โคราชอ่วม น้ำป่าซัดถล่มเมืองพิมาย บ้านเรือนถนนหนทางจมบาดาลพังพินาศหนักสุดรอบ 10 ปี กู้ภัยลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านเร่งอพยพผู้คนออกมาที่ปลอดภัย หนุ่มเคราะห์ร้ายเข็นรถ จยย. ลุยน้ำท่วมถูกกระแสน้ำซัดกลืนร่างจมหายกลายเป็นศพติดอยู่ปากท่อระบายน้ำ ชัยภูมิยังวิกฤติหนัก ที่บำเหน็จณรงค์ 2 หมู่บ้านพื้นที่รับน้ำเดือดร้อนแสนสาหัส ลุ่มเจ้าพระยาลุ้นระทึกระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มระบายน้ำเป็น 1,900 ลบ.ม.ต่อวินาที จังหวัดท้ายน้ำระดมป้องกันเต็มพิกัดหลายพื้นที่ทั่วไทยยังเผชิญฝนตกหนักส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอพิมาย นายสาทิช บวชสันเทียะ รองนายก อบจ.นครราชสีมา นำกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมกับตำรวจ สภ.พิมาย หน่วยกู้ภัยฮุก 31 หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุน้ำเอ่อล้นอ่างหนองตะคลอง ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ ต.รังกาใหญ่ หลังเกิดฝนตกนานตลอดทั้งวันมีน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันในหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ น้ำป่าซัดข้าวของในบ้านและรถยนต์ออกมาลอยอยู่กลางถนน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยอพยพผู้คนออกจากบ้านกันอย่างทุลักทุเลเนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก ชาวบ้านระบุว่าน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมครั้งนี้นับว่าหนักสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาส่วนที่ถนนสายพิมาย-ชุมพวง บริเวณหน้าโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ต.รังกาใหญ่ ระดับน้ำสูง 50 ซม.ถึง 1 เมตร ระยะทางยาวกว่า 1 กม. กระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงจนรถเล็กผ่านไม่ได้ ตำรวจต้องปิดการจราจรไม่ให้รถวิ่งผ่านเกรงจะเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เทศบาลตำบลรังกาใหญ่ตัดสินใจใช้รถตักดันเกาะกลางถนนออกเพื่อเปิดทางให้น้ำไหลผ่าน ขณะเดียวกันเกิดเหตุน้ำไหลเชี่ยวซัดร่างชายคนหนึ่งขณะเข็นรถ จยย.เดินลุยน้ำท่วมบริเวณสี่แยกหลังโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 เสียหลักล้มจมน้ำหายไป กู้ภัยออกตามหาพบรถ จยย.ลอยไปติดกำแพงโรงเรียน ส่วนผู้สูญหายทราบชื่อนายสมชาย ขมโคกกราด อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267 บ้านดอนตำแย หมู่ 20 ต.โบสถ์ อ.พิมาย พบเป็นศพจมน้ำเสียชีวิตติดอยู่ปากท่อระบายน้ำข้างโรงเรียนห่างไปประมาณ 100 เมตร คาดว่าผู้ตายไม่ทราบว่าจุดดังกล่าวน้ำไหลเชี่ยวแรงมากตัดสินใจเข็นรถ จยย.ลุยฝ่ากระแสน้ำไปจนเสียหลักล้มจมน้ำเสียชีวิตต่อมาช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ย. น้ำลดลงสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นอภ.พิมาย นำเจ้าหน้าที่ ปภ. พร้อมเครื่องจักรอุปกรณ์เข้าเก็บกู้ซากพื้นถนนหน้าโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ที่พังเสียหายจากน้ำท่วม พบว่าพื้นผิวยางมะตอยหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ ต้องเร่งซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อเปิดการจราจรให้รถสัญจรได้ พร้อมประสานแขวงทางหลวงนครราชสีมาเพื่อเตรียมการซ่อมแซมอย่างถาวรต่อไป ขณะที่โครงการศูนย์ส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ เขื่อนพิมาย ได้เปิดประตูระบายน้ำด้านปากคลองสายใหญ่ 2 บาน เร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำมูล เพื่อเตรียมรับมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่ใน 1-2 วันนี้นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ รอง ผวจ.นครราชสีมา นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและมอบถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย มีบ้านเรือน ถนน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 3 ตำบล ได้แก่ ต.รังกาใหญ่ ต.ในเมือง และ ต.นิคมสร้างตนเอง รวม 24 หมู่บ้าน 255 หลังคาเรือน กระแสน้ำพัดบ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง ประชาชนจิตอาสาลงพื้นที่ช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือนและเตรียมช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบราชการต่อไปจ.ชัยภูมิ น้ำท่วมยังวิกฤติที่ อ.บำเหน็จณรงค์ ที่รับมวลน้ำไหลมาจาก อ.เทพสถิต ส่งผลให้น้ำในห้วยลำคันฉู เอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร นาข้าว ไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลัง เสียหายกว่า 1,000 ไร่ น้ำยังท่วมถนนสุรนารายณ์ สาย 205 บริเวณทางเข้าหมู่ 14 ต.บ้านเพชร เจ้าหน้าที่ติดป้ายพร้อมสัญญาณไฟกะพริบแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวัง นายไพฑูรย์ ศุภวัชโรบล นายกเทศบาลตำบลบ้านเพชร กล่าวว่า ที่บ้านปากจาบ และบ้านหนองผักแว่น 2 หมู่บ้านของ ต.บ้านเพชร เป็นจุดรับน้ำของทุกปี ทางเทศบาลได้ประชาสัมพันธ์แจ้งชาวบ้านขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง พร้อมจัดเตรียมกระสอบทรายแจกจ่ายให้ชาวบ้านด้วยจ.พิจิตร เกิดเหตุสลด น้ำป่าซัดร่างชาวบ้านหาปลาจมน้ำเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ย. พ.ต.ท.วิเชียร บางสิม สว. (สอบสวน) สภ.วังทรายพูน พร้อมกู้ภัยมังกรพิจิตร ไปตรวจสอบเหตุคนจมน้ำสูญหายบริเวณฝายน้ำล้น บ้านคลองคต หมู่ 6 ต.หนองปล้อง กู้ภัยลงงมค้นหานานกว่า 2 ชม. พบศพนายไพลิน บุญเกิด อายุ 45 ปี สอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ก.ย. ผู้ตายมาวางข่ายดักปลาบริเวณฝายกั้นน้ำ ขณะที่มีน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ลงมาตามคลองคต เกิดพลาดท่าถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดร่างจมหาย ก่อนจะพบเป็นศพจมน้ำเสียชีวิตส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยายังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ที่สถานีวัดน้ำ C2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,071 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อน 16.52 เมตร/รทก. ท้ายเขื่อน 14.07 เมตร/รทก. ระดับน้ำห่างจากตลิ่ง 2.27 เมตร เพิ่มขึ้น 40 ซม. ได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 1,800 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,900 ลบ.ม./วินาที และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง จะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนคร ศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,000 ลบ.ม./วินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไปจ.อ่างทอง ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงต่อเนื่อง ชาวบ้านผู้ที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำคลองโผงเผง สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 3 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง รวมถึงบริเวณนอกคันกั้นแม่น้ำน้อย พื้นที่ ต.บางจักร อ.วิเศษชัยชาญ เช่นเดียวกับ จ.สิงห์บุรี เริ่มได้รับผลกระทบในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ได้แก่ หมู่ 1-3 ต.ชีน้ำร้าย และบางส่วนของ ต.ทับยา ระดับน้ำเริ่มล้นเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน มีชาวบ้านเริ่มทยอยออกมาสร้างเพิงพักอาศัยชั่วคราวตามถนนคันคลองชลประทานกันแล้วจ.พระนครศรีอยุธยา น้ำเริ่มเอ่อล้นท่วมชุมชนริมน้ำในหลายอำเภอ ขณะที่โบราณสถานสำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่างเร่งเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง ที่วัดธรรมาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรร่วมกับทหาร ม.4 พัน. 11 รอ. เร่งติดตั้งบังเกอร์กันน้ำ 2 ชั้นคลุมด้วยผ้าใบและเสริมแนวกระสอบทรายริมน้ำ ส่วนที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร อยู่ระหว่างการติดตั้งบังเกอร์พับได้ คาดว่าจะใช้เวลา 2 วันถึงแล้วเสร็จ ขณะนี้ระดับน้ำบางพื้นที่เหลือเพียง 20-30 ซม.จะถึงแนวตลิ่งแล้ว ทำให้ทุกหน่วยงานต้องเร่งเตรียมรับมือเต็มพิกัดจ.นนทบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 ก.ย. นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด และที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี นำคณะลงพื้นที่ชุมชนมัสยิดท่าอิฐ หมู่ 6 และหมู่ 10 ต.ท่าอิฐ หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มต่ำนับสิบหลังคาเรือนบริเวณใกล้มัสยิดระดับน้ำสูง 15-50 ซม. ชาวบ้านต้องยกข้าวของหนีน้ำขึ้นที่สูงช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ก่อนหน้านี้หน่วยงานราชการประกาศเตือนแล้วว่าช่วงนี้จะมีมวลน้ำเหนือไหลบ่าประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงจนอาจเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้ามัสยิดท่าอิฐจะมีน้ำเอ่อท่วมเกือบทุกปี หากมีน้ำเหนือไหลบ่ามาเพิ่มกว่านี้จะส่งผลต่อพื้นที่ชุมชนอื่นๆด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่