เมื่อปี 2563 ที่ประชุม ครม.เคยมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาแนวทางขับเคลื่อนพัทยาให้เป็น ศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ และหลายปีที่ผ่านมาพัทยามีการจัดเฟสติวัลอย่างต่อเนื่อง เช่น เทศกาลหนัง เทศกาลดนตรี เทศกาลพลุ ล่าสุด ได้ร่วมมือกับ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จัดเทศกาลภาพยนตร์เด็กและเยาวชน Pattaya Youth Film Festival 2025 สร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังวัฒนธรรมในการดูหนังให้กับเด็กและเยาวชน เป็นกำลังสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเมืองพัทยาสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในอนาคตการเป็นฮับแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไม่เพียงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างรายได้ หนุนเสริมการท่องเที่ยว ทั้งยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์โปรโมตประเทศไทย และจะยิ่งดีที่สุดหากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น เมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ของยูเนสโก (UNESCO Creative City of Film) เปรียบเหมือนผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกมี 7 ด้าน ทุกๆ 2 ปีจะมีการขึ้นทะเบียนหรือที่เรียกว่า “ติดดาว” เมืองที่ผ่านหลักเกณฑ์ประเมิน ไทยมี 7 เมืองที่เคยคว้าดาวมาแล้ว ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงราย เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านดีไซน์ ภูเก็ต เพชรบุรี ด้านอาหาร เชียงใหม่ สุโขทัย ด้านงานฝีมือและศิลปะพื้นบ้าน สุพรรณบุรี ได้ดาวด้านดนตรี ซึ่ง อพท.เป็นหัวหอกประสานความร่วมมือหน่วยงานต่างๆยกระดับเมืองให้เข้าหลักเกณฑ์ และเสนอรายงานขอขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกคุณศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผอ.อพท. เผยว่า พัทยามีความพร้อมทุกด้านในการก้าวสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่ง อพท.ได้ร่วมมือกับพันธมิตร 12 หน่วยงานขับเคลื่อนเมืองพัทยาสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ของยูเนสโก ในปี 2570ผมไปค้นข้อมูลหลักเกณฑ์การพิจารณาเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ประกอบด้วย 1.เมืองนั้นต้องแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคม 2.เมืองมีประวัติศาสตร์หรือชื่อเสียงในด้านภาพยนตร์ เช่น มีเทศกาลหนังที่ยาวนาน มีโรงหนังเก่าแก่ แหล่งเก็บฟิล์ม หรือเป็นสถานที่ถ่ายทำที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ 3.มีสถาบันการศึกษา โรงเรียนภาพยนตร์ หรือหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง4.มีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ครบวงจร 5.มีการจัดงานเทศกาลหนัง งานประกวด กิจกรรมเผยแพร่ภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง 6.ใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการมีส่วนร่วมของชุมชนเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ที่คนไทยคุ้นหูคุ้นตา อาทิ ปูซาน เกาหลีใต้ ชิงเต่า จีน มุมไบ อินเดีย ยามากาตะ ญี่ปุ่น กาฐมาณฑุ เนปาล บริสตอล อังกฤษ ฯลฯการได้รับดาวเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์มีประโยชน์หลายด้าน ได้แก่ ยกระดับภาพลักษณ์และแบรนด์เมือง ทำให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก ส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและดึงดูดนักลงทุน เช่น ปูซานหลังได้เป็นเมืองสร้างสรรค์แล้วได้ต่อยอดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน (BIFF) จนกลายเป็นเทศกาลหนังใหญ่ที่สุดในเอเชีย ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 200,000 คนต่อปี และมีนักท่องเที่ยวไปชมสตูดิโอสถานที่ตามฉากถ่ายหนังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น เช่น กวาดาลาฮารา เม็กซิโก ได้รับงบประมาณสนับสนุนเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Guadalajara International Film Festival จนพัฒนาเป็นเทศกาลสำคัญมากงานหนึ่งในละตินอเมริกาเกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งในด้านบุคลากร สถาบันการศึกษา และพื้นที่สร้างสรรค์ใหม่ๆพรุ่งนี้มาคุยกันต่อว่าพัทยาได้เตรียมความพร้อมแค่ไหนอย่างไรแล้วบ้าง เพื่อจะคว้าตราประทับจากยูเนสโกในการเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม