“บิ๊กเต่า” ตั้งธงตรวจสอบเงินบริจาคทั้งหมดของวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินโอน 12.2 ล้านบาท นำไปใช้ประโยชน์ในมูลนิธิหรือใช้ส่วนตัว เผยจากการตรวจสอบบัญชีพบเงินไหลเวียนห้วง 4-5 ปี มียอดเข้ามาเยอะมาก ส่วนความสัมพันธ์พระกับสีกาที่เยอรมนีไม่น่ามีเรื่องชู้สาวเป็นเพียงโยมอุปัฏฐาก ฝ่ายหญิงได้เงินเดือนเดือนละประมาณ 1.2 แสนบาท คดีโอนเงินทนายความแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีที่ บก.ปปป. ขณะนี้ส่งไปให้ ป.ป.ช.พิจารณากรณีทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ และประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ออกมาเปิดเผยถึงพระนักเทศน์ชื่อดังใน จ.ปทุมธานี มีพฤติกรรมต้องสงสัยโอนเงินเข้าบัญชีของสีกาคนหนึ่งที่ประเทศเยอรมนี จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 12.2 ล้านบาท สีกาได้ปรึกษาทนายความก่อนเข้าแจ้งความที่ บก.ป. ตรวจสอบว่าเป็นการฟอกเงินหรือทุจริตเงินวัดหรือไม่ ต่อมา น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ “ทนายอุ้ม” รับมอบอำนาจจากสีกาพลอย (นามสมมติ) อยู่ที่เยอรมนีนำหลักฐานส่งให้กองปราบฯเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบและเอาผิด ยืนยันว่าแจ้งความดำเนินคดีไม่เกี่ยวเรื่องขัดผลประโยชน์หรือความสัมพันธ์ส่วนตัว ด้านวัดนาป่าพง ตั้งทีมทนายวัดชี้แจงระบุพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โอนเงินเพื่อใช้จัดตั้งมูลนิธิพุทธวจนที่เยอรมนี ส่วนเงินยังอยู่บัญชีธนาคารของมูลนิธิต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ไม่ได้ยักยอกทรัพย์หรือฟอกเงินตามที่กล่าวหาความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 ก.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวถึงกรณีพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่งที่ประเทศเยอรมนีว่า คดีดังกล่าวมีทนายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทาง บก.ปปป. ได้ส่งเรื่องนี้ไปที่ ป.ป.ช. พิจารณาและดำเนินการต่ออยู่ระหว่างรอว่าจะส่งเรื่องกลับมาให้ทำต่อหรือไม่ ตามกรอบระยะเวลา 30 วัน อีกส่วนเป็นเรื่องของ บก.ป.ที่มีคนร้องให้ตรวจสอบวัดนาป่าพง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่คาดสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า จากการแถลงข่าวของวัดเมื่อวันที่ 16 ก.ย. บางส่วนรับฟังเป็นข้อมูลสอดคล้องกันแต่บางส่วนขัดแย้งกัน ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ บางส่วนมีผู้เสียหายร้องทุกข์ ส่วนทนายวัดพูดไปทางเดียวกันมีบางประเด็นไม่ตรงกัน แต่ยังไม่อยากตั้งประเด็น เพราะกำลังมองเรื่องบัญชีเงินวัดที่บริจาคว่า เป็นเจตนาที่บริจาคหรือเอาไปใช้เป็นมูลนิธิ เรามองแค่เงินเอาไปใช้ประโยชน์จากกิจการที่เกี่ยวข้อง หรือเอาไปใช้ส่วนตัว เงินที่บริจาคเข้ามาเรื่อยๆที่ไม่เกี่ยวกับ 12.2 ล้านบาท อยู่ที่ไหน เปิดบัญชีเพิ่มหรือไม่ เงินอยู่ที่ต่างประเทศหรือไทย ถ้าอยู่ต่างประเทศก็อาจเป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักรและต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคือ การเปิดมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนีในปี 56-59 ได้ตรวจสอบแค่ส่วนนี้เป็นบัญชีที่ได้ตรวจสอบ พบเงินไหลเวียนพอสมควร ย้ำว่า 4-5 ปีนี้มียอดเข้ามาเยอะมาก ต้องบอกว่าหลวงพ่อเป็นพระมีจิตวิทยาในการสอน แต่ตำรวจมองเรื่องการกระทำผิดที่ต่างประเทศเป็นเรื่องเล็ก เรื่องหลักคือการบริจาคเงินจากบัญชีต่างๆของวัด เงินพวกนี้น่าจะเป็นเงินจำนวนมาก ส่วนความสัมพันธ์ของสีกาที่เยอรมนี เบื้องต้นสีกาพลอยมีสามีอยู่แล้ว ทั้งคู่ไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน น่าจะเป็นเพียงโยมอุปัฏฐากที่มีความเคารพนับถือ และได้เงินเดือนเดือนละประมาณ 120,000 บาท เบื้องต้นมีผู้เกี่ยวข้องในขบวนการเกือบ 10 คน ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อ เข้ามา แต่จะต้องมาชี้แจงหรือไม่ขอเวลาตรวจสอบก่อนขณะเดียวกัน มีรายงานว่าจากการตรวจสอบเงินบริจาควัดนาป่าพงย้อนหลังไปเพียงประมาณ 3-4 ปี พบยอดเงินบริจาคหมุนเวียนถึง 500 กว่าล้านบาท มากกว่าวัดไร่ขิงหลายเท่าตัวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่