การแย่งชิงอำนาจเป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมือง เมื่อ “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” โดนศาลรัฐธรรมนูญปลดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และทำให้คณะรัฐมนตรีทั้งหมดต้องตกเก้าอี้ยกทีม ย่อมเป็นโอกาสทองให้มีการแข่งกันรวบรวมเสียง สส.ในสภาฯเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ตามระบอบประชาธิปไตยฝ่ายใดรวบรวมเสียง สส.ได้เกินกึ่งหนึ่งของ สส.ทั้งสภา หรือเกินกว่า 246 คนขึ้นไป ก็ได้เป็นรัฐบาลตามกติกาการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หน.พรรคภูมิใจไทย สามารถดึง สส.ฝ่ายรัฐบาลให้ย้ายขั้วมาสนับสนุนตัวเองขึ้นเป็นนายกฯคนใหม่ จึงเป็นวิถีปกติของการเมืองส่วนพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นขั้วรัฐบาลเดิม หากไม่สามารถรวบรวม สส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ ก็ต้องย้ายข้างไปเป็นฝ่ายค้านแทนเรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละท่านประธาน“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าบางครั้งเกมการเมืองก็ยากเกินกว่าจะเข้าใจและทำให้บรรดาแฟนคลับพรรคพลังส้มเสียมู้ดไปตามๆกันเพราะทำใจไม่ได้ ที่พรรคประ ชาชนประกาศจะเทเสียง สส.143 คน ไปแบกหามนายอนุทิน หน.พรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะโดยอุดมการณ์ โดยสามัญ สำนึก และโดยพฤติกรรมที่ผ่านมาพรรคประชาชนสีส้มกับพรรคภูมิใจไทยสีน้ำเงิน เป็นปลาคนละน้ำกันอย่างสิ้นเชิงพรรคประชาชนเป็นพรรคเสรีนิยม ส่วนพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมพรรคประชาชนผลักดันให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เป็นประชา ธิปไตย แต่พรรคภูมิใจไทยตั้งด่านสกัดสุดลิ่มทิ่มประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ชักตะพานแหงนเถ่อมา 2 ปี ก็เพราะพรรคภูมิใจไทย และ สว.สีน้ำเงินที่ผูกขาด อำนาจวุฒิสภาการที่นายอนุทิน ยอมรับเงื่อนไขพรรคประชาชน จะเป็นนายกฯระยะสั้น พร้อมยุบสภาเลือกตั้งใหม่ และจัดทำประชามติรัฐธรรมนูญภายใน 4 เดือนแลกกับการที่พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนนายอนุทินโดยพรรคประชาชนจะไม่ร่วมรัฐบาล และจะไม่ส่งตัวแทนไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแฟนคลับพลังส้มมองว่าพรรคประชาชนอาจเสียค่าโง่เต็มเปาเพราะพรรคภูมิใจไทยจะไม่ยอมเป็นรัฐบาลแค่ 4 เดือนในขณะที่ยังเหลือวีซ่าเป็นรัฐบาลได้อีก 1 ปีและไม่เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะผลักดันให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยเต็มใบ ใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจเผด็จการการอาสาเป็นบันไดให้นายอนุทินก้าวขึ้นเป็นนายกฯคนใหม่ จึงเป็นความไร้เดียงสาของแกนนำพรรคประชาชนข้อสำคัญ ความหวังของพรรคประชาชนจะลงสนามเลือกตั้งใหม่ใน 4 เดือน และจะชนะเลือกตั้งได้ สส.เกินครึ่งสภาฯ ได้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวก็เป็นฝันหวานของคนเป็นโรคเบาหวานเท่านั้นเองเพราะก่อนครบ 4 เดือน สส.แกนนำเบอร์ใหญ่ๆของพรรคประ ชาชน 25 คน จะถูกสอยตกเก้าอี้ กรณีร่วมลงชื่อเสนอแก้ไข ม.112 ซึ่ง ป.ป.ช.กำลังจะส่งฟ้องศาลก่อนสิ้นเดือนกันยายนเมื่อถึงตอนนั้น....สัญญากับพรรคภูมิใจไทยก็หมดอายุใช้งานและสุดท้าย พรรคประชาชนจะต้องซดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในการเมืองลูกกลมๆ ก็เป็นอย่างนี้แหละโยม.แม่ลูกจันทร์คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม