไม่ใช่หมาหลงมาลงง่ายๆ ทำให้ได้ผู้แทนราษฎรที่มาทำงานให้ชาวบ้านจริงๆและสิ่งที่สะท้อนสปิริตของเด็กรุ่นใหม่ที่สลัดพ้น “นักเลือกตั้งอาชีพพันธุ์โบราณ” ก็คือการที่ “สส.เฒ่า” นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. ค่ายส้ม แสดงเจตจำนงล่วงหน้า จะไม่ไปต่อในการลงสนามเลือกตั้งรอบต่อไป เพราะได้ทำผลสำเร็จตามเป้าหมายกับการผลักดันนโยบายเปิดเสรีสุราแน่นอนว่า เหตุผลที่ซ้อนอยู่ด้วยคือการไม่ดันทุรังเป็นหนึ่งใน 44 สส.ที่ลุ้นคดี 112 ใน ป.ป.ช. แต่ที่มากกว่าก็คือมุมของการโชว์ไม่ยึดติดอำนาจรากงอกตอกย้ำการไม่ตกเทรนด์โลก ค่ายส้มทำตามกระแสที่กำลังจุดติดปรากฏการณ์ “เนโป” พลังเจน Z ที่ระเบิดขึ้นมาแบบน่าตื่นตาตื่นใจ ลามจากเนปาล เข้าสู่อินโดนีเซีย ไหลถึงฟิลิปปินส์ และเริ่มจุดชนวนในเมืองไทยเด็กรุ่นใหม่ไม่ทนกับนักการเมืองเผด็จการคอร์รัปชันม็อบลุกฮือขับไล่ผู้มีอำนาจไปจนถึงคนในตระกูลที่ร่ำรวยจากการทุจริต ตัวปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวยกระจุก จนดักดานในสังคมประเทศไม่พัฒนาสถานการณ์เข้าเหลี่ยมค่ายส้มขี่กระแสการเมืองใหม่ปลอดคอร์รัปชัน แต่นั่นก็น่าจะหักมุมกับสภาพกดดันรัฐบาลเซราะกราว ภายใต้การนำของ “นายกฯหนู” ที่มาพร้อมกับ “ครม.โปะหน้าเค้ก กลบไส้เน่า ในไม่มิด”เกาะติดข้อมูลจากสำนักข่าวอิศราและเพจ CSI LA ที่ขยายผลบทวิเคราะห์ของ “ทอม ไรส์” นักข่าวชื่อดังผู้ขุดประจานกองทุน 1MD จนอดีตนายกฯมาเลเซียต้องติดคุก ต่อเนื่องถึงการขุดปมร้อนในเมืองไทยพบว่ามีรัฐมนตรีอย่างต่ำ 2 รายในรัฐบาลเซราะกราว ที่ตกอยู่ ในข่ายมีความใกล้ชิด “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์” ตัวละครลับ อาชญากรเงินเทาระดับโลก เบื้องหลังขบวนการฟอกเงิน โยงแก๊งทุจริต เอี่ยวผู้มีอำนาจไทยและ “ตระกูลฮุน” ผู้นำเผด็จการเขมรโปะแป้งขาววอกเป็นเป้าล่ออยู่ในโซนรัฐมนตรี “ยี้”แถม “ดรีมทีม” ที่ว่าใสก็ไม่วายมีตำหนิ คดีค้างอยู่ใน ป.ป.ช.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม